‘ทีเอชเอ’เล็งหารือผู้ว่ากทม.จี้โรงแรมจดทะเบียนถูกต้อง

‘ทีเอชเอ’เล็งหารือผู้ว่ากทม.จี้โรงแรมจดทะเบียนถูกต้อง

ทีเอชเอ เล็งขอความร่วมมือ กทม.เดินเครื่องกระทุ้งธุรกิจโรงแรมในพื้นที่จดทะเบียนถูกต้อง หลังพบจังหวัดท่องเที่ยวเริ่มรุกหนัก หวังดึงห้องพักผิดกฎหมายเข้าระบบ

นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวว่า หลังจากที่กระทรวงมหาดไทยแก้กฎกระทรวงว่าด้วยข้อบังคับในการจดทะเบียนธุรกิจโรงแรม โดยเปิดโอกาสให้ธุรกิจที่ไม่เข้าเกณฑ์แต่มีเจตนาทำถูกกฎหมาย สามารถมาจดทะเบียนได้ภายในระยะเวลา 5 ปีนั้น

ขณะนี้จังหวัดท่องเที่ยวหลัก ได้แก่ ภูเก็ต มีความคืบหน้าในการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมให้ธุรกิจเข้ามาจนเห็นจำนวนโรงแรมถูกกฎหมายเพิ่มขึ้น ขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐที่ทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ทำงานคู่ขนานด้านการจับกุมผู้ประกอบการที่ยังทำผิด ซึ่งเป็นการตื่นตัวที่ดี หลังจากที่กระทรวงมหาดไทยส่งหนังสือไปให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ได้ทราบนโยบายดังกล่าวไปแล้วตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ได้หารือกับนายกทีเอชเอ ไปแล้วให้ขอนัดหมายประชุมกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากที่ผ่านมามีการปรับเปลี่ยนผู้บริหาร จึงต้องการเข้าไปตอกย้ำในประเด็นนี้ให้รับทราบอีกครั้ง เพื่อให้เกิดการดำเนินการกระตุ้นให้โรงแรมที่ยังไม่ถูกต้อง รีบใช้สิทธิที่กระทรวงมหาดไทยให้ในครั้งนี้ตามเวลาที่กำหนด รวมถึงให้เข้มงวดในการตรวจตราและจับกุมโรงแรมที่ยังไม่ถูกกฎหมายด้วย

“หลังจากมีการแก้ไขกฎกระทรวง หลายจังหวัดตื่นตัวมากขึ้นในการนำโรงแรมเข้าสู่ระบบ แต่มีบางพื้นที่ๆ ยังทำงานได้ล่าช้ากว่า ซึ่งก็เป็นไปตามศักยภาพพื้นฐาน ดังนั้น ทีเอชเอ จึงจะเข้าไปแสดงความพร้อมในพื้นที่หลักๆ เพื่อช่วยเหลือการทำงานตรวจสอบและให้ความรู้ผู้ประกอบการ เพื่อการมาจดทะเบียนให้ถูกต้องมากขึ้น”

นายวีระชัย ปรานวีระไพบูลย์ ประธานกรรมการผู้จัดการบริษัท ดิ แอทติจูด คลับ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันมีโรงแรมกว่า 1,000 แห่งในจังหวัดภูเก็ตที่อยู่ระหว่างการยื่นจดทะเบียนโรงแรมให้ถูกต้อง ซึ่งด้วยจำนวนดังกล่าวที่สูงกว่าคาดการณ์ว่าจะมีเพียง 900 แห่งที่พร้อมเข้าสู่ระบบ ทำให้คณะกรรมการตรวจสอบ และนายทะเบียนต้องทยอยดำเนินงานเพื่อออกใบอนุญาต เนื่องจากต้องพิจารณาให้แน่นอนว่าตรงตามกฎเกณฑ์ด้านความปลอดภัย และสุขอนามัยต่างๆ ตามที่กำหนดไว้

สำหรับธุรกิจในเครือดิ แอทติจูด คลับ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างจดทะเบียนด้วย ได้แก่ ทู วิลล่าส์ ฮอลิเดย์ ซึ่งเป็นพูลวิลล่า 70 หลัง ให้บริการกระจายตัวใน 3 ทำเลของภูเก็ต เพื่อในอนาคตจะได้ดำเนินการรับลูกค้ารายวันให้ถูกต้องตามกฎหมายด้วย

ทั้งนี้ เชื่อว่าแนวโน้มการตื่นตัวดังกล่าว เกิดขึ้นเนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต้องการทำให้ธุรกิจของตัวเองถูกกฎหมายอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาติดปัญหาในเชิงโครงสร้างที่อยู่นอกเหนือเกณฑ์ที่กฎหมายระบุ ซึ่งถือเป็นอุปสรรคอย่างเดียวที่เหลืออยู่ เพราะหากพิจารณาในแง่การตลาด ธุรกิจโรงแรมภูเก็ตมีการเติบโตที่ดีมากตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา คาดว่าอัตราเข้าพักเฉลี่ยทั้งปีจะสูงถึง 75-80% โดยเฉพาะช่วงไตรมาสแรก อัตราเข้าพักสูงถึง 95%