HMPRO - ซื้อ

HMPRO - ซื้อ

คาดกำไรปี 60 เติบโต 11%หลังปรับประมาณการเพิ่มขึ้น 5%

ประเด็นสำคัญในการลงทุน:

- กำไรปี59 เติบโต 18% : กำไรปี 59 เท่ากับ 4,125 ล้านบาท +18% และดีกว่าคาด 7% โดยมีรายได้ขาย 5.7 หมื่นล้านบาท +8% ซึ่งประกอบด้วย Same Store growth +1% New store +3% รายได้จากเมกาโฮมและสาขามาเลเซีย +4% ปลายปี 59 มีสาขา
โฮมโปร 80 แห่ง เมกาโฮม 11 แห่ง และสาขาในมาเลเซีย 2 แห่งโดยมีGross Profit margin เท่ากับ 25.5% ลดลงเล็กน้อยจาก 25.7% ในปี 58เนื่องจากสัดส่วนของสินค้า house brand ลดลงเหลือ 18.7% จาก 19.1% ในปี 58 ซึ่งต่ำกว่าเป้าที่ระดับ 20%อย่างไรก็ดีรายได้อื่นจากการให้เช่าพื้นที่และบริการที่เกี่ยวกับบ้านที่เพิ่มขึ้น 13% ส่งผลให้อัตราการเติบโตของกำไรสูงกว่าอัตราการเติบโตของยอดขายบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลงวด 2H59 หุ้นละ 0.15 บาท XD 12 เม.ย.

- แผนดำเนินงานปี 60 ขยายสาขาใหม่ต่อเนื่องและขยายบริการ Home Service : ผู้บริหารมีเป้ารายได้เติบโต 8-12%มีแผนเปิดสาขาโฮมโปร 2-3 แห่ง สาขาเมกาโฮม 3-4 แห่ง สาขาที่มาเลเซีย 2-3 แห่ง เน้นทำเลที่มีกำลังซื้อในกทม.ปริมณฑลและหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด มีแผนขยายตลาดใหม่ CLMV รวมทั้งมีแผนขยายบริการ Home service รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟสไตล์ใหม่ของลูกค้าได้แก่สินค้าที่เกี่ยวกับบ้าน“HomePro Living”และสินค้าจักรยาน “Bike Club”

- ปรับประมาณการกำไรปี 60 เพิ่มขึ้น 5% : ฝ่ายวิจัยคาดรายได้ปี 60 ราว 6.45 หมื่นล้านบาท +10% ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากสาขาใหม่ที่เปิดในปี 59 และการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม นโยบายเพิ่มรายได้บริการซึ่งมีมาร์จิ้นสูงกว่ารายได้ขายและมีศักยภาพในการเติบโตดี รวมถึงความพยายามในการควบคุมค่าใช้จ่าย และต้นทุนทางการเงินที่ลดลง ฝ่ายวิจัยได้ปรับลดสมมติฐานอัตราส่วนค่าใช้จ่ายขายและบริหารจากเดิม 23.6% เหลือ 23.3% และลดประมาณการดอกเบี้ยจ่ายลงจากเดิม 24% ส่งผลให้ประมาณการกำไรปี 60 ใหม่เพิ่มขึ้น 5% เป็น 4.6 พันล้านบาทเติบโต 11% ทั้งนี้ กำไร 1Q60 มีแนวโน้มแผ่วลง QoQจาก 4Q59 ที่สูงถึง 1.3 พันล้านบาทที่เป็นสถิติสูงสุดรายไตรมาสของปี 59 และสูงเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ดี การจัดงานHomePro Expo ครั้งที่ 25 ระหว่าง17 – 26 มี.ค. 60 น่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายและสร้างกำไรได้ใกล้เคียงกับ 1Q59 ที่มีกำไร 866 ล้านบาท

- คงคำแนะนำ“ซื้อ”ราคาเหมาะสม13 บาท : ปัจจัยพื้นฐานในระยะยาวยังดีจากรายได้ในอนาคตมีศักยภาพเติบโตตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ประกอบกับธุรกิจให้เช่าพื้นที่และการให้บริการ Home service รวมทั้งผลิตภัณฑ์ใหม่มีแนวโน้มเติบโตดีและมีมาร์จิ้นดีกว่ารายได้ขายอย่างมีนัยสำคัญ จากประมาณการกำไรสุทธิใหม่ส่งผลให้ราคาเหมาะสมซึ่งอิงProspect PER ที่ระดับ38 เท่าเพิ่มขึ้นจากเดิม 12.60 บาทเป็น 13 บาทซึ่งมี upside จากราคาปิดล่าสุดทำให้ฝ่ายวิจัยคงคำแนะนำ“ซื้อ”