ลอบเผาป่ายังหนัก! พบไฟจากเมียนมาร์กำลังลามสู่ไทย

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ศูนย์ป้องกันและควบคุมแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันไฟป่าจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับรายงานสถานการณ์ไฟป่าในห้วงตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 มี.ค.จนถึงวันที่14มี.ค.2560 ว่า ในทุกพื้นที่ของแต่ละอำเภอ ใน 7 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง อ.ขุนยวม อ.แม่ลาน้อย อ.แม่สะเรียง อ.สบเมย อ.ปางมะผ้าและ อ.ปาย ยังคงมีการลอบจุดไฟเผาป่า และมีการจัดกำลังออกไปดับไฟป่าที่เกิดขึ้น รวมไปถึงการเข้าไปดับไฟป่า ตามจุดที่ดาวเทียมจิสด้า ส่งข้อมูลจุดเกิดไฟป่า หรือฮอทสปอต มาให้ บางแห่งสามารถดับได้ แต่บางแห่ง ไม่สามารถเดินทางเข้าถึง จึงต้องปล่อยให้ไฟป่าลุกลามจนมอดดับไปเอง โดยมีไฟป่าเกิดขึ้นเกือบ 20 จุด



ทั้งนี้ วันที่ 13 มีนาคม พบจุดฮอทสปอต จำนวน 18 จุด ได้แก่ ต.ผาบ่อง อ.เมือง จำนวน 4 จุด ต.ปางหมู อ.เมือง 2 จุด ต.ห้วยโป่ง อ.เมือง 1 จุด ต.หมอกจำแป่ อ.เมือง 2 จุด ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง จำนวน1จุด ต.ป่าแป๋ อ.แม่สะเรียง จำนวน 1 จุด ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง 1 จุด ต.แม่ฮี้ อ.ปาย 1 จุด ต.แม่ลาน้อย อ.แม่ลาน้อย จำนวน 2 จุด ต.แม่ลาหลวง อ.แม่ลาน้อย จำนวน1จุด ต.สบป่อง อ.ปางมะผ้า จำนวน 1 จุด ต.ปางมะผ้า อ.ปางมะผ้า1จุด



นายยุทธพงษ์ บุตรเนตร หน.หน่วยส่งเสริมฯ สบเมย และ ชุดปฏิบัติการเหยี่ยวไฟภาคกลาง ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน รายงานว่า เมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา หน่วย ฯ ได้จัดกำลังออกไปทำการดับไฟป่า บริเวณ พิกัด47Q 392841 UTM 2156007และ พิกัด47 Q 391470 UTM 2155838บ้านนาป่าแปก ต.หมอกจำแป่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอนว่ามีจุดความร้อนที่คาดว่าเป็นไฟป่าเกิดขึ้น ผลการปฏิบัติงาน ดังนี้ จุดที่ 1 เข้าควบคุมไฟป่าเสร็จเรียบร้อยแล้วใช้เวลาในการควบคุมไฟป่าประมาณ 20 นาที พื้นที่เสียหาย จำนวน 5 ไร่



จุดที่ 2 เข้าควบคุมไฟป่าเสร็จเรียบร้อยแล้วใช้เวลาในการควบคุมไฟป่าประมาณ 120 นาที พื้นที่เสียหาย จำนวน 50 ไร่ ทั้งสองจุดอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ปาฝั่งขวา ท้องที่บ้านห้วยขาน ต.หมอกจำแป่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ไม่ทราบสาเหตุการเกิดไฟป่า



นายอุดม หมั่นศึกษา ผู้ใหญ่บ้านบ้านห้วยต้นนุ่น หมู่ที่4 ต.แม่เงา อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่าได้รับรายงานจากผู้ประการค้า ที่เดินทางผ่านเข้า – ออก จุดผ่อนปรนช่องทางห้วยต้นนุ่น ว่าตอนนี้เขตพื้นที่ของฝ่ายพม่า มีการเผาไฟป่าอย่างหนักเลยอีกวันสองวันน่าจะเข้ามาถึงฝั่งไทย ล่าสุดกำลังประสานเจ้าหน้าที่ทหารพรานในพื้นที่ เพื่อขอทราบสถานการณ์ หากมีลมพัดแรงอาจจะทำให้ไฟป่าจากพม่าลามเข้าไทยได้เร็วขึ้น