Retail Market Monitor (13 มี.ค.60)

Retail Market Monitor (13 มี.ค.60)

เลือกตัวเก็งกำไรในจังหวะที่ตลาดเริ่มกลับมา Short Recovery ในหุ้นที่ลงมามาก

เราคาดการหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ กดดันจากเงินทุนไหลออกและราคาโภคภัณฑ์ที่อ่อนตัวลง อย่างไรก็ตามเรามองจิตวิทยาการเก็งกำไรปรับดีขึ้นหลังหุ้นปรับฐานลงมาใกล้ 1530 จุด ช่วยจำกัดความเสี่ยงช่วงสั้น การซื้อเก็งกำไรเราเห็นโอกาสเกิด Short Recovery ในหุ้นที่ลงมาก อาทิ PTG, CBG, COM7, KCE ขณะที่การลงทุนเน้นกลุ่มแข็งแกร่งกว่าตลาดรวม การกลับมาอ่อนค่าของเงินบาท เป็นปัจจัยสนับสนุนกลุ่มส่งออก (อาหาร และอิเล็กทรอนิกส์) ขณะที่หุ้นธนาคารคาดจะเป็นหุ้นนำตลาดในรอบต่อไป // หุ้นแนะนำ SCB, TU, SAPPE / เก็งกำไร PTG*, CBG*

ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ vs. โภคภัณฑ์ – วันนี้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรก.พ.ของสหรัฐฯ ตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งสนับสนุนมุมมองการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 14-15 มี.ค. และทำให้ค่าเงินเหรียญสหรัฐฯ แข็งค่าอย่างรวดเร็ว กดดันต่อราคาโภคภัณฑ์โดยรวม โดยราคาน้ำมันดิบลดลง โลหะมีค่าและสินค้าเกษตรยังคงมีแรงทำกำไร ขณะที่ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 1,064.00 จุด เพิ่มขึ้น 19.00 จุด หรือ 1.82%

เริ่มเห็นสัญญาณ Short Recovery ในหุ้นที่ลงมาก – ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เราเตือนให้ระวังหุ้นที่ซื้อขายด้วยมูลค่าที่สูงหรือ PER แพง อาจมีแรงทำกำไรหรือเกิด de-rating ได้ ซึ่งหุ้นกลุ่มเหล่านี้ปรับลดลงตั้งแต่กลาง 22 ธ.ค.59 ส่วนทางกับการขึ้นของตลาดในช่วงดังกล่าวถึงปลาย ม.ค.60 อย่างไรก็ตาม การปรับลดลงแรงราว 15-20% ของหุ้นหลายตัวทำให้เราประเมินหุ้นอยู่ในจุดที่มีโอกาสเกิดการซื้อคืนหรือ Short Recovery ได้แก่ PTG*, CBG*, COM7*, KCE ขณะที่ THAI* แม้ลงมาแรงแต่การมีหนี้สกุลยูโร และต้องเผชิญกับค่าเงินบาทที่อ่อนเทียบยูโร อาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัว / กลุ่มที่มีโอกาสฟื้นรองลงมา ได้แก่ CHG*, BCH, TTCL*, SCN*, BEAUTY*

สำหรับปัจจัยติดตามที่สำคัญ: 10 มี.ค. – การจ้างงานนอกภาคเกษตร (สหรัฐฯ) / 14-15 มี.ค. – ประชุมเฟด (สหรัฐฯ) / มี.ค. – ธปท.ปรับเพิ่ม GDP ปี 2560 (ไทย)

คำแนะนำทางกลยุทธ์: คาด SET Index แกว่งตัวในกรอบ 1530-1560 จุด ระหว่างรอผลการประชุมเฟด แต่จิตวิทยาเก็งกำไรเป็ นบวก เน้นหุ้นมีพื้นฐานดีในกลุ่ม ธนาคาร อาหาร อิเล็กทรอนิกส์ และน่าสนใจเก็งกำไรหุ้นเป้ าหมาย Short Recovery // สำหรับหุ้น top pick วันนี้ SCB, TU, SAPPE / เก็งกำไร PTG*, CBG*

แนวรับ 1540-1545/แนวต้าน : 1555-1560 จุด สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นเก็งกำไรเชิงกลยุทธ์

- ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) บวกต่อ AMATA, WHA, TICON, JWD*, EASTW*

- หุ้นที่มีการเติบโตปี 2560 เด่น: TU, MAJOR, SQ, BANPU

- หุ้นที่ผลงานผ่านจุดแย่สุด: MAJOR, SGP*, SIMAT*, JWD*, TSR* TU

- กลุ่มการเงินที่ Valuation สมเหตุผล: SCB, TK*, S11*, AMNAH*, GCAP*

- หุ้นเด่นปี 2560: BANPU, PTTEP, SCB, TU, STEC, DTAC*, PSTC*, KSL*, BA*
(* หุ้นที่ไม่อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH หรือหุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ ผู้ลงทุนควรพิจารณาจุดตัดขาดทุน ราว 3-5%)

หุ้นแนะนำ

- SCB (172) : หุ้น Laggard ในกลุ่มธนาคาร เรามองการตั้งสำรองปี 2560 จะลดลง อันเนื่องจากหนี้ SSI พ้นจาก NPL ขณะที่การปรับโครงสร้างของธุรกิจประกันส่งผลบวกต่อการดำเนินงานรวมถึงการปล่อยกู้

- TU (24.50) : กำไรปี 2560 เติบโต 16.6% สูงสุดในกลุ่มอาหาร ได้ปรับประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อน รวมถึงการเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติมในอนาคต ความเสี่ยงในเรื่องต้นทุนที่เป็ นโภคภัณฑ์ตํ่ากว่าเนื้อสัตว์บก และไม่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไข้หวัดนกในยุโรปและเอเชีย

- SAPPE (40) : เข้าสู่ high season ของเครื่องดื่ม แนวโน้มผลประกอบการ 2560 สดใส ผลักดันจาก 1) การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 2) การควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวด 3) การเติบโตของยอดขายตปท.โดยเฉพาะจีนและ อินโดนีเซีย และได้ประโสชน์จากเงินบาทอ่อน

- PTG* (27) : เก็งกำไรหุ้นเป็นเป้าหมาย Short Recovery หลังเป็นหุ้นใน SET100 ที่ปรับลดลงมากที่สุดในช่วง 22 ธ.ค.59-9 ก.พ.60 ลดลงถึง 22.84% (Concensus TP ที่ 29 บาท)

- CBG* (65) : เก็งกำไรหุ้นเป็นเป้าหมาย Short Recovery หลังเป็นหุ้นใน SET100 ที่ปรับลดลงมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ในช่วง 22 ธ.ค.59-9 ก.พ.60 ลดลงถึง 18.30% (Concensus TP ที่ 68.67 บาท) หุ้นที่มีประเด็นเก็งกำไร ERW, TSR*, EASTW*, TIP*, CBG*, BWG*, AJD*, TTA*