ลุ้น 'อาปิโก้' รับส่วนต่างราคาหุ้นซื้อคืน

ลุ้น 'อาปิโก้' รับส่วนต่างราคาหุ้นซื้อคืน

ลุ้นอาปิโก้ "รับส่วนต่าง" ราคาหุ้นซื้อคืน

เมื่อบริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) AH ประกาศมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทวานนี้ (15 มี.ค.) เรื่องโครงการจำหน่ายหุ้นซื้อคืน โดยคณะกรรมการบริษัทเลือกที่จะขายคืนในตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้น จึงเป็นปัจจัยลบที่จะกดดันราคาหุ้นทันที แม้คณะกรรมการเลือกที่จะประกาศจ่ายเงินปันผลคืนให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.33 บาทต่อหุ้น และขึ้นเครื่องหมายรับสิทธิ 15 มี.ค.2560 ทำให้ราคาหุ้นปรับลดลง สวนภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทย

สำหรับโครงการจำหน่ายหุ้นซื้อคืนเกิดขึ้นเมื่อระหว่างวันที่ 15 มี.ค.2559-13 ก.ย.2559 โดยกำหนดหุ้นที่จะซื้อคืนในโครงการจำนวน 14.50 ล้านหุ้น แต่สามารถซื้อคืนได้เพียง 6 ล้านหุ้น โดยใช้เงินลงทุน 75.711 ล้านบาท และมีราคาสูงสุด 15.40 บาท ราคาต่ำสุดที่ 9 บาท ทั้งนี้หากพิจารณาราคาต้นทุนที่เฉลี่ยน่าจะไม่เกิน 11 บาทต่อหุ้น ดังนั้น หากนำมาเปรียบเทียบกับราคาในกระดานหลักที่ซื้อขายกันในเดือนมี.ค.2560 ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 17 บาท เชื่อว่าการขายหุ้นซื้อคืนในครั้งนี้ น่าจะสามารถสร้างกำไรส่วนต่างได้ไม่น้อย

ขณะที่ในเชิงพื้นฐานโบรกเกอร์ยังมีมุมมองที่ดี โดยคาดว่าผลประกอบการในปี 2560 น่าจะฟื้นตัวขึ้นจากอุตสาหกรรมยานยนต์ที่น่าจะเติบโตได้ดี

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทยมีความเห็นว่า แนวโน้มผลประกอบการของอาปิโกนั้น การประหยัดจากขนาด เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุนต่อเนื่อง และ การพัฒนาวิศวกรรมการผลิต ได้ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปี 2559 ดีขึ้นเป็น 5.9% เทียบกับปี 2558 อยู่ที่ 4.9% และ ในอีก 4 ปีข้างหน้า ผู้บริหารตั้งเป้าหมายอัตรากำไรสุทธิจะขึ้นถึงระดับ 10% เทียบกับปี 2559 ที่มีอัตรากำไรสุทธิ 3.7% แนวโน้มอุตสาหกรรมรถยนต์ในปี 2560 จะฟื้นตัวดีขึ้นเล็กน้อย

ฝ่ายวิจัยประเมินยอดผลิตรถยนต์ประมาณ 2 ล้านคัน เติบโต 3% จึงได้ปรับประมาณการผลประกอบการของอาปิโกเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งประเมินยอดขายในปี 2560 เท่ากับ 15,185 ล้านบาท เติบโต 3% ตามอุตสาหกรรมรถยนต์ และ คาดจะมีกำไรสุทธิเท่ากับ 552 ล้านบาท เติบโต 2% จากปีก่อน ส่วนคำแนะนำการลงทุนนั้นการที่บริษัทได้ประกาศจ่ายเงินปันผลกำไรครึ่งปีหลัง 0.33 บาท รวมเป็นปันผลจ่ายกำไรปี 2559 เท่ากับ 0.66 บาท หรือ คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทน 4.1% ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีต่อหุ้นปี 2559 ที่ 18.9 บาท

บล.เออีซีประเมินว่า อาปิโก้จะมี มาร์จินเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น โดยคาดปี 2560-2561 จะมีแนวโน้มผลประกอบการโตสดใสด้วยแรงหนุน ดังนี้ คำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นสำหรับชิ้นส่วนรถยนต์นั่ง เพราะโครงการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ECO-CAR Phase 2 ซึ่งพบว่ามีผู้ผลิตยื่นขอรับส่งเสริมทั้งสิ้น 10 ราย มูลค่าเงินลงทุนรวม 138,889 ล้านบาท และกำลังการผลิตรวม 1.58 ล้านคัน โดยผู้ผลิตจะต้องดำเนินการผลิตภายในปี 2562 และแรงผลักดันจากนโยบายบริหารจัดการ TURBO Target ด้วยเป้าหมายเพิ่มมาร์จินในธุรกิจรับจ้างผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ อันได้แก่ กลยุทธ์เพิ่ม Utilization Rate, กลยุทธ์เพิ่ม Innovation Product, กลยุทธ์ลดต้นทุน และแผนทยอยชำระหนี้ ดังนั้นจึงคงประมาณการเดิม โดยคาดปี 2560 และ 2561 จะมีกำไรสุทธิ 589 ล้านบาท และ 630 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยในช่วง 2 ปีนี้ (CAGR) ปีละ 7.7%