ROBINS - ซื้อ

ROBINS - ซื้อ

กลยุทธิ์ที่สร้างสรรค์หนุนการเติบโตที่งดงาม

ประเด็นการลงทุน

เรายังคงประทับใจในกลยุทธ์และแผนธุรกิจของ ROBINS โดยเราเชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวจะช่วยหนุนให้กำไรของบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่งแม้ว่าการบริโภคภายในประเทศจะยังคงชะลอตัวก็ตาม นอกจากนี้เรามองว่าราคาปัจจุบันน่าสนใจ โดย ROBINS ซื้อขายที่ PER เพียง 21.9 เท่าในปี 2560 ซึ่งถูกที่สุดในกลุ่ม ดังนั้นเราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ROBINS โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2560 ที่ 72 บาท

ไร้ความกังวลแม้ว่ายอดขายสาขาเดิมจะอ่อนตัว

เรามองกลยุทธ์การเพิ่มยอดขายของ ROBINS ว่าเป็นกลยุทธ์ที่สร้างสรรค์แผนการจัดสรรพื้นที่โดยลดพื้นที่ขายของแผนกที่ขายไม่ดีอย่างเสื้อผ้าลง และ เปลี่ยนเป็นพื้นที่สำหรับแผนกที่ขายดีอย่างเช่นรองเท้า กางเกงยีนส์ ชุดชั้นใน สินค้าเด็กเล็ก กระเป๋าเดินทาง สินค้าภายในบ้าน และเครื่องสำอางค์ จะส่งผลให้ยอดขายต่อตรม.เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้แผนการการจัดสินค้า และบริการเพื่อให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่น่าจะช่วยสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งได้อย่างดี เราเชื่อว่ากลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยหนุนยอดขายสาขาเดิมให้กลับมาเติบโตแข็งแกร่งในระยะยาวได้ ดังนั้นเรามองว่า ยอดขายสาขาเดิมที่อ่อนตัวในช่วงนี้จากความต้องการจับจ่ายใช้สอยที่ชะลอตัว จะเกิดขึ้นในเพียงระยะสั้น เราเชื่อว่ายอดขายสาขาเดิมจะกลับมาเติบโตอีกครั้ง ในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 ซึ่งน่าจะช่วยหนุนให้ยอดขายสาขาเดิมปี 2560 เป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ที่ 1-2%

อัตรากำไรขั้นต้นอาจขยายตัวได้มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้

เรายังคงยืนยันว่าปัจจัยหลักที่หนุนกำไรในปีนี้ไม่ใช่ยอดขาย แต่เป็นอัตรากำไรขั้นต้น โดยเราเชื่อว่าประมาณการของเราที่ว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะขยายตัว 0.35% ในปี 2560 และ 2561 และ 0.25% ในปี 2562 นั้นสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ แต่เมื่อไปเปรียบเทียบกับเป้าหมายของบริษัท กลับกลายเป็นว่าสมมุติฐานของเรานั้นอาจจะต่ำเกินไป โดย ROBINS คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะขยายตัว 0.3-0.5% ต่อปีจนถึงปี 2563 หนุนโดยปัจจัยดังต่อไปนี้ 1) สัดส่วนของสินค้าแบรนด์ตัวเอง/สินค้า exclusive แบรนด์ที่เพิ่มมากขึ้น (จาก 11% ในปี 2559 มาอยู่ที่ 14% ในปี 2560 และ 20% ในปี 2563), 2) การลดจำนวนโปรโมชั่นลดราคา และ 3) การสร้างความแตกต่างของผลิตภัณฑ์และการบริการ (เช่น การพิมพ์หรือปักชื่อลงบนสินค้า)

รุกเข้าสู่ธุรกิจ E-commerce มากขึ้น

คล้ายกับธุรกิจค้าปลีกรายอื่นๆ ROBINS หันมารุกธุรกิจ E-commerce มากขึ้น แต่สิ่งที่แตกต่างจากรายอื่นๆในกลุ่มคือ บริษัทมีแผนธุรกิจที่ชัดเจนและมีแบบเชิงรุกมากกว่า โดยธุรกิจออนไลน์ของ ROBINS มีแนวโน้มทำกำไรได้ดีกว่ารายอื่นๆ เพราะว่าไม่มีการใช้การลดราคามาดึงดูดลูกค้า สินค้าส่วนใหญ่บนเว็บไซต์เป็นสินค้าเฉพาะ ซึ่งมีขายที่ Robinson เท่านั้น นอกจากนี้เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ที่อยู่ในต่างจังหวัดไม่ค่อยคุ้นเคยกับการเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ บริษัทจึงวางแผนจะที่ให้การสาธิตและชักจูงลูกค้าแบบตัวต่อตัวเพื่อให้ลูกค้าคุ้นเคยกับการซื้อของออนไลน์ที่โรบินสัน ทั้งนี้ ROBINS คาดว่ายอดขายออนไลน์จะอยู่ประมาณ 3% ของยอดขายในปี 2563 เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ต่ำกว่า 1%