หุ้นไทยมีโอกาสเคลื่อนไหว “แดนลบ”

หุ้นไทยมีโอกาสเคลื่อนไหว “แดนลบ”

โบรกฯ คาดดัชนียังถูก 'กดดัน' จากปัจจัยเก่าๆ ทั้งราคาน้ำมันร่วง การขึ้นดอกเบี้ย และเงินต่างชาติไหลออก และยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา

บล.กรุงศรี ระบุว่า วันนี้ (10มี.ค.) ดัชนี SET Index ยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามา แต่ปัจจัยลบเก่ายังคงอยู่ทำให้ SET ยังมีโอกาสลดลง โดยปัจจัยลบที่กดดันตลาด คือ ราคาน้ำมันดิบร่วงหลุด 50$/bbl เนื่องจากตลาดยังกังวลต่อภาวะ Over supply เป็นลบต่อแนวโน้มผลประกอบการและ Sentiment การลงทุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน อาทิ PTT และ PTTEP

คาดเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 15 มี.ค. และการเลือกตั้งในเนเธอร์แลนด์ยังมีความไม่แน่นอนทำให้นักลงทุนยังชะลอการลงทุนและลดความเสี่ยงก่อนจะรู้ผลจริงในสัปดาห์หน้า และ Bond yield ปรับขึ้น ค่าเงินบาทอ่อนค่า fundflow ต่างชาติยังไหลออก กดดันหุ้นกลุ่ม Big cap อื่นๆ อาทิ สื่อสาร ธนาคาร ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในระยะนี้จึงเน้น Selective Buy

สำหรับหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว อาทิ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า คือ อิเล็กทรอนิกส์ (KCE HANA) และกลุ่มอาหาร (CPF GFPT),2)กลุ่มเดินเรือ (PSL TTA) ดัชนีค่าระวางเรือ BDI เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 19 จุด ปิดที่ 1,064 จุด (+1.82%), 3)หุ้นที่ได้ผลบวกจากราคาน้ำมันดิบลดลง อาทิ EPG TASCO 4)BLA รับผลบวกอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลมีแนวโน้มสูงขึ้น และ 5)หุ้นที่จ่ายปันผลสูง (KKP SPRC)

ด้านกลยุทธ์การลงทุนวันนี้  Seclective Buy หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น :EPG (ซื้อ/เป้า 16) ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่าและราคาน้ำมันดิบปรับลงหนุนความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้น,TASCO(ซื้อ/เป้า Consensus 30.6) รับผลบวกราคาน้ำมันดิบลดลงแรง และคาดผลประกอบการ 1Q17 เติบโตต่อเนื่องรับอานิสงส์ยอดใช้ยางมะตอยเพิ่มขึ้นจากเหตุน้ำท่วมภาคใต้ ขณะที่ราคายางมะตอยในตลาดโลกเริ่มฟื้นตัวจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นของอินโดฯและจีน