รักซ้อนซ่อนเงื่อน ฆาตกรรมอำพราง สาวขรก.ที่นครพนม

รักซ้อนซ่อนเงื่อน ฆาตกรรมอำพราง สาวขรก.ที่นครพนม

คลี่ปมคดีฆาตกรรมอำพราง สาวขรก.จัดหางานฯนครพนม ชี้รักซ้อนซ่อนเงื่อน ด้านตำรวจจ่อออกหมายจับหนุ่ม หนึ่งในสองคนติดพัน

จากกรณีที่มีผู้พบศพ น.ส.นันธิดา เพ็งเวลุน อายุ 31 ปี ข้าราชการสังกัดกระทรวงแรงงานประจำสำนักงานจัดหางานจังหวัดนครพนม แผนกฝ่ายทะเบียนต่างด้าว ที่ถูกฆาตกรรมแขวนศพอำพราง บริเวณหลังห้องครัว ห้องเช่าหมายเลข 1 ของบ้านเลขที่26/15 ซอยสว่างพัฒนา ต.หนองแสง เขตเทศบาลเมืองฯ

เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า คนร้ายที่เป็นฆาตรกรน่าจะมีความคุ้นเคยกับผู้ตาย เพราะห้องเช่าดังกล่าว ผู้เช่าส่วนใหญ่จะเป็นข้าราชการสังกัดกระทรวงแรงงานเกือบทั้งหมด ที่สามารถเข้านอกออกในได้อย่างสะดวก เหตุเกิดเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 มี.ค.60 ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

วันที่ 11 มี.ค.60 เวลา 10.00 น. พ.ต.อ.ศักดิ์ชาย สาดมะเริง รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.ท.สุขสวัสดิ์ บัวอิ่น รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม พ.ต.ท.คมเดช รุ่งบุตรศรี สว.สส.ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเดินทางไปยัง บ้านเลขที่ 26/15 ซอยสว่างพัฒนา ต.หนองแสง เขตเทศบาลเมืองฯ ห้องหมายเลข 1 ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุฆาตกรรมอำพราง น.ส.นันธิดา เพ็งเวลุน อายุ 31 ปี ข้าราชการสังกัดกระทรวงแรงงานประจำสำนักงานจัดหางานจังหวัดนครพนม แผนกฝ่ายทะเบียนต่างด้าว เพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติม

พบมีดปลายแหลม อยู่ในลิ้นชักเก็บของ จำนวน 1 เล่ม อยู่ในห้องอาบน้ำบนชั้นวางสบู่ อีก 1 เล่ม เบื้องต้นไม่มีคราบเลือด บนที่นอนมีร่องรอยถูกกรีดด้วยของมีคม เป็นทางยาวและบนหมอน จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐานประกอบคดี ในขณะเดียวกันได้เชิญตัว นายประจักษ์ หรือเจี๊ยบ บัวคำ อายุ 34 ปี เป็นพนักงานขับรถของสำนักงานจัดหางานจังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นเพื่อนชายคนสนิทที่ทำงานแห่งเดียวกันกับผู้ตาย มาสอบสวน

เนื่องจากทราบว่า ก่อนเกิดเหตุฆาตกรรมอำพราง นายเจี๊ยบกับผู้ตายอยู่ภายในห้อง 2 ต่อ 2 นายเจี๊ยบสารภาพว่า ได้อยู่กับผู้ตายในห้องจริง โดยเปิดเผยว่า คืนวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนมีกุญแจสำรอง ได้เปิดกุญแจเข้าไปนอนรอผู้ตายอยู่ในห้อง ซึ่งในขณะนั้น นางสาวนันธิดา ผู้ตาย ได้ไปเที่ยวงานสมโภชประจำปี 2560 นมัสการพระธาตุท่าอุเทน จนกระทั่งผู้ตายมาถึงห้อง เวลาประมาณ 21.00 น. จากนั้นได้ร่วมหลับนอนกัน

ระหว่างนั้น มีเสียงผู้ชายมาเคาะประตูเรียก แต่ผู้ตายไม่ได้ขานรับ หลังเสร็จกิจตนจึงถามว่า ทำไมถึงนัดผู้ชายมาซ้อนกัน นางสาวนันธิดาฯ ตอบว่า นัดนายชัยชิต หรือเล็ก นำเงินที่ยืมไปก่อนหน้านี้มาส่งคืน ด้วยอารมณ์หึงหวงจึงไปคว้ามีดปอกผลไม้ แทงที่นอนและหมอนจนขาดกระจุย แต่ไม่ได้ทำร้าย น.ส.นันธิดาฯ

ขณะที่มีปากเสียงกันอยู่นั้นได้มีโทรศัพท์มายังมือถือของผู้ตาย ปรากฏชื่อ เป็นนายเล็ก โดยผู้ตายบอกนายเล็กว่า ให้มาหาที่ห้องเลย หลังวางสายก็ไล่ตนออกจากห้อง จากนั้นก็เดินไปขึ้นรถที่จอดอยู่นอกรั้วขับออกไปสวนกับรถเก๋งของนายเล็กที่ขับเข้ามาพอดี มารู้อีกทีว่า น.ส.นันธิดาฯ ถูกฆาตกรรมในช่วงบ่ายของวันที่ 10 มี.ค.60 ตนยืนยันว่าไม่รู้เห็นสาเหตุการตายของ น.ส.นันธิดาฯ แต่อย่างใด

