Daily Market Outlook (20 มี.ค.60)

Daily Market Outlook (20 มี.ค.60)

การประชุม G-20 ล้มเหลวที่จะปกป้องการค้าโลกจากนโยบายกีดกันทางการค้า

คาดหุ้นไทยวันนี้อยู่ในกรอบแคบเป็นไปตามตลาด Wall Street ที่ปิดลบและจากการที่ผู้นำ G-20 ล้มเหลวที่จะคงข้อตกลงที่จะรักษาการค้าเสรีไว้ ซึ่งยิ่งเน้นย้ำแนวโน้มนโยบายกีดกันทางการค้าของตลาดโลก ในขณะที่ ทำเนียบขาวเปิดเผยว่าแผนโครงสร้างพื้นฐานน่าจะเสร็จทันในช่วงฤดูร้อนนี้หรือประมาณต้นฤดูใบไม้ร่วง นั่นหมายความว่านักลงทุนยังคงต้องรอต่อไป ปัจจัยภายในประเทศไม่น่าจะมีผลต่อตลาดโดยรวม ซึ่งตลาดไทยน่าจะเป็นไปตามตลาดโลกวันนี้

หุ้นเด่นวันนี้: IRPC (ราคาปิด 5.20 บาท;NR; ราคาเป้าหมาย Bloomberg 5.79 บาท)

เราเลือกบมจ. ไออาร์พีซี เป็นหุ้นเด่นในวันนี้จากมุมมองธุรกิจที่ดีขึ้น รวมไปถึง Valuation และอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่น่าสนใจ นอกจากนี้สัญญาณทางเทคนิคมีความแข็งแรงอย่างมาก โดยเรามองว่ามุมมองของตลาดในเชิงลบต่อราคาน้ำมันดิบโลกในปัจจุบันจะช่วยให้ต้นทุนวัตถุดิบของ IRPC อยู่ในระดับต่ำและช่วยลดค่าใช่จ่ายการสูญเสียภายในจากเชื้อเพลิง นอกจากนี้ราคาขายผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลงเช่นกันจะมากระตุ้นความต้องการใช้ให้สูงขึ้น ส่งผลให้เรามองว่า Spread ราคาผลิตภัณฑ์จะกว้างขึ้น โดยเฉพาะในหน่วยธุรกิจปิโตรเคมี จากระดับปัจจุบันที่ถือว่าสูงใช้ได้แล้วก็ตาม นอกเหนือไปจากนั้นแล้วโครงการ UHV (Upstream Project for Hygiene & Value Added Products) ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะขับเคลื่อนผลการดำเนินงานของ IRPC โดยโครงการดังกล่าวจะช่วยปรับปรุงโรงกลั่นทั้งในส่วนของความสามารถในการกลั่น ค่าการกลั่น รวมไปถึง Utilization rate ให้ดีขึ้น ซึ่งจะเป็นการสร้างฐานกำไรใหม่ให้กับ IRPC ในระยะยาว ด้วยเสถียรภาพของกำไรที่ดีขึ้นและ ROE ที่สูงขึ้น ซึ่งเราประเมินว่า IRPC จะรับรู้ประโยชน์อย่างเต็มที่ในปีนี้เนื่องจากจะเป็นปีแรกที่รับรู้ผลของโครงการทั้งปี จากประมาณการกำไรของ Bloomberg consensus คาด EPS ปีนี้เติบโตเพียง 6% YoYเนื่องจากการหายไปของกำไรจากผลของสต็อกที่รับรู้ไปจำนวนมากเมื่อปีที่แล้ว ประกอบกับการหยุดซ่อมบำรุงโรงงานผลิตในช่วง 1Q60 ก่อนที่การเติบโตของ EPS จะเร่งเป็น 12% ในปี 2561 ภายใต้การผลิตอย่างเต็มกำลัง ราคาหุ้นปัจจุบันยังน่าสนใจโดยซื้อขายที่ PBV ปี 2560 ที่ 1.2 เท่า ซึ่งแม้จะเท่ากับค่าเฉลี่ยย้อนหลังในอดีตทั้ง 5 ปีและ 10 ปี แต่เรามองว่า PBV สมควรที่จะถูก Re-rate ขึ้นไปจากในอดีตด้วยเสถียรภาพของกำไรที่สูงขึ้นและ ROE ที่ดีกว่า นอกจากนี้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลยังน่าสนใจที่ราว 4.2-5.0% ต่อปี ในส่วนของ Price Pattern ของ IRPC ยังคงมีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal โดยเมื่อพิจาณา Price Pattern ของ IRPC มีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 6.70 บาท ทั้งนี้ IRPC มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 4.88 บาท (แนวต้าน: 5.25, 5.30, 5.40; แนวรับ: 5.15, 5.05, 4.98)

