KSL - ซื้อ

KSL - ซื้อ

คาดกำไรไตรมาส 2/60 เลิศหรูมาก

สูงกว่าคาด

KSL รายงานกำไรสุทธิ 453 ล้านบาทสำหรับไตรมาส 1/60 (1 พ.ย. 59- 31 ม.ค. 60) เพิ่มขึ้น 27% YoY แต่ลดลง 44% QoQ ถ้าไม่รวมรายการพิเศษได้แก่ เงินที่ขอเรียกคืนจากคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล และ กองทุนอ้อยและน้ำตาลจำนวน 124 ล้านบาท (หลังหักภาษี) กำไรหลักในไตรมาสนี้อยู่ที่ 329 ล้านบาท ลดลง 12% YoY หรือพลิกจากขาดทุนหลัก 101 ล้านบาทในไตรมาส 4/59 เงินที่ขอเรียกคืนดังกล่าวเป็นผลจากคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดที่ตัดสินให้ KSL ชนะคดียื่นฟ้องคณะกรรมการ และกองทุนอ้อยและ น้ำ ตา ลให้คืน เงินดัง กล่าว ที่ คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลสั่งให้ KSL ทำการส่งเงินเข้ากองทุนเพื่อ รักษาเสถียรภาพอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายในช่วงฤดูกาลผลิตปี
2542-2546 ศาลปกครองสูงสุดได้ตัดสินว่ากองทุนอ้อยและน้ำตาลไม่มี สิทธิที่จะรับเงินดังกล่าวตามพรบ.อ้อยและน้ำตาลทรายพ.ศ.2527

ประเด็นหลักผลประกอบการ

กำไรสุทธิและกำไรหลักสูงกว่าคาด 26% และ 57% ตามลำดับ เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าคาด ซึ่งเป็นผลมาจากการควบคุม ต้นทุนการดำเนินงาน (ต้นทุนบุคลากร ต้นทุนค่าเสื่อมราคาและต้นทุนค่าขนส่งที่ลดลง) กำไรหลักที่ลดลง YoY สาเหตุหลักมาจากรายได้ธุรกิจน้ำตาลที่ลดลง ซึ่งกลบผลกระทบของอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้น (จาก 29.7% ในไตรมาส 1/59 ไปเป็น 33.3% ในไตรมาส 1/60) การลดลงของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารและภาระดอกเบี้ยจ่าย และ ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด ในขณะที่กำไรหลักเติบโตก้าวกระโดด QoQ เป็นผลจากอัตรากำไรขั้นต้นที่พลิกกลับมาฟื้นตัว (จาก 15.2% ในไตรมาส 4/59) เนื่องจากการพลิกกลั้บมามีกำไร ของธุรกิจไฟฟ้า


รายได้รวมลดลง 24% YoY และ 38% QoQ รายได้จากธุรกิจน้ำตาลลดลง 32% YoY และ 50% QoQ เนื่องจากปริมาณยอดส่งออกน้ำตาลที่ลดลงอย่างมาก (เหลือ 1.06 แสนตัน ลดลง 43% YoY และ 59% QoQ) ซึ่งเป็นผลมาจากยอดสั่งซื้อของลูกค้าที่ล่าช้าออกไป แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ราคาขายน้ำตาลเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมากถึง 22% YoY และ 20% QoQ มาอยู่ที่ 18,090 บาทต่อตันในไตรมาส 1/60 เนื่องจากการปรับราคาขายเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำ ตาลตลาดโลกที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะเดียวกันรายได้จากธุรกิจเอทานอลเพิ่มขึ้น 5% YoY และ QoQ เนื่องจากปริมาณยอดขายเอทานอลที่เพิ่มขึ้น (23.17 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 8% YoY และ 6% QoQ) เราเริ่มเห็นราคาขายเอทานอลฟื้นตัวโดยปรับเพิ่มขึ้น 4% QoQ มาอยู่ที่ 24.19 บาท/ลิตรในไตรมาส 1/60 รายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 4% YoY (เนื่องจากฐานที่ต่ำมากในไตรมาส 1/59 ซึ่งเป็นผลมาจากเครื่องจักรมีปัญหาส่งผลให้ปริมาณขายไฟลดลง) แต่ลดลง 3% QoQ (เนื่องจากอัตราค่าไฟที่ยังคงลดลง)

แนวโน้ม

เราคาดว่าบริษัทจะทำการบันทึกเงินที่ขอเรียกคืนจากคณะกรรมการและกองทุนอ้อยและน้ำตาลอีกก้อนหนึ่งในไตรมาส 2/60 แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม หากไม่รวมรายการพิเศษดังกล่าวก้อนนี้ เราคาดกำไรหลักไตรมาส 2/60 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นก้าวกระโดด 144% YoY และ 16% QoQ มาอยู่ที่ 380 ล้านบาทโดยมีปัจจัยหนุนจากธุรกิจน้ำตาล (ราคาส่งออกน้ำตาลล็อกล่วงหน้าที่เพิ่มสูงขึ้น และปริมาณยอดส่งออกที่กลับมาฟื้นตัว QoQ) และธุรกิจเอทานอล (ปริมาณยอดขายและราคาขายเอทานอลที่เพิ่มสูงขึ้น) เราแนะนำให้นักลงทุนสะสมหุ้น KSL ก่อนที่ผลประกอบการไตรมาส 2/60 ซึ่งคาดว่าจะออกมาดีมาก

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป

เรายังคงประมาณการกำไรหลักปี 2560 ไว้เท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่ทำการปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2560 เพิ่มขึ้นอีก 17% (เป็น 1.72 พันล้านบาท) เพื่อสะท้อนเงินที่ขอเรียกคืนจาก คณะกรรมการและกองทุนอ้อยและน้ำตาลดังที่ได้กล่าวข้างต้นซึ่งเราประเมินไว้ที่จำนวน 255 ล้านบาท


คำแนะนำ

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” หนุนโดยกำไรปี 2560 ที่มีแนวโน้มพลิกฟื้นกลับมาจากธุรกิจน้ำตาลที่เป็นช่วงขาขึ้น และการฟื้นตัวของธุรกิจเอทานอล