คำให้การของนายประจักษ์ หรือ เจี๊ยบ ไปสอดคล้องกับคำให้การของนายชัยชิต หรือเล็ก ว่า ผู้ตายนัดให้เอาเงินมาให้ที่ห้องจริง แต่เมื่อมาถึงเห็นประตูล็อคอยู่ด้านใน จึงเคาะประตูเรียกอยู่หลายครั้ง แต่ไม่มีเสียงตอบรับ นายเล็กจึงไปนั่งที่โต๊ะม้าหินอ่อนอยู่พักใหญ่ๆ พร้อมกับกดโทรศัพท์เข้าเครื่องของ น.ส.นันธิดาฯ แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับ จึงขับรถออกจากบริเวณนั้นไป แล้วพยายามกดโทรศัพท์หาผู้ตายจนมีสัญญาณ ตนจึงบอกว่า จะเอาเงินที่ยืมไปมาคืนที่ไหน ผู้ตายบอกให้มาหาที่ห้องเลย จึงขับรถมา แล้วพบว่า ประตูห้องถูกเปิดออก มองเข้าไปในห้องไม่มีใคร จึงเดินไปที่หลังครัว พบร่างของผู้ตายห้อยอยู่กับตะแกรงกันขโมย ได้ใช้มือไปเขย่าร่าง เรียกชื่อผู้ตาย ไม่มีเสียงตอบ ด้วยความตกใจ จึงรีบปิดประตูห้อง ขับรถออกมาทันที

รอจนถึงเช้า ได้โทร.ไปที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดนครพนม ว่า น.ส.นันธิดาฯ ได้มาทำงานหรือไม่ เพื่อนที่ทำงานบอกว่า ไม่ได้มา จึงกลับมาดูที่ห้องอีกครั้ง ในเวลา 11.00 น. ของวันที่ 10 มี.ค.60 พบศพของผู้ตายยังอยู่ที่เดิม จึงไปแจ้งความกับตำรวจดังกล่าว

ในเบื้องต้น พ.ต.อ.ศักดิ์ชาย สาดมะเริง รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม ได้ตรวจร่างกาย นายประจักษ์ หรือเจี๊ยบ มีรอยแผลใหม่อยู่ที่ไหล่ขวา ไหล่ซ้ายมีรอยเหมือนถูกเล็บจิก แต่นายเจี๊ยบยืนยันว่า ไม่ได้เป็นฆาตกร ระหว่างที่ดูเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บรายละเอียด นายเจี๊ยบยกน้ำดื่มอยู่ตลอดเวลา

ทางด้านเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้กล่าวว่า การตายของนางสาวนันธิดาฯ แตกต่างไปจากการแขวนคอตายเอง เพราะโดยปกติถ้าหากมีการฆ่าตัวตาย แผ่นหลังจะต้องมีเลือดคลั่ง นอกจากนี้ปมผ้าที่มัดแขวนคอนั้น เป็นการรัดเฉย ๆ แบบไม่มีปม ประกอบกับบริเวณที่ใช้ผ้ามัดสุดตะแกรงเหล็ก ถึงพื้นมีความสูง 285 ซม. เมื่อนำมาเปรียบเทียบสรีระของผู้ตาย ที่สูง 160 ซม. ความสูงของเก้าอี้ 50 ซม. พร้อมกับความยาวของแขนประมาณ 60 ซม. มารวมกันแล้วยังไม่ถึง 285 ซม. จึงเชื่อว่า คนที่เป็นฆาตกรจะต้องมีรูปร่างสูงใหญ่ พอสมควร

นอกจากนี้บนร่างกายของผู้ตาย บริเวณหน้าอกของด้านซ้ายมี Kiss mark คือ รอยจูบอย่างรุนแรง ที่คนร้ายประทับไว้บนร่างของคนตาย และที่บริเวณช่องคลอด มีเลือดไหลออกมา จำนวนมาก ซึ่งต้องรอผลการพิสูจน์ศพจาก รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ว่าร่องรอยดังกล่าว เกิดจากอะไร

ล่าสุด ผลการชันสูตรศพเบื้องต้น นางสาวนันธิดาฯ ผู้ตาย ถูกฆาตกรรมด้วยการบีบคอ จนขาดอากาศหายใจ ก่อนที่จะนำศพไปแขวน อำพรางว่า เจตนาฆ่าตัวตาย พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้หลักฐานการส่งไลน์ของหนึ่งในสองผู้ต้องสงสัย ถึงสาวคนรักอีกคนหนึ่งซึ่งทำงานใกล้กัน ทำนองสารภาพผิดที่นอกใจ พร้อมฝากดูแลลูกชาย ระหว่างที่ตัวเองต้องโทษในเรือนจำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องสงสัยหนึ่งในสองคนนี้