ปัจจัยสำคัญ

ประเด็นในประเทศ:

• เตรียมตั้งตลาดกลางข้าวสารเร็วๆ นี้ กรมการค้าภายในของ ก.พาณิชย์กล่าวว่ารัฐบาลจะตัดสินใจเกี่ยวกับตลาดกลางสำหรับข้าวสารให้เป็นช่องทางจัดจำหน่ายสำหรับผู้ค้าและชาวนาภายในกลางปี ด้วยต้นทุน 300-400 ล้านบาทจากงบที่รัฐบาลจะเห็นชอบกลางปี กระทรวงอยู่ระหว่างพิจารณาพื้นที่เหมาะสมด้วยสาธารณูปโภคที่ครบครันบริเวณชานเมืองกรุงเทพเพื่อตั้งตลาด (Bangkok Post)

• วางแผนโรดแมพสำหรับดูแลผู้สูงอายุ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ระบุว่ากระทรวงการคลังกำลังเตรียมโรดแมพเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุและยังจัดตั้งกองทุนเพื่อให้เงินช่วยเหลือดำรงชีพสำหรับผู้สูงอายุที่รายได้น้อย พิจารณาจะเพิ่มเงินช่วยเหลือให้เป็นอย่างน้อย 1,200-1,500 ต่อคนจากปัจจุบันน้อยกว่า 1,000(Bangkok Post)

• กระทรวงพาณิชย์หนุนไทย-ลาว-เวียดนามเซ็น MOU 12 ประเภทธุรกิจ เพื่อรุกการค้าชายแดน-เสริมความแกร่ง CLMVT และเร่งผลักดันมูลค่าการค้าชายแดนให้ไปสู่เป้าหมาย 1.8 ล้านล้านบาท ในปี 2560 (InfoQuest)

• GL (19.00 บ. ขาย ราคาเป้าหมาย AWS ปี 60 16.00 บ.) แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันศุกร์ถึงรายละเอียดเพิ่มเติมของลูกหนี้เงินให้กู้ยืม โดยสำหรับลูกหนี้ในสิงคโปร์ประกอบไปด้วยผู้กู้จำนวน 4 ราย ได้แก่ บริษัท Cougar Pacific Pte. Ltd บริษัท Kuga ReflorestamentoLtda. นาย TepRithivitและบริษัท Pacific Opportunities Holdings S.àr.l. ขณะที่ลูกหนี้ในไซปรัสประกอบไปด้วยผู้กู้จำนวน 4 รายเช่นกัน ได้แก่ บริษัท AREF Holdings Limited บริษัท Adalene Limited บริษัท Bellaven Limited และบริษัท Baguera Limited(SET)ความเห็น: GL มีความพยายามที่จะแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใส อย่างไรก็ตามก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ ขณะนี้ยังคงร่วมมือกันสอบสวนในประเด็นดังกล่าว

ต่างประเทศ:

• รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มประเทศ G20 มีจุดยืนร่วมกันในการประชุมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนแต่ไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นที่เกี่ยวกับการค้าโดยเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงต่อนโยบายกีดกันทางการค้า การประชุมของกลุ่มประเทศ G20 ในเมืองบาเดน-บาเดน เยอรมนี ได้ย้ำถึงสัญญาณที่มีมายาวนานต่อต้านการลดค่าเงินเพื่อการแข่งขันและตลาดอัตราแลกเปลี่ยนที่สับสนวุ่นวาย อย่างไรก็ตาม G20 ไม่ได้เห็นพ้องกันในการรักษาการค้าโลกให้เป็นอย่างเสรีและได้ถอดคำว่า "การต่อต้านการกีดกันทางการค้าทุกรูปแบบ" ออกจากแถลงการณ์ฉบับปีที่แล้ว (Reuters)

• มีเจ้าหน้าที่ผู้กำหนดนโยบายเฟดอย่างน้อย 9 รายจะกล่าวสุนทรพจน์ในสัปดาห์นี้ ในสัปดาห์นี้ จะมีผู้กำหนดนโยบายเฟดไม่ต่ำกว่า 9 รายมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ซึ่งรวมถึงนางเจเน็ต เยลเลน ซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในวันพฤหัสนี้ การให้ความเห็นอย่างระมัดระวังของนางเยลเลนในสัปดาห์ก่อนทำให้นักลงทุนมองว่าแทบไม่มีโอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมของเฟดครั้งหน้าในเดือนพ.ค. และคาดว่ามีโอกาส 50-50 ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. (Reuters)

• ข้อเสนอโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของ Trump จะพร้อมด้วยรายละเอียดในช่วงหน้าร้อนนี้หรือช่วงต้นถดูใบไม้ร่วง อ้างอิงจากคำกล่าวของ Mick Mulvaneyกรรมการงบประมาณแห่งทำเนียบขาวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยข้อเสนอเบื้องต้นที่ยื่นมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้เสนอให้ลดวงเงินในส่วนของการศึกษา การควบคุมดูแลสิ่งแวดล้อม และความช่วยเหลือต่างประเทศ เพื่อนำมาใช้ในกิจกรรมการลงทุนก่อสร้างดังกล่าว (Reuters)

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐขยับลงเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากเฟดมีแนวโน้มชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปี และ 10 ปี ลดลงประมาณ 2 bps (Reuters)

• ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ในวันศุกร์ ยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันหลังจากเฟดมีนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ลดลง 0.1% อยู่ที่ระดับ 100.30ดัชนีฯ ลดลงเกือบ 1%ในสัปดาห์ก่อน และลดลง 1.2% นับแต่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อวันพุธ เทียบกับเงินเยน ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์และล่าสุดอ่อนค่า 0.6% อยู่ที่ระดับ 112.68 เยน (Reuters)

สหรัฐ:

• ดัชนีตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ส่วนการปรับตัวขึ้นของหุ้น Adobe ได้หนุนกลุ่มเทคโนโลยีของดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq(Reuters)

• ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 6 เดือนในเดือนก.พ. ย้ำถึงเศรษฐกิจสหรัฐมีความยืดหยุ่นแม้ว่าการเติบโตเหมือนจะชะลอตัวอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 1/60 เฟดเผยว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.พ. หลังจากมีการปรับตัวขึ้นในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในรอบ 3 ปี (Reuters)

• ความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นตัวในเดือนมี.ค. มหาวิทยาลัยมิชิแกนเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 1.3 ppสู่ระดับ 97.6 ในต้นเดือนมี.ค. (Reuters)

• ความเชื่อมั่นทางธุรกิจในอนาคตเพิ่มขึ้น Conference Board เผยว่าดัชนีชี้นำเศรษฐกิจในเดือนก.พ. ปรับตัวขึ้น 0.6% และแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 10 ปี(Reuters)

ยุโรป:

• ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันศุกร์ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามในช่วงท้ายตลาดมีการอ่อนตัวลงหลังจากผู้กำหนดนโยบายของ ECB ได้พูดถึงประเด็นการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายขึ้นมาอีกครั้ง (Reuters)

