ชี้ 'กสทช.' เดินถูกทางหลังดึง 'สตง.' ร่วมผ่าทางตัน

ชี้ 'กสทช.' เดินถูกทางหลังดึง 'สตง.' ร่วมผ่าทางตัน

วงการสื่อสารขานรับ มติบอร์ด กทค. ผ่าทางตันเงินเยียวยามือถือ หลัง "กสทช." ดึง "สตง." ตั้งคณะทำงานประเมินรายได้ ตัดปัญหาคาราคาซัง-เอื้อประโยชน์เอกชน

แหล่งข่าวในวงการโทรคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ในคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติให้สำนักงาน กสทช. จัดส่งข้อมูลให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อตรวจสอบรายได้จากการใช้งานคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ ในช่วงมาตรการเยียวยาตามประกาศ กสทช.เมื่อปี 2556 ที่ยังไม่มีข้อยุตินั้นว่าถือเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพราะในส่วนของบอร์ดกทค.นั้นไม่ว่าจะเคาะหนทางเลือกใดออกมายากจะหาข้อยุติได้ และสุดท้ายกรณีพิพาทเรื่องรายได้ช่วงมาตรการเยียวยาดังกล่าวจะต้องมีการฟ้องร้องถึงศาลฎีกา

"ที่ผ่านมาแม้สำนักงาน กสทช.จะตั้งคณะทำงานกลั่นกรองขึ้นพิจารณาข้ออุทธรณ์ของบริษัททรูมูฟ จำกัดที่ยื่นอุทธรณ์ไม่เห็นด้วยกับผลสรุปของคณะทำงานติดตามตรวจสอบรายได้ โดยบริษัทเอกชนระบุว่ามีการประเมินรายได้สูงเกินไป และบริษัทเป็นเพียงผู้รับจ้างบริหารในช่วงมาตรการเยียวยาเท่านั้น ทั้งรายได้ที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้มีกำไรจากการประกอบการจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้บริษัทจ่ายเงินรายได้เข้ารัฐ”

ขณะที่ตัวเลขที่คณะทำงานกลั่นกรองที่สำนักงาน กสทช.แต่งตั้งขึ้นซึ่งสรุปตัวเลขออกมาอีกตัวเลขหนึ่ง จึงเป็นเหตุให้บอร์ด กทค.ไม่กล้าชี้ขาดตัวเลขรายได้นำส่งรัฐเพราะไม่ว่าจะเคาะทางเลือกใดลงไปก็ไม่มีทางยุติ ดังนั้นการที่เลขาธิการ กสทช.เสนอให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) จัดตั้งคณะทำงานขึ้นตรวจสอบและประเมินตัวเลขดังกล่าวโดยตรงจึงถือเป็นทางออกที่ดี และน่าจะทำให้ทุกฝ่ายยอมรับได้ เพราะไม่ว่าจะสรุปตัวเลขออกมาเท่าใดทั้งบอร์ดกทค.และสำนักงาน กสทช.ย่อมมีความเบาใจที่จะออกคำสั่งทางปกครองให้บริษัทเอกชนปฏิบัติได้ทันที โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกร้องได้อีก เพราะหน่วยงาน สตง.นั้นถือเป็นหน่วยงานกลางทำหน้าที่ตรวจสอบเงินแผ่นดินอยู่แล้ว”

ในส่วนกรณีเงินรายได้จากการใช้งานคลื่นความถี่ 900 MHz ที่กทค.มีคำสั่งให้บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอสต้องนำส่งเงินรายได้เข้ารัฐเป็นจำนวน 7,221 ล้านบาทนั้นแหล่งข่าวกล่าวว่า ท้ายที่สุดแล้วต้องดำเนินการบนพื้นฐานเดียวกัน เพราะหลังจากบอร์ดกทค.มีมติไม่รับอุทธรณ์ข้อเรียกร้องของบริษัท แต่ให้บริษัทส่งข้อมูลกลับมาให้กทค.อีกครั้งนั้นเชื่อแน่ว่าท้ายที่สุดคงหนีไม่พ้นจะกลายเป็นข้อพิพาทที่ต้องว่ากันถึงชั้นศาลอีกคดีแน่ ซึ่หากคณะทำงานของ สตง.จะขยายการพิจารณาลงมาดูกรณีเงินรายได้ในช่วงมาตรการเยียวยาบนคลื่น 900เม็กกะเฮิร์ตซ์ ด้วยเชื่อแน่ว่าทุกฝ่ายจะยอมรับและได้ข้อยุติโดยเร็ววันเช่นกัน

สำหรับการจัดเก็บรายได้จากการใช้งานคลื่นความถี่ 1800 และ 900 MHz ในช่วงมาตรการเยียวยาของ กสทช.เป็นกรณีคล้ายกันหากมีการฟ้องร้องในศาลก็ไม่รู้จะต้องใช้เวลาทอดยาวไปอีกกี่ปี และยังต้องลุ้นด้วยว่าท้ายที่สุดแล้วรัฐหรือ กสทช.จะชนะคดีหรือไม่ หากชนะก็ดีไปแต่หากพ่ายคดีพิพาทก็อาจงานเข้าอีก

ดังนั้นการดึงหน่วยงาน สตง.เข้ามาร่วมแก้ไขถึงต้นตอของปัญหาจึงเป็นหนทางออกที่เหมาะสมที่สุดและยังทำให้รัฐมีโอกาสได้เม็ดเงินรายได้เข้ารัฐได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องไปรีดภาษีด้านอื่นอีกด้วย