ยกคำพิพากษาซื้อขายหุ้นชินฯไม่สุจริตต้องเก็บภาษี

ยกคำพิพากษาซื้อขายหุ้นชินฯไม่สุจริตต้องเก็บภาษี

"วิษณุ" รับทราบ "สตง." ชง "สรรพากร" รีดภาษี 60 นักการเมือง มาตรฐานเดียว "ภาษีหุ้นชินคอร์ป" ลั่นไม่หลวมตัวงัด ม.44 มาใช้

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีสำนักงานการตรวจแผ่นดิน (สตง.) เสนอกรมสรรพากรเรียกเก็บภาษี 60 นักการเมืองในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า วันที่มีการประชุมร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องภาษีหุ้นชินคอร์ปอเรชั่น ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สตง.ได้แจ้งว่าจะดำเนินการในทุกเรื่องที่มีลักษณะอย่างเดียวกัน ตนจึงรับทราบ และพอใจว่าถ้าจะดำเนินการให้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับกรณีภาษีชินคอร์ป แต่ไม่ทราบว่ามีกี่คดี เป็นไปตามจำนวนที่สตง.ระบุไว้หรือไม่ ส่วนบรรทัดฐานว่าใครถูกหรือผิด ใครแพ้ชนะไว้รอคำวินิจฉัยจากศาล

ผู้สื่อข่าวถามว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สามารถดำเนินการอะไรควบคู่ไปกับการเรียกภาษีดังกล่าวได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ยังไม่ถึงขั้นนั้น วันนี้เรากำลังพูดว่าสตง.กำลังจะส่งเรื่องให้กรมสรรพากรดำเนินการเท่านั้นเอง ส่วนที่มีการระบุว่าสตง.ได้ส่งให้สรรพากรดำเนินการตั้งแต่ปีที่แล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ นั้นตนไม่ทราบ ต้องถามสตง.อย่างไรก็ตาม นอกจากกระบวนการที่สตง.จะดำเนินการได้แล้วยังมีหน่วยงานอื่นที่สามารถดำเนินการควบคู่ไปได้ แต่ขอไม่เปิดเผยรายละเอียด เพราะบางเรื่องถึงทำควบคู่ไป แต่สุดท้ายทำไม่ได้ ส่วนอะไรที่ทำได้ถ้าทุกคนมีหน้าที่ก็ทำไป

"วิษณุ"ชี้เดินหน้ารีดภาษีตามกม.จะหยิบมาต่อรองปรองดองไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า การดำเนินการเก็บภาษีของรัฐบาลอาจมีผลกระทบต่อการเดินหน้าสร้างความปรองดองของรัฐบาล นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องการบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย จึงนำสิ่งนี้มาเป็นเรื่องต่อรองไม่ได้ ถ้าจะดำเนินการไม่ได้คือดำเนินการไม่ได้ แต่ถ้าผิดแล้วดำเนินการได้แล้วยังเอามาต่อรองมันคงไม่เกี่ยวกับเรื่องปรองดอง เนื่องจากการปรองดองผู้เกี่ยวข้องอธิบายแล้วว่าอยู่บนหลักการไม่อภัยโทษหรือนิรโทษกรรม

"วิษณุ"เผยเหตุรัฐบาลไม่หลวมตัวงัด "ม.44"

ต่อข้อถามที่ว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดรัฐบาลถึงทำเรื่องดังกล่าวในช่วงเวลานี้ นายวิษณุ กล่าวว่า การที่สาธารณชนตั้งข้อสังเกตรัฐบาลเพิกเฉยไม่ละเลยใส่ใจไม่ดำเนินการ เรารู้เรื่องนี้มีอยู่ 2 ทางคือ 1.ถ้าเฉยและปล่อยให้กระบวนการเดินไป รัฐบาลจะถูกมองว่าเพิกเฉยเตรียมจะปล่อยให้หมดอายุความ ช่วยเหลือกัน อาจถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และ2.พอรัฐบาลดำเนินการ ก็รู้ตั้งแต่ต้นว่าถ้าเลือกดำเนินการ จะบอกว่ารัฐบาลไล่บี้จี้อยู่คนเดียว เป็นการกลั่นแกล้ง เราจึงไม่หลวมตัวออกมาตรา 44 แต่ให้ดำเนินการตามกฎหมายปกติ

"วิษณุ"ยกคำพิพากษา ซื้อขายหุ้นชินฯไม่สุจริต ยันต้องเก็บภาษี

นายวิษณุ กล่าวว่า นายกฯเคยให้ข้อสังเกตเรื่องการดำเนินการดังกล่าว ให้ดูว่าการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปฯ ดำเนินการสุจริตหรือไม่นั้น ถูกต้องเราตั้งต้นตามข้อสังเกตของนายกฯมาตั้งแต่ต้น ถ้าพบว่าซื้อขายอย่างสุจริตก็หยุด ไม่ต้องไปทำอะไรต่อ แต่ถ้าพบว่าไม่สุจริตจำเป็นต้องทำตามที่สังคมเรียกร้องว่าถ้าไม่สุจริตจะปล่อยให้เขาไม่ชำระภาษีหรือ คำตอบว่าสุจริตหรือไม่ ได้คำตอบจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้วว่าไม่สุจริต จึงเป็นที่มาของการยึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้านบาท ดังนั้นเมื่อตั้งต้นว่าไม่สุจริต จึงต้องเสียภาษี ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับการยึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้านบาท ต้องแยกส่วนกันระหว่างการกระทำความผิดกับการเสียภาษี จึงต้องดำเนินการ ไม่อย่างนั้นจะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

