'กรุ๊ปลีส' ขึ้นแชมป์วอลุ่มทะลัก

ตลาดหุ้นไทยผันผวนและดัชนีปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หุ้นบริษัทกรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) GL เป็นหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างคึกคัก แม้ว่าจะมีปัจจัยเสี่ยงในเชิงพื้นฐานกรณีเริ่มต้นจากประเด็นที่ผู้สอบบัญชีตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการให้กู้ยืมต่อบริษัทย่อยในสิงคโปร์ และบริษัทย่อยที่สิงคโปร์ได้นำเงินไปให้กู้ยืมต่อแก่ผู้กู้ 2 กลุ่มในเกาะไซปรัส (ถือหุ้นโดยครอบครัวนักธุรกิจชาวกัมพูชา) และสิงคโปร์ (ถือหุ้นโดยครอบครัวนักธุรกิจชาวญี่ปุ่น) รวมถึงข้อสงสัยในประเด็นอื่นๆ ที่เกิดขึ้นหลายๆ ประเด็น และบริษัทจะพยายามชี้แจงผ่านตลาดหลักทรัพย์

หุ้นกรุ๊ปลีส เป็นหุ้นขนาดกลางถึงเล็ก ซึ่งมีการซื้อขายคึกคักจนติดอันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขาย 1 ใน 10 ของตลาดหุ้นไทยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อสำรวจข้อมูลหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 10 อันดับแรกในตลาดหุ้นไทย ตั้งแต่วันที่ 1-16 มี.ค.2560 พบว่า หุ้นกรุ๊ปลีส เป็นหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดอันดับหนึ่ง และแซงหน้าหุ้นขนาดใหญ่ทุกตัว รวมถึงมีมูลค่าการซื้อขายสูงกว่าหุ้นใหญ่เกือบ 2 เท่าตัว

หุ้นกรุ๊ปลีส มีมูลค่าการซื้อขาย รวมอยู่ที่ 4.72 หมื่นล้านบาท มีปริมาณหุ้นที่ซื้อขาย 1.84 พันล้านหุ้นขณะที่ราคาหุ้นปรับลดลง 70.51% รองลงมาเป็นหุ้นปตท. (PTT) มีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท ปริมาณหุ้นที่ซื้อขายกันอยู่ที่ 63.52 ล้านหุ้น ราคาหุ้นไม่เปลี่ยนแปลง หุ้นแอดวานซ์ (ADVANC) มีมูลค่าการซื้อขาย 1.42 ล้านบาท ปริมาณการซื้อขายหุ้น 83.26 ล้านหุ้น ส่วนราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 4.79% หุ้น

หุ้นบ้านปู (BANPU) มูลค่าการซื้อขาย 1.11 หมื่นล้านบาทปริมาณหุ้นที่ซื้อขายกัน 568 ล้านหุ้น ราคาหุ้นลดลง 0.51% หุ้นปูนซิเมนต์ไทย (SCC) มูลค่าการซื้อขาย 1.1 หมื่นล้านบาท ปริมาณหุ้นซื้อขายอยู่ที่ 21 ล้านหุ้น ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 3.01% หุ้นทรู (TRUE) มูลค่าการซื้อขาย 1.09 หมื่นล้านบาท ปริมาณหุ้นที่ซื้อขายอยู่ที่ 1.71 พันล้านหุ้น

 ขณะที่ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้น 0.52% หุ้นแบงก์กสิกรไทย (KBANK) มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 1.06 หมื่นล้านบาท ปริมาณหุ้นที่ซื้อขาย 274 ล้านหุ้น ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 0.52% และหุ้นท่าอากาศยานไทย (AOT) มูลค่าการซื้อขาย 1.05 หมื่นล้านบาท ปริมาณหุ้นซื้อขาย 175 ล้านหุ้น ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 1.29%

นอกจากนี้จะเห็นว่า เมื่อหุ้นกรุ๊ปลีส มีการซื้อขายที่หวือหวาทำให้ส่งผลกระทบไปถึงการซื้อขายในตราสารอนุพันธ์ที่มีการอ้างอิงหุ้นกรุ๊ปลีส ซึ่งผู้ออกตราสารดังกล่าวก็ออกมาเตือนให้ระมัดระวังการซื้อขายในตราสารดังกล่าวทุกบริษัท 

อย่างไรก็ตาม ในเชิงพื้นฐานหุ้นกรุ๊ปลีสอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง และมีความไม่แน่นอนสูง ดังนั้นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จึงได้แนะนำให้หลีกเลี่ยงการลงทุนไปก่อน เพราะเกรงว่า หากนักลงทุนเข้าไปลงทุนจะเกิดความเสียหาย ซึ่งราคาหุ้นที่ปรับขึ้นลงแรง ก็สะท้อนให้เห็นความเสี่ยงของการเข้าไปลงทุนอยู่แล้ว

บล.ทรีนีตี้เคยระบุว่าเมื่อบริษัทกรุ๊ปลีสได้ออกประกาศชี้แจงตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งคาดว่าเป็นคำชี้แจงที่ออกมาภายหลังการพูดคุยกับตลาดฯ เรียบร้อยแล้ว จึงมองว่าตลาดยอมรับคำชี้แจงดังกล่าว ซึ่งจากเดิมใน 4 กรณีที่ฝ่ายวิเคราะห์ด้วย Sensitivity กรณีนี้ถือว่าเข้าข่ายกรณีที่ 1 คือบริษัทกรุ๊ปลีส ยังไม่จำเป็นต้องตั้งสำรองเพิ่มเติม ทำให้ยังไม่ปรับประมาณการต่างๆ จากประมาณการปัจจุบัน การประเมินด้านพื้นฐาน แต่ในแง่ของคำแนะนำฝ่ายวิจัยแนะนำให้นักลงทุนใช้วิจารณญาณในประเด็นอื่นๆ ประกอบการตัดสินใจในการลงทุน