Retail Market Monitor (15 มี.ค.60)

Retail Market Monitor (15 มี.ค.60)

ติดตามการเมืองยุโรปและการประชุมเฟด

ตลาดฟื้นตัวจาก 1530 จุด จากการฟื้นตัวและแรงเก็งกำไรของหุ้นในกลุ่มเช่าซื้อ อย่างไรก็ตามเราคาด ตลาดจะยังแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1530-1550 จุด ระหว่างรอผลการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดซึ่งเรามองตลาดจะเริ่มตั้งหลักได้ไม่ว่าเฟดจะคงหรือเพิ่มดอกเบี้ย อย่างไรก็ตามอาจมีความเสี่ยงลงสู่ 1500 จุด หากมีสัญญาณบ่งชี้ถึงการเร่งการขึ้นอัตราดอกเบี้ย การลงทุนจึงเน้นมองทิศทางใหญ่ในหุ้นมีพื้นฐานดี ได้แก่ การกลับมาอ่อนค่าของเงินบาท (อาหาร และอิเล็กทรอนิกส์) หุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น หรือผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่ม (หุ้นธนาคาร ประกัน) การเก็งกำไรเน้นหุ้นรายตัวที่มีปัจจยบวกชัดเจน และเลี่ยงหุ้นไร้พื้นฐาน // หุ้นแนะนา KCE*, TASCO, SAPPE / เก็งกำไร EASTW*

การเมืองยุโรปและเฟด – หุ้นยุโรปปรับลดลงจากแรงฉุดหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะเดียวกันรอติดตามผลการเลือกตั้งในเนเธอร์แลนด์ ที่จะทราบในวันนี้ อย่างไรก็ตามเรามองการเลือกตั้งเป็ นปัจจัยกดดันทางจิตวิทยาระยะสั้น แต่ความผันผวนของตลาดโดยหลักจะมาจากสภาพคล่องหรือจากการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยเป็นหลัก ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุด ยังคงสนับสนุนการเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ก.พ.เพิ่มข้ นึ 0.3% MoM (ตลาดคาด 0.1%) และก.พ.เพิ่ม 2.2% YoY (ตลาดคาด 2.0%)

TDRI – คาดว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) โลกน่าจะเติบโตดีขึ้นจาก 2.3% ในปีที่แล้วเพิ่มเป็น 2.7% และเศรษฐกิจสหรัฐจาก 1.6% เพิ่มเป็ น 2.2% ส่วนจีนลดลงบ้างแต่ยังสูงที่ 6.2% ขณะที่มองไทยอาจต้องปรับขึ้น ดอกเบี้ย 1 ครั้งจากเงินเฟ้อที่ปรับเพิ่มขึ้น 

ราคา PTA ลดลง – ราคา PTA ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตเส้นใย ยังคงปรับตัวลดลงจากเคยสูงกว่า 5,800 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน เหลือ 5,090 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน ทั้งนี้ราคา PTA ที่ลดลง กระทบต่อรายได้ 1/3 ของ IVL ที่ขายเป็น PTA แต่รายได้อีก 2/3 จากการผลิต PET และ Polyester เป็นบวก

สาหรับปัจจัยติดตามที่สาคัญ :   14-15 มี.ค. – ประชุมเฟด (สหรัฐฯ) / มี.ค. – ธปท.ปรับเพิ่ม GDP ปี 2560 (ไทย)

คำแนะนำทางกลยุทธ์ : คาด SET Index แกว่งตัวในกรอบ 1530-1560 จุด ประเมินการปรับลงต่อจะทำให้ SET Index เข้าสู่จุดเสี่ยงซื้อ เน้นหุ้นมีพื้นฐานดีในกลุ่ม ธนาคาร อาหาร อิเล็กทรอนิกส์ และน่าสนใจเก็งกำไร หุ้นเป้าหมาย Short Recovery //  สำหรับห้นุ top pick วันนี้ KCE*, TASCO, SAPPE / เก็งกำไร EASTW*

แนวรับ 1530-1535/แนวต้าน : 1555-1560 จุด สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตห้นุ 60%

ประเด็นเก็งกำไรเชิงกลยุทธ์

- ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) บวกต่อ AMATA, WHA, TICON, JWD*, EASTW*

- หุ้นที่มีการเติบโตปี 2560 เด่น: TU, MAJOR, SQ, BANPU

- หุ้นที่ผลงานผ่านจุดแย่สุด: MAJOR, SGP*, SIMAT*, JWD*, TSR* TU

- กลุ่มการเงินที่ Valuation สมเหตุผล: SCB, TK*, S11*, AMNAH*, GCAP*

- หุ้นเด่นปี 2560: BANPU, PTTEP, SCB, TU, STEC, DTAC*, PSTC*, KSL*, BA*
(* หุ้นที่ไม่อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH หรือหุ้นแนะนาเชิงกลยุทธ์ ผู้ลงทุนควรพิจารณาจุดตัดขาดทุน ราว 3-5%)

หุ้นแนะนำ 

- KCE* (120) : เราคาดหุ้นสะท้อนกำไรที่ลดลงในช่วงไตรมาส 3-4/59 จากการปรับเรื่อง logistic ไปแล้ว และราคาหุ้นที่แกว่งลงไปแย่สุดที่ average PER ที่ 15x ขณะที่การใช้กำลังการผลิตเต็มที่และผลดีจากการขยายโรงงานเฟส 3 จะเห็นในช่วงไตรมาส 2/60 เรามองเป็นโอกาสซื้อ

- TASCO (35) : ส่านต่าง bitumen spread ที่กว้างขึ้นทำให้แนวโน้มกำไรไตรมาส 1 และ 2/60 ยังอยู่ในระดับสูงกว่า 1.2 พันล้านบาท ซึ่งถือว่าดีมากเมื่อเทียบกับกำไรทั้งปีปี 2559 ที่ 3.1 พันล้านบาท

- SAPPE (40) : เข้าสู่ high season ของเครื่องดื่ม แนวโน้มผลประกอบการ 2560 สดใส ผลักดันจาก 1) การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 2) การควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวด 3) การเติบโตของยอดขายตปท.โดยเฉพาะ จีนและ อินโดนีเซีย และได้ประโสชน์จากเงินบาทอ่อน

- EASTW* (14) : คาดผลการดำเนินงานฟื้นตัวในปี 2560 หลังปี ก่อนโดนผลกระทบภัยแล้ง นอกจากนี้ยังได้ผลดีจากนโยบายระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก และเรามองราคาที่ 15x PER มีความปลอดภัย และ defensive ต่อภาวะตลาดมากพอ จ่ายปันผล 0.27 บาท XD 24 เม.ย. หุ้นที่มีประเด็นเก็งกำไร ERW, TSR*, TIP*, CBG*, BWG*, AJD*, TTA*