คำชะโนด...ความลับแห่งศรัทธาและพญานาค

คำชะโนด...ความลับแห่งศรัทธาและพญานาค

ป่าคำชะโนด...ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เปี่ยมมนต์ขลังที่ผู้คนให้ความศรัทธามานานหลายสิบปี แต่กระแสความนิยมจากละครโทรทัศน์ กำลังทำให้ป่าคำชะโนดในวันนี้ ต้องเผชิญกับปัญหารอบด้านจากนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลกันเข้ามาเยี่ยมชม

นอกจากตำนานความเชื่อต่างๆ แล้ว แม่น้ำโขงกับป่าคำชะโน ยังมีความน่าสนใจในแง่พฤกษศาสตร์ที่โลกต้องทึ่งกับต้นคำชะโนดที่มีอายุยืนยาวหลายร้อยปี รวมถึงกระแสของละครโทรทัศน์ที่ทำให้ป่าคำชะโนดแห่งนี้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เดินทางไปเยี่ยมชม 

แต่กระแสความนิยมกำลังจะทำให้ป่าคำชะโนดเกิดความเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ด้าน จนหลายคนหวั่นเกรงว่าคำชะโนดจะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

บนเนื้อที่กว่า 20 ไร่เชื่อมต่อ 3 ตำบล คือ วังทอง / บ้านม่วง / และบ้านจันทร์ ของอำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี คือที่ตั้งของป่าคำชะโนด ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวอีสานให้ความเคารพศรัทธาอย่างมาก / เรื่องราวตามตำนานเล่าขานกันต่อๆ มาว่า พญาศรีสุทโธนาคเป็นผู้ขุดแม่น้ำโขงและใช้ป่าคำชะโนดเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างเมืองบาดาลกับโลกมนุษย์ ซึ่งบริเวณใจกลางของป่าคำชะโนด จะมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์อยู่ และยังเชื่อกันว่าช่วงข้างขึ้น 15 วัน นาคจะกลายเป็นคนมาอยู่บนโลกมนุษย์ และข้างแรมอีก 15 วันจะกลายร่างเป็นนาคอยู่ในเมืองบาดาล

ป่าคำชะโนด ป่าโบราณลอยน้ำในอำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี มีตำนานเล่าขานเรื่องราวลี้ลับที่คนอีสานรับรู้กันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะความเชื่อที่ว่าดินแดนแห่งนี้เป็นที่ตั้งของเมืองนาคินทร์และวังพญานาค

นอกจากตำนานความลี้ลับที่เล่าขานจากรุ่นสู่รุ่นแล้ว ป่าคำชะโนดยังมีความน่าสนใจในแง่พฤกษศาสตร์ เพราะมีต้นชะโนด ซึ่งอยู่ในตระกูลเดียวกับปาล์ม  ต้นตาล  ต้นหมาก และต้นมะพร้าวขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น จนทำให้อากาศเย็นชื้นถึงขั้นวังเวง แต่ที่น่าแปลกอีกอย่างก็คือ หากพ้นจากดงชะโนดแห่งนี้ไปไม่เกิน 300 เมตร ก็ไม่มีต้นชะโนดปรากฏให้เห็นแม้แต่ต้นเดียว นี่เองจึงทำให้ผืนดินราว 20 ไร่ ถูกตั้งฉายาให้เป็นป่าแห่งชะโนดขนานแท้


การสำรวจป่าคำชะโนดของชาวบ้านเกิดขึ้นเมื่อราวปี 2520 เป็นครั้งแรกที่ชาวบ้านได้ทำการสำรวจจำนวนต้นชะโนดในป่าแห่งนี้ พบว่ามีอยู่ราว 2,000 ต้น จนมาถึงปี 2544 มีการสำรวจอีกครั้งและพบว่าต้นชะโนดลดลงเหลือเพียง 1,865 ต้นเท่านั้น

นอกจากปริศนาที่เป็นตำนานของผืนป่าแห่งนี้ “คำชะโนด” ยังเป็นที่รู้จักจนกลายเป็นข่าวดังสะเทือนประเทศมาหลายครั้งหลายหน ไม่ว่าจะเป็นตำนานผีจ้างหนังเมื่อต้นปี 2532 เมื่อบริษัทรับจ้างฉายหนังกลางแปลง ได้รับการว่าจ้างจากชาวบ้านให้ไปฉายหนังบริเวณป่าคำชะโนด แต่เมื่อฉายหนังเสร็จแล้วจึงมารู้ทีหลังว่า พื้นที่บริเวณนั้นเป็นป่า ไม่มีบ้านเรือนแม้แต่หลังเดียว เรื่องราวนี้โจษขานกันมากจนถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ในเวลาต่อมา


ตำนานของป่าคำชะโนด ถูกยกขึ้นมาผูกโยงเข้ากับความเชื่อและความลี้ลับต่างๆ โดยในปี 2543 มีกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างว่าสามารถบันทึกภาพเปรตได้ที่บริเวณป่าคำชะโนด จนกลายเป็นข่าวโด่งดังเช่นกัน แต่เมื่อมีการพิสูจน์ความจริง ปรากฏว่าเป็นเรื่องหลอกลวง เรื่องนี้หลายคนยังจำได้กับ “ตำนานเปรต อาจารย์กู้”
ล่าสุดป่าคำชะโนดยังไม่เสื่อมมนต์ขลัง เพราะได้กระแสความนิยมจากละครโทรทัศน์บอกเล่าตำนานของพญานาคีที่รักกับมนุษย์ ทำให้ป่าคำชะโนดวันนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปสัมผัสนับหมื่นคนต่อวัน

สุวัฒน์ เกินดี หรือปู่เขียว เจ้าพิธีเจ้าปู่ศรีสุทโธ ป่าคำชะโนด บอกกับทีมล่าความจริงว่า พลังความศรัทธาที่หลั่งไหลสู่ป่าคำชะโนด เกิดจากปาฏิหาริย์ความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าปู่ศรีสุทโธ จึงทำให้มีคนเดินทางมากราบไหว้เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมาก ก็มีปัญหาเกิดขึ้นตามมา ไม่ว่าจะเป็นขยะล้นพื้นที่ หรือระบบนิเวศของป่าชะโนด จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหามาตราการรองรับโดยด่วน

ปัญหาที่เกิดตามมาจากปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ทำให้จังหวัดอุดรธานีเตรียมทุ่มงบประมาณกว่า 200 ล้านบาทในการแก้ไขปัญหา โดยมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการการทำงานอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการจัดการพื้นที่ป่าคำชะโนดใหม่ จัดระเบียบร้านค้า จัดระเบียบที่จอดรถ จัดระเบียบผู้มีอิทธิพลต่างๆ รวมถึงปัญหาความเปลี่ยนแปลงด้านระบบนิเวศของป่าแห่งนี้ด้วย

แม้ว่า “คำชะโนด” จะไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวที่เพิ่งจะบูม แต่กระแสความนิยมที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้ปัญหาที่สะสมมาตลอดหลายปีค่อยๆ ปรากฏชัด การแก้ไขปัญหาคงไม่ใช่หน้าที่ของภาครัฐแต่เพียงด้านเดียว แต่นักท่องเที่ยวและประชาชนผู้ศรัทธาในมนต์ขลังของพญานาคีเอง ก็ต้องช่วยกันรักษาผืนป่าแห่งนี้ เพื่อรักษาตำนานป่าคำชะโนดให้ยืนยงสืบไป