บาร์เทอร์คาร์ดเจาะสตาร์ทอัพรับยุค4.0

บาร์เทอร์คาร์ดเจาะสตาร์ทอัพรับยุค4.0

บาร์เทอร์คาร์ด ขานรับนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจ “ไทยแลนด์ 4.0” ตั้งเป้าขยายธุรกิจ B2B เพิ่มสมาชิกลูกค้าสตาร์ทอัพ

นางสาวเรวดี วัฏฏานุรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทบาร์เทอร์คาร์ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าปี 2559 รัฐบาลได้ประกาศให้การส่งเสริมผู้ประกอบธุรกิจเป็นวาระแห่งชาติภายใต้นโยบาย Thailand 4.0 โดยปรับเปลี่ยนจาก Traditional SME สู่ Smart Enterprise ที่ต้องพัฒนาและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสามารถอยู่รอดและเติบโตอย่างเข้มแข็ง โดยนโยบายดังกล่าวช่วยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการขยายธุรกิจไปสู่ตลาดอาเซียนและตลาดโลกมากขึ้น แต่สำหรับธุรกิจประเภท Business to Business (B2B) กลับมีทิศทางการเติบโตที่เพิ่มขึ้นทุกปี ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจในปีที่ผ่านมาจะชะลอตัวก็ตาม

ดังนั้นบาร์เทอร์คาร์ด ได้เล็งเห็นช่องทางการเติบโตของธุรกิจ B2B ภายใต้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล Thailand 4.0 จึงได้ตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาธุรกิจ B2B ในประเทศไทย ให้เติบโตเพิ่มขึ้นในส่วนของสมาชิกใหม่ 15% และ 5% ในส่วนของยอดการแลกเปลี่ยนสินค้าซึ่งตั้งเป้าหมายอยู่ที่ 990 ล้านบาท

ส่วนสมาชิกใหม่ตั้งเป้าหมายต้องมีผู้ประกอบการเข้ามาร่วมกับบาร์เทอร์คาร์ดเพิ่มขึ้นจำนวน 650 ราย ในปี 2560 โดยเน้นที่ลูกค้ากลุ่ม Startup เป็นหลัก ผ่านกลยุทธ์การบริการ โดยเน้นการพัฒนาบุคลากรให้มีความพร้อมในการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าทำหน้าที่เปรียบเสมือนผู้ช่วยของลูกค้าแต่ละราย เรียกว่า BDM (Business Development Manager) รวมทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อให้สมาชิกสามารถทำการแลกเปลี่ยนและเช็คประวัติการซื้อขายได้ตลอดเวลาอย่างง่ายดาย และช่วยให้สมาชิกเข้าถึงข้อมูลและโปรโมชั่นสินค้าอย่างต่อเนื่องผ่านเครื่องมือต่างๆ รวมถึงการจัดกิจกรรมเน็ตเวิร์คกิ้งและเทรดโชว์ เพื่อสร้างโอกาสให้สมาชิกได้พบปะสร้างพันธมิตรและต่อยอดธุรกิจได้

นอกจากนี้ยังตั้งเป้าหมายว่าสมาชิกจะหันมาทำธุรกรรมแบบ B2B ผ่านแอพพลิเคชั่นโมบายแอพหรือเว็บไซต์ที่บาร์เทอร์คาร์ดสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับระบบอีเพย์เมนต์ เกตเวย์ ซึ่งจากเดิมในประเทศไทยมีผู้ใช้งานเพียง 10% ให้เป็น 25 % ในปีนี้ให้ได้

ปีนี้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน พบว่ามีการชะลอตัวลง จึงนับเป็นโอกาสในการทำธุรกิจของบาร์เทอร์คาร์ดให้สามารถเติบโตขึ้นจากในปีที่ผ่านมา เนื่องจากหลาย ๆ ธุรกิจ จำเป็นต้องเร่งเพิ่มยอดตัวเลขกำไร ระบายสินค้าในสต็อก และลดค่าใช้จ่ายในการทำตลาดเพื่อขายสินค้า ธุรกิจการแลกเปลี่ยนสินค้าของบาร์เทอร์คาร์ด จึงเป็นอีกเครื่องมือสำคัญในการช่วยขยายช่องทางการตลาด พร้อมกับเพิ่มกระแสเงินสดให้ธุรกิจ ให้สามารถนำไปซื้อสินค้าหรือบริการที่จำเป็นต้องใช้อยู่แล้วจากธุรกิจสมาชิกกว่า 35,000 ธุรกิจใน 9 ประเทศทั่วโลก ซึ่งในประเทศไทย บาร์เทอร์คาร์ด มีจำนวนสาขาทั้งหมด 6 สาขา ได้แก่ สาขาสีลม ทองหล่อ ลาดพร้าว พัทยา ภูเก็ต และเชียงใหม่ โดยล่าสุดบาร์เทอร์คาร์ดมีสมาชิกมากกว่า 3,000 ธุรกิจ

โดยแบ่งเป็นธุรกิจ SMEs 85% ธุรกิจขนาดใหญ่ 15% มีพันธมิตรทางธุรกิจใหม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกกว่า 60 ธุรกิจต่อเดือน ส่งผลให้บาร์เทอร์คาร์ดประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นอันดับ 2 ของโลกในปี 2558 และปี 2559 ที่ผ่านมา