• ความเห็นจากหนึ่งในผู้กำหนดนโยบายของ ECB นาย EwaldNowotnyซึ่งเป็นผู้ว่าธนาคารกลางออสเตรียและเป็นหนึ่งในผู้กำหนดนโยบายของ ECB กล่าวว่า ECB จะตัดสินใจหลังจากนี้ว่าจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในช่วงก่อนหรือหลังการสิ้นสุดโปรแกรมการเข้าซื้อพันธบัตร (Reuters)

• การโต้วาทีในศึกเลือกตั้งปธน. ฝรั่งเศสจะมีขึ้นในวันนี้ โดยโพลล์สำรวจความคิดเห็นล่าสุดสะท้อนว่าคะแนนความนิยมของทั้งนาย Emmanuel Macron ซึ่งมีแนวคิดนิยมสายกลาง และนาง Marine Le Pen ซึ่งมีแนวคิดแยกตัวออกจากยูโรโซน มีความคู่คี่สูสีกันมากในการเลือกตั้งรอบแรกที่จะมีขึ้นในวันที่ 23 เม.ษ. นี้ อย่างไรก็ตามโพลล์สำรวจยังคงแสดงให้เห็นว่านาย Macron จะชนะคะแนนเสียงในการเลือกตั้งรอบสองในวันที่ 7 พ.ค. (Reuters)

เอเชีย:

• อาเบะต่อสู้กับเรื่องอื้อฉาว: นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นายชินโซ อาเบะ ซึ่งเป็นผู้นำคนหนึ่งที่บริหารประเทศมาห้าปีกำลังต่อสู้กับเรื่องอื้อฉาวในสองประเด็นจากคำถามเกี่ยวกับความความสัมพันธ์ที่มีกับโรงเรียนชาตินิยมที่ดีลกับใต้ดิน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของเขาต้องลาออก เรื่องอื้อฉาวนี้เป็นวิกฤติที่ร้ายแรงที่สุดสำหรับอาเบะนับตั้งแต่ที่เขากลับมาทำงานในปี 2555 ดูเหมือนว่าจะทำให้อัตราการสนับสนุนของเขาลดลงไปอีกประมาณ 50% (Reuters)

• ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีความร้อนสูงในจีนพุ่งสูงขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์: หลังจากที่ราคาปรับตัวลดลงในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาแต่ขณะนี้ราคาบ้านใหม่โดยเฉลี่ยใน 70 เมืองใหญ่ ๆ พุ่งสูงขึ้น แม้ว่ารัฐบาลจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยขึ้นเพื่อลดการเก็งกำไร เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านี้ราคาบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือนมกราคมที่เพิ่มขึ้น 0.2% (Reuters)

สินค้าโภคภัณฑ์:

• น้ำมันดิบคงที่วันศุกร์ ปิดรายสัปดาห์บวกเล็กน้อย แต่นักเก็งกำไรลดสถานะซื้อลงไปอย่างแรงเพราะความกังวลว่าการลดกำลังการผลิตของ OPEC ไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำมันล้นเกินได้ น้ำมันดิบ Brent บวก 2 เซนต์ปิด 51.76 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบสหรัฐบวก 3 เซนต์หรือ ปิด 48.78 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ราคาอ้างอิงทั้งสองบวกไป 0.8% สำหรับสัปดาห์นี้ (Reuters)

• ราคาทองคำปรับตัวขึ้นวันศุกร์ เป็นบวกรายสัปดาห์ครั้งแรกในรอบสามสัปดาห์เพราะ Fed ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยทำให้ดอลลาร์แตะจุดต่ำสุดรอบ 5 สัปดาห์ ราคาทองคำตลาดจรปิดบวก 0.2% ที่ 1,229.40 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทำให้รายสัปดาห์บวกไป 2.1%(Reuters)