Retail Market Monitor (16 มี.ค.60)

Retail Market Monitor (16 มี.ค.60)

เฟดขึ้นดอกเบี้ยตามคาด ขณะที่พรรคหนุนสหภาพยุโรปคาดชนะเลือกตั้งที่เนเธอร์แลนด์

เรายังคงมุมมองตลาดฟื้นตัวหลังการประชุมเฟด เนื่องจากประเมินตลาดได้รับเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยไว้ล่วงหน้าแล้ว ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีแรง sell on fact ค่าเงินเหรียญสหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นมาในช่วงก่อนหน้า และทำให้ราคาโภคภัณฑ์ (น้ำมันและทองคำ ) ฟื้นตัวขึ้น ทั้งนี้การที่เฟดย้ำ ถึงความแข็งแกร่งของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และกล่าวถึงเงินเฟ้อที่ใกล้เคียงเป้าหมายระยะยาวของเฟดที่ 2 % เรามองว่าทำให้สินทรัพย์ที่สามารถป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้จะกลับมาน่าสนใจ ระยะสั้นโภคภัณ์และทองคำ คาดกลับมาอยู่ในความสนใจของนักลงทุน ขณะที่ภายใหญ่เรายังเน้นการลงทุนในหุ้นมีพื้นฐานดี ได้แก่ การกลับมาอ่อนค่าของเงินบาท (อาหาร และอิเล็กทรอนิกส์) หุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นหรือผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่ม (หุ้นธนาคาร ประกัน) การเก็งกำไรเน้นหุ้นรายตัวที่มีปัจจัยบวกชัดเจนและ เลี่ยงหุ้นไร้พื้นฐาน // หุ้น แนะนา PTT, SCB, SAPPE / เก็งกา ไร TSR*

แถลงการณ์ FOMC – เฟดมองตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง กิจกรรมทางเศรษฐกิจขยายตัวปานกลาง การจ้างงานแข็งแกร่ง เงินเฟ้อปรับตัวขึ้น ใกล้เป้าหมายระยะยาวที่ 2% ทั้งนี้แนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐฯจาก Dot Plot บ่งชี้ถึงการขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ และ 3 ครั้งในปี 2560

เลือกตั้งเนเธอร์แลนด์หนุนสหภายุโรป – ผลการนับคะแนนเบื้องต้นพบว่าพรรค VVD ของนายมาร์ค รุตเต นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ สามารถกวาดที่นั่งได้มากสุด และชนะพรรคการเมืองฝ่ายขวาขณะที่การออกมาใช้สิทธิ์ที่ 81% ถือเป็นสถิติในระดับสูงหนุนการอยู่ในสหภาพยุโรป

การปรับโครงสร้างกลุ่มสหพัฒน์ – โดย TF และ PR จะควบรวมเป็นบริษัทใหม่ (คาดภายใน ต.ค.) ขณะที่ SPI จะรับโอนกิจการเพรซิเดนท์โฮลดิ้ง รวมถึงหุ้นที่ถืออยู่ใน PR และ PB (คาดจะแล้วเสร็จ มิ.ย.) โดย TF และ SPI จะร่วมกันทำเทนเดอร์ฯ หุ้น PB ที่ราคา 58.58 บาท

โภคภัณฑ์ – ค่าเงินสหรัฐฯ อ่อนตัวจาก sell on fact หลังการขึ้นดอกเบี้ยเฟด ส่งผลบวกต่อกลุ่มโภคภัณฑ์ ราคาน้ามันดิบฟื้นตัวขึ้นราว 2% และยังได้ปัจจัยบวกจากสต็อคน้ามันดิบที่ลดลงเป็นสัปดาห์แรกตั้งแต่ธ.ค. 59 เป็นต้นมา ราคาโลหะมีค่าและสินค้าเกษตรฟื้นตัว

สำหรับปัจจัยติดตามที่สำคัญ : มี.ค. – ธปท.ปรับเพิ่ม GDP ปี 2560 (ไทย)

คำแนะนำทางกลยุทธ์ : หลังแนะนำว่าสัปดาห์นี้เป็นจุดเสี่ยงซื้อ คาด SET Index ฟื้นตัวขึ้นทดสอบกรอบบนของ 1530-1560 จุด ระยะสั้นเน้นโภคภัณฑ์และหุ้นใหญ่รายตัวขณะที่หุ้นมีพื้นฐานดีในกลุ่ม ธนาคาร อาหาร อิเล็กทรอนิกส์ และน่าสนใจเก็งกำไรหุ้นเป้าหมาย Short Recovery // สำหรับหุ้น top pick วันนี้ PTT, SCB, SAPPE / เก็งกำไร TSR*

แนวรับ 1530-1535/แนวต้าน : 1555-1560 จุด สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นเก็งกำไรเชิงกลยุทธ์

- หุ้นที่มีการเติบโตปี 2560 เด่น: TU, MAJOR, SQ, BANPU

- หุ้นที่ผลงานผ่านจุดแย่สุด: MAJOR, SGP*, SIMAT*, JWD*, TSR* TU

- หุ้นเด่นปี 2560: BANPU, PTTEP, SCB, TU, STEC, DTAC*, PSTC*, KSL*, BA*
(* หุ้นที่ไม่อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH หรือหุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ ผู้ลงทุนควรพิจารณาจุดตัดขาดทุน ราว 3-5%)

หุ้นแนะนำ

- PTT (420) : เราคาดมีแรงซื้อคืนในหุ้นโภคภัณฑ์ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีการประจายความเสี่ยง ทั้งนี้ การจ่ายปันผลของบริษัทล่าช้ากว่าปกติจากการปรับโครงสร้างในกลุ่ม โดยคาดบริษัทจะประกาศจ่ายปันผลในช่วง 1 สัปดาห์ข้างหน้า ราว 6-7 บาท

- SCB (172) : หุ้น Laggard ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่เรามองการตั้งสารองชะลอตัวลง ขณะที่การปรับโครงสร้างในธุรกิจประกันส่งผลดีต่อการปล่อยกู้

- SAPPE (40) : เข้าสู่ high season ของเครื่องดื่ม แนวโน้มผลประกอบการ 2560 สดใส ผลักดันจาก 1) การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 2) การควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวด 3) การเติบโตของยอดขายตปท.โดยเฉพาะ จีนและ อินโดนีเซีย และได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อน

- TSR* (7) : ธุรกิจผ่านจุดแย่สุดไปแล้วจากการตั้งสำรองที่คาดสูงสุดแล้วในไตรมาส 4/59 ขณะที่รายได้คาดเติบโตต่อเนื่องจากกาลังซื้อที่ฟื้น ภัยแล้งที่ลดลง การเปิดสาขาใหม่ การขยายธุรกิจไปต่างประเทศ รวมถึงการขยายสินค้าในกลุ่มเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า

 หุ้นที่มีประเด็นเก็งกำไร ERW, TSR*, TIP*, CBG*, BWG*, AJD*, TTA*