ฉุนสื่อ! ตีข่าวขึ้นภาษีทำวุ่น ซัดอย่างนี้เรียกว่าช่วยหรือ

ฉุนสื่อ! ตีข่าวขึ้นภาษีทำวุ่น ซัดอย่างนี้เรียกว่าช่วยหรือ

"ประยุทธ์" ฉุนสื่อบอกน่ารังเกียจ ตีข่าวขึ้นภาษีทำวุ่น ซัดอย่างนี้เรียกว่าช่วยหรือ ชี้อย่าทำโอกาสให้เป็นวิกฤต

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 10 มีนาคม ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดงาน SMEs Revolution : เส้นทางสายโอกาสเอสเอ็มอี 4.0 ซึ่งมีกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นเจ้าภาพ อาทิ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมให้การต้อนรับ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า เราต้องพัฒนาการเรียนรู้หยุดนิ่งไม่ได้ ต้องช่วยกันคิดว่าทุกคนจะช่วยกันเดินหน้าประเทศอย่างไร ต้องเข้าใจว่าวันนี้ประเทศไทยเดินหน้าด้วยยุทธศาสตร์ และทำมาตลอดตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งเราต้องเดินหน้าประเทศด้วยยุทธศาสตร์ชาติทั้ง 6 ด้าน คือ ความมั่นคงทางด้านทหาร เศรษฐกิจ สังคม โดยประชาชนจะต้องมีส่วนร่วม การเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน การลดความเหลื่อมล้ำ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนาภายในความสมดุล และสิ่งแวดล้อม โดยทุกคนต้องคำนึงส่วนร่วม ไม่ใช่คิดแต่เรื่องส่วนตัว เหมือนเต่าที่เดินไปข้างหน้าแล้วงับหางตัวเองตลอดทาง หรือเป็นกระต่ายที่นอนหลับตลอดทาง เลือกเอาว่าจะเป็นอะไร สิ่งที่จะทำให้เราทันกับสถานการณ์โลกคือต้องปรับตัวเอง ซึ่งรัฐบาลเข้ามาทำทุกอย่างโดยใช้หลักการเหตุผล และยุทธศาสตร์มาดำเนินการ โดยเฉพาะการบริหารจัดการระบบบริหารราชการแผ่นดินทั้งภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจให้มีประสิทธิภาพ

“การเดินไปข้างหน้าจะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และการทำความเข้าใจ อย่าบิดเบือน ผมเห็นในคอลัมน์หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง บอกว่ารัฐบาลไม่ดูแลเอสเอ็มอีอย่างจริงจัง เขียนว่ารัฐบาลมีกองทุนเพียง 2 หมื่นล้านบาทจะพออะไร ผมถามว่าเขียนอย่างนี้เขียนไปทำอะไร ผมพูดแล้วก็มีอารมณ์ เบรคไม่อยู่ อาจารย์สมคิด (จาตุศรีพิทักษ์) ก็เตือนให้ผมใจเย็น วันนี้เราต้องการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศ ถ้ายังยืนอยู่ที่เดิมไม่มีการพัฒนา ทุกอย่างก็ไปไม่ได้ เป้าหมายคือเราต้องเพิ่มขีดความสามารถของประเทศทุกด้านให้เข้มแข็งมากขึ้น เพื่อให้เกิดรายได้ลดความเหลื่อมล้ำของประชาชน ลดกับดักรายได้ปานกลาง วันนี้รัฐบาลทำทุกอย่างแต่ความร่วมมือ ความเข้าใจ คือสิ่งสำคัญที่สุด”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลไม่เคยนิ่งนอนใจพยายามขับเคลื่อนในทุกมิติ แต่ก็มีหลายคนที่ยังดูถูกประเทศในการจะเป็นศูนย์กลาง และพัฒนาในด้านต่าง ๆ เพราะเห็นว่าชาวนา ชาวไร่ ยังมีรายได้น้อยอยู่ ตนก็ไม่ทราบว่าจะพูดกันไปทำไม ทำลายศักยภาพของตัวเอง ขอร้องว่าอย่าเอาโอกาสมาเป็นวิกฤต และทำวิกฤตให้เป็นวิกฤตมากกว่าเดิม วันนี้ตนจำเป็นต้องดุเดือด เพราะทุกอย่างต้องขับเคลื่อน ทั้งที่ตนเองเป็นคนเรียบร้อย นุ่มนวล ไม่มีใครชมก็ต้องชมตัวเอง เราต้องเน้นคุณค่ามากกว่าปริมาณ ประเทศไทยขับเคลื่อนด้วยเอสเอ็มอี มีสินค้าส่งออกประมาณร้อยละ 80-90 ถ้ารัฐบาลไม่ส่งเสริมเราจะทำอะไรได้

“แล้วคำพูดที่ว่าไปเอื้อประโยชน์ให้นายทุน พูดกันอยู่แค่นี้แทนที่จะพูดให้คนเหล่านี้พัฒนาตัวเองภายใต้กรอบที่รัฐบาลกำหนด ว่าจะต้องอะไรกันบ้างไม่ใช่สอนเพียงว่าให้ขอทุนอย่างเดียว แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาให้ เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ผมพูด และอธิบายเกี่ยวกับระบบภาษี และเรื่องต่าง ๆ เพราะมีประชาชนเรียกร้อง ขอโน้นขอนี่ ผมเองอยากจะให้ ก็อธิบายไปแต่กลับกลายเป็นว่าผมต้องการจะขึ้นภาษี ไม่เข้าใจหรืออย่างไร สื่อวันนี้ เสนออะไรก็ได้ที่เป็นความขัดแย้ง ที่จะเป็นปัญหา พูดและเขียนกันเข้าไป เขียนพาดหัวข่าวหน้าหนึ่งกันเข้าไป ข้างในเนื้อข่าวไม่มีอะไร เขียนเหมือนที่ผมพูด แต่ข้างหน้าขอให้ได้เขียน เพื่อให้คนซื้อหนังสือพิมพ์ น่ารังเกียจนะผมจะบอกให้ แต่ก็คงไม่ใช่ทุกคน พวกที่ดี ๆ กับผมก็มีทุกคนก็พูดว่ารักผม อยากช่วยผม แต่ที่เขียนมาแบบนี้อยากถามว่าช่วยอะไร อย่างนี้เรียกว่าช่วยหรือ” นายกฯ กล่าว