แย้มเก็บภาษีคน "ตระกูลชินวัตร" ได้ถ้าพบยักย้ายถ่ายเทก่อนศาลตัดสิน

ต่อข้อถามที่ว่า หากศาลพิพากษาให้นายทักษิณจ่ายภาษี จะไม่สามารถเรียกเก็บกับคนในครอบครัวได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เรื่องภาษีเป็นเรื่องของใครของมัน เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่ามีการยักย้ายถ่ายเท ทำนิติกรรมอำพรางก่อนถูกฟ้อง หรือพิสูจน์ว่าทรัพย์สินที่อยู่กับคนอื่นมันไม่ใช่ของคนอื่น เหมือนคดีล้มละลายที่คน ๆ นั้นไม่มีทรัพย์จะใช้หนี้ แต่ความจริงลูกและภรรยามี ถึงจะเป็นคนละส่วนกัน แต่หากพิสูจน์ได้ว่าทรัพย์สินส่วนดังกล่าวเป็นของบุคคลล้มละลายที่ยักย้ายถ่ายเทจำหน่ายถ่ายโอนก่อนมีการถูกฟ้องล้มละลายภายใน 1 ปีหรือภายหลังจากนั้น เมื่อพิสูจน์ได้ก็เอาทรัพย์สินส่วนนั้นกลับมาได้

ต่อข้อถามว่า หากทรัพย์สินของนายทักษิณอยู่ในต่างประเทศทั้งหมดจะดำเนินการอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า อาจจะยาก ดังนั้น จึงมีการพูดกันไม่นานมานี้เมื่อครั้งธนาคารโลกมาพบตน ซึ่งหารือกันในเรื่องอื่น แต่มีการแนะนำประเทศไทยว่าควรดำเนินการแก้ไขกฎหมายล้มละลายให้มีการบังคับคดีกรณีมีทรัพย์สินในต่างประเทศได้ อย่างไรก็ตาม การดำเนินการตรวจสอบผู้ที่ถือทรัพย์สินแทนนายทักษิณมีวิธีการอยู่ แต่ยังไม่ขอเปิดเผย

"วิษณุ"เผยแม้วอุทธรณ์ได้ถึงชั้นฎีกาแย้มมีช่องเรียกเก็บ แม้ขายในตลาดหุ้น

นายวิษณุ กล่าวว่า นายทักษิณสามารถอุทธรณ์การประเมินภาษีได้ภายใน 30 วัน จากนั้นหากศาลตัดสินแล้วยังไม่พอใจ ยังสามารถอุทธรณ์ในชั้นฎีกาได้อีก โดยแม้ตัวจะอยู่ต่างประเทศ สามารถตั้งทนายเป็นตัวแทนมายื่นอุทธรณ์ได้ เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมปกติของเมืองไทยไม่ได้ต่ำกว่ามาตรฐานไปกว่ากระบวนการยุติธรรมต่างประเทศ

"ภาษีที่จะดำเนินการเรียกเก็บมาจากส่วนที่ได้จากการยึดทรัพย์ไปแล้ว 4.6 หมื่นล้านบาท หรือจากธุรกรรมที่มีการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์คือ ภาษีที่ควรจะเสียถ้าต้องเสีย ถ้าคำตอบคือ ไม่ต้องเสียก็ไม่ต้องไปพูดอะไรอย่างอื่นแล้ว แต่ถามว่าควรหรือไม่ควรจะเสียก็แล้วแต่ว่าศาลจะว่าอย่างไรในเมื่อสตง.บอกว่าควร ตามข้อ 2 (23) ของกฎกระทรวงฉบับที่ 26 ออกตามความในประมวลรัษฎากร เขาบอกไว้ว่าการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไม่ต้องเสียภาษี แต่ตรงนี้เองที่พบว่ามีช่องทางที่จะเรียกได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวให้สรรพากรไปพิจารณา เผื่อจะสามารถเรียกเก็บภาษีได้ทั้ง 2 ช่วงคือ ตอนที่แอมเพิล ริช ขายหุ้นให้กับนายพานทองแท้และน.ส.พินทองทา หุ้นละ 1 บาท กับช่วงที่ 2 คือ ตอนที่นายพานทองแท้และน.ส.พินทองทา ขายหุ้นให้กับเทมาเส็ก หุ้นละ 49 บาท" นายวิษณุ กล่าว

"วิษณุ"เห็นใจ"ครอบครัวชินวัตร"

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนายพานทองแท้ออกมาโพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัว ตัดพ้อว่ารัฐบาลจะเอาอย่างไรกับครอบครัวตนเองอีก นายวิษณุ กล่าวว่า "ก็เห็นใจ อกเขาอกเรา ลองคิดถึงเราเป็นเขาดู"