TISCO - ซื้อ

TISCO - ซื้อ

การเติบโตหลักจากการซื้อกิจการ

ประเด็นการลงทุน

เรามองว่า TISCO ยังดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวังระหว่างการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัวในครึ่งแรกของปี 2560 โดยเราคาดว่า TISCO จะกลับมาขยายฐานสินเชื่อที่แข็งแกร่งในครึ่งหลังปี 2560 จากการเข้าซื้อพอร์ตสินเชื่อรายย่อยจากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ ประเทศไทย (SCBT) และจากการบริการจัดการส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่ดี เราเชื่อว่า
กิจกรรมดังกล่าวช่วยหนุนให้ TISCO มีการเติบโตของสินเชื่อแข็งแกร่งที่ 17% หลังจากที่สินเชื่อปรับตัวลดลง 5.6% เมื่อปีที่แล้ว นอกจากนี้เราคาดว่าบริษัทจะรายงานกำไรที่ 5.6 พันล้านบาทในปี 2560 (เพิ่มขึ้น 12%) และ 6.3 พันล้านบาทในปี 2561 (เพิ่มขึ้น 11%) เรายังคงแนะนำ ซื้อ เนื่องจากปัจจัยดังต่อไปนี้ 1) การบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์ที่ดี (ซึ่งอาจช่วยทำให้อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ปรับตัวลดลงในปี 2560), 2) แนวโน้มการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯที่ต่ำกว่าคาดในปี 2560 และ 2561 และ 3) อัตราเงินปันผลตอบแทนในระดับที่ยอมรับได้ที่ 5.5% ในปี 2560 และ 5.7% ในปี 2561

สินเชื่อเดือนก.พ.หดตัวลงตามคาดจากสินเชื่อเช่าซื้อตามคาด...

TISCO รายงานสินเชื่อสุทธิเดือนก.พ.ที่ 2.12 แสนล้านบาท ลดลง 1.0% MoM และ 2.1% YTD โดยทั้งสินเชื่อรายย่อย (ส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อเช่าซื้อ) และสินเชื่อบรรษัทปรับตัวลดลง 1.0% MoM และ 1.9% MoM ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม สินเชื่อเอสเอ็มอี(ธุรกิจฟลอร์แพลน) เติบโต 1.1% MoM เราคาดว่าแนวโน้มสินเชื่อจะปรับตัวลงเล็กน้อย ในครึ่งแรก
ของปี 2560 ก่อนจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากดีลการเข้าซื้อพอร์ตสินเชื่อรายย่อย ของ SCBT ในไตรมาส3/60 ซึ่งดีลดังกล่าวจะทำให้ TISCO สามารถเน้นการปล่อยสินเชื่อรายย่อยที่ครบวงจรมากขึ้นในระหว่างการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในครึ่งแรกของปี 2560

…มีโอกาสปรับประมาณการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯต่ำกว่าคาดปีนี้

เราคาด TISCO จะรักษาอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ให้อยู่ต่ำกว่า 2.54% (อยู่ในระดับนี้ ณ สิ้นปี 2559) อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่แข็งแกร่งที่ 143% น่าจะช่วยให้การตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯ ปรับตัวลดลงได้จากปีที่แล้ว จากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในครึ่งหลังปี 2560 เรามองว่าบริษัทยังมีโอกาสปรับลดการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯปี 2560 มาอยู่ในระดับปกติที่ 1.3-1.5% จากสินเชื่อรวม (หรือที่ประมาณ 3.1-35 พันล้านบาท) ต่ำกว่าเมื่อปีที่แล้วที่ 1.8% ในปัจจุบันเราคาดว่า TISCO จะตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯที่ 3.7 พันล้านบาทในปี 2560 (คิดเป็น1.5% จากสินเชื่อรวมในปี 2560) การตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯที่ลดลงต่ำกว่าเราคาดหมายถึงโอกาสในการปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2560 และปี 2561

คาดกำไรไตรมาส1/60 สูงขึ้น YoY ตามการบริหารค่าใช้จ่ายดีขึ้น...

เราคาดว่ากำไรไตรมาส1/60 จะเพิ่มขึ้น 6% YoY มาอยู่ที่ 1.33 พันล้านบาท เพื่อสะท้อนการบริหารค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นในภาวะที่ยอดขายรถยนต์ใหม่ชะลอตัวและการเน้นสินเชื่ออื่นๆที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าสินเชื่อเช่าซื้อ (ส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ จาก สมหวังเงินสั่งได้และสินเชื่อรถยนต์มือสอง) เราคาด TISCO จะตั้ง
สำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯต่ำที่ 900 ล้านบาทในไตรมาส1/60 เมื่อเทียบกับการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯ 981 ล้านบาทในไตรมาส1/59 นอกจากนี้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยในไตรมาส 1/60คาดว่าจะอยู่ที่ 4.27% ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้านี้ แต่เพิ่มขึ้น 28bps YoY เรายังมี มุมมองเชิงบวกสำหรับแนวโน้มกำไรปี 2560 ของ TISCO อีกด้วย ซึ่งได้แรงหนุนจากสินเชื่อที่ปรับตัวดีขึ้นใน ครึ่งปีหลัง (เป็นการเข้าซื้อพอร์ตสินเชื่อจาก SCBT และปัจจัยภายในที่หนุนการเติบโตของบริษัทเอง), ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่ทรงตัวและนโยบายการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯที่ลดลงกว่าปีที่แล้ว