เอไอเอสผนึกควอลคอมม์อัพความเร็วส่งข้อมูลรับ‘5จี’

เอไอเอสผนึกควอลคอมม์อัพความเร็วส่งข้อมูลรับ‘5จี’

โชว์เทคโนโลยีเพิ่มความเร็วรับ-ส่งข้อมูลบนเครือข่ายแอลทีอี แอดวานซ์ รับยุค 5จี ชี้ความเร็วเพิ่มขึ้นกว่า 30-50% เร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ควอลคอมม์เร่งดันซิพเซ็ทตัวล่าสุดซีรีส์ 800 พร้อมทดสอบระบบกับสมาร์ทโฟนรุ่นไฮเอนด์ปีนี้

นายเกรียงศักดิ์ วาณิชย์นที หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยี บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวว่า ที่ผ่านมาเอไอเอสได้ลงทุนเครือข่ายเพื่อขยายการให้บริการ 4จี ครอบคลุมแล้ว 98% และยังลงทุนต่อเนื่องอีก 40,000-50,000 ล้านบาท เพื่อให้รองรับ 5จี ที่จะเข้ามาให้บริการในอนาคต 

ล่าสุด เอไอเอสผนึกกำลังกับบริษัท ควอลคอมม์ ร่วมดันนวัตกรรมแอลทีอี แอดวานซ์บนเครือข่าย ‘แอลทีอี-เอ’ ด้วยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบดาวน์ลิงค์ เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการรับส่งข้อมูล โดยมีความเร็วเพิ่มขึ้น 30-50% 

รวมถึงเทคโนโลยีเครือข่าย Downlink 3x carrier aggregation (DL 3xCA) ให้ส่งข้อมูลในอัตราความเร็วสูงขึ้น และมีปริมาณรองรับการใช้งานได้มากขึ้น และระบบ 4x4 MIMO (Multiple-Input Multiple-Output) ที่รองรับการดาวน์โหลดข้อมูลผ่านเสาสัญญาณได้พร้อมกัน 4จุด มีการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว อัตราการตอบสนองของเครือข่ายเร็ว และประเมินผลการทำงานของแอพพลิเคชั่นระดับสูงได้รวดเร็วขึ้น 

“สิ่งที่เอไอเอสทำ เป็นการเผื่อในอนาคตที่ไม่มีการประมูลคลื่นความถี่ ขณะเดียวกันจำนวนมือถือที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้โอเปอเรเตอร์ต้องหาทางนำคลื่นที่มีมาใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด จากยุค 3จี ที่ใช้การรับส่ง 1 ทรานสมิชชัน พอเป็นยุค 4จี จะเพิ่มเป็น 2 ทรานสมิชชัน”

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเอไอเอสจะพัฒนาให้รองรับสูงถึง 32 ทรานมิชชั่นต่อการเชื่อมต่อ ไม่นับรวมกับการทำ กิกะบิต โมบาย เน็ตเวิร์คที่นำคลื่น 4จีมารวมกับไวไฟเพิ่ม รับ-ส่ง ให้ได้ความเร็ว 1 กิกะบิตต่อวินาที ช่วยเพิ่มความเร็วใช้งานเพื่อให้รองรับการทำงานยุค 5จี 

นายสุวิทย์ พฤกษ์วัฒนานนท์ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทยและเมียนมา บริษัท ควอลคอมม์ อินคอร์ปอเรทเต็ด กล่าวว่า ธุรกิจควอลคอมม์ปัจจุบันมี 2 ส่วนหลัก คือ การพัฒนาชิพเซ็ตที่นำมาใช้งานบนสมาร์ทโฟนครอบคลุมตั้งแต่ เอนทรี เลเวล ไปจนถึงเครื่องระดับพรีเมียม

ขณะเดียวกัน ควอลคอมม์มีรายได้จากการถือไลเซ่นการพัฒนาชิพเซ็ตที่รองรับเครือข่าย 3จีและ 4จี ที่จำหน่ายให้แบรนด์ต่างๆ ในการนำไปผลิตชิพเซ็ต เพื่อใช้งานบนสมาร์ทโฟน รวมถึงอุปกรณ์พกพา และอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตต่างๆ

ล่าสุดทางควอลคอมม์ เปิดตัวชิพเซ็ตสแนปดราก้อน 835 รุ่นแรกของโลกที่ใช้ชิพขนาด 10 นาโนเมตร รับการใช้งานเทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น อิมเมอร์ซีฟ วีอาร์ คลาวด์คอมพิวติ้ง, อินสแตนท์ แอพ ที่แต่ละประเภทใช้การส่งผ่านข้อมูลปริมาณมหาศาล และชิพเซ็ตนี้จะถูกนำไปใช้กับเครื่องรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาทำตลาดในไทย

“ภายในปีนี้คาดว่า จะมีสมาร์ทโฟนรองรับการใช้งานแอลทีอี-เอ เข้ามาในตลาดคิดเป็นสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 30% จากเครื่องใหม่ที่เข้ามาจำหน่าย และมีโอกาสที่สมาร์ทโฟนในระดับราคาประมาณ 5,000-6,000 บาท จะรองรับการใช้งานมากขึ้นด้วย” นายสุวิทย์ ระบุ