MORNING CALL ACTION NOTES (9 มี.ค.60)

MORNING CALL ACTION NOTES (9 มี.ค.60)

น้ำมันร่วงแรง

ดัชนีหุ้นไทยวานนี้ผันผวนมากเนื่องจากความกังวล FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้ Fund Flow ต่างชาติไหลออก อย่างไรก็ตามมีแรงซื้อคืนระหว่างวันหลังจากที่ไม่หลุดแนวรับ 1,530 จุด ส่งผลให้ SET รีบาวด์กลับมาปิดบวกเล็กน้อยที่ 1,551.73 จุด (+1.86 จุด) Vol. 6.2 หมื่นลบ.โดย Foreign Net -843 ลบ. , TFEX Net +1,436 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

- คาด FED ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 0.75 - 1% ในการประชุม 14 – 15 มี.ค.

- ตลาดหุ้น DJ ปรับตัวลงจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงแรง , ความกังวล FED ขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมถึงตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 298,000 ตำแหน่ง

- ราคาน้ำมันทรุดตัวลงแรงล่าสุด 50.5 US/Barrel หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 8.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้และเป็นการเพิ่มขึ้น 9 สัปดาห์ติดต่อกัน

- Fund Flow ต่างชาติเป็น Net Sell 8 วันต่อเนื่องราว 1.1 หมื่นลบ. รวมถึงทิศทางเงินบาทอ่อนค่าลงล่าสุด 35.3 Bath/USD.

+/- GL แจงเหตุจำเป็นปล่อยกู้ผ่านบ.ย่อยในสิงคโปร์หนุนธุรกิจในกัมพูชา ยันไร้ปัญหา-หลักทรัพย์ค้ำประกันสูง

+ LHBANK ทางการไต้หวันอนุมัติ CTBC เข้าร่วมลงทุน 35.6%

** วันนี้ 9 มี.ค. ติดตามประชุม ECB คาดคงดอกเบี้ย,เล็งทบทวน QE หลังเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสู่ 2% ในเดือนก.พ.

** OPP DAY 9 มี.ค. SPCG DRT ARROW QLT HARN TKT PCSGH 10 มี.ค. JUBILE NCH GUNKUL BAFS FN BJC

ภาวะตลาดหุ้นไทยยังคงถูกกดดันจาก Fund Flow ต่างชาติไหลออกตามการคาดการณ์ FED จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 14 – 15 มี.ค. รวมถึงราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงแรงกว่า 5% เป็นลบต่อกลุ่มพลังงาน ดังนั้นประเมินว่า SET จะอ่อนตัวลงโดยมีแนวรับบริเวณ 1,540 – 1,545 จุด

กลยุทธ์การลงทุน รอซื้อช่วงอ่อนตัวแบบ Selective

- ITEL ILINK ร่วมรับงานจ้างเหมาตรวจซ่อมบำรุงเคเบิ้ลใยแก้วให้ กฟภ.รวม124.58 ลบ.

- TTA PSL ค่าระวางเรือทำ High ในรอบ 2 เดือน ล่าสุด 1,045 จุด

- TASCO ได้ประโยชน์จากราคายางมะตอย +7.8%MoM และ Demand ที่เพิ่มขึ้นเพื่อซ่อมแซมถนนหลังน้ำท่วมภาคใต้

- กลุ่มส่งออก (อาหาร อิเล็กทรอนิกส์) อานิสงส์เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลง

- กลุ่มธนาคารได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น แนะนำหุ้นแบงก์ใหญ่ SCB KTB KBANK

หุ้นแนะนำพิเศษ

SCN    Analyst meeting    (ราคาปิด 7.70 บาท ราคาพื้นฐาน 9.90 บาท)

- กำไรปี 59 ที่ 308 ล้านบาท +37%YoY เนื่องจากธุรกิจที่เกี่ยวกับก๊าซธรรมชาติมีการเติบโต 34%YoY จากการรับรู้รายได้จาก 3 สถานีจำหน่ายก๊าซธรรมชาติกำลังการอัด 1 แสนตันต่อวัน ส่งผลให้ในปัจจุบันมีสถานีจำหน่ายก๊าซ 7 สถานีกำลังการอัด 3 แสนตันต่อวัน

- รายงานกำไรปี 59 ที่ 308 ล้านบาทเติบโต 37%YoY เนื่องจากธุรกิจที่เกี่ยวกับก๊าซธรรมชาติมีการเติบโต 34%YoY จากการรับรู้รายได้จาก 3 สถานีจำหน่ายก๊าซธรรมชาติกำลังการอัด 1 แสนตันต่อวัน ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีสถานีจำหน่ายก๊าซ 7 สถานี กำลังการอัด 3 แสนตันต่อวัน

- ผู้บริหารตั้งเป้าขยายสถานีจำหน่ายก๊าซธรรมชาติเพิ่มอีก 9 สถานีกำลังการผลิตรวม 3.7 แสนตันต่อวัน โดยกำลังก่อสร้าง 6 สถานีคาดว่าจะเริ่มดำเนินงานได้ภายในไตรมาส4/60 และมองหาโอกาสเข้าลงทุนสถานีฯที่ดกเนินงานอยู่อีก 3 สถานี นอกจากนี้คาดว่าจะเปิดสถานีอัดก๊าซฯสำหรับอุตสาหกรรมแห่งที่ 2 ที่สระบุรีภายในปีนี้ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อผลประกอบการเพิ่มเติม

  ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการของบริษัท เนื่องจากบริษัทยังเดินหน้าขยายสถานีจำหน่ายก๊าซฯ อย่างต่อเนื่อง โดยเราเชื่อว่ายอดจำหน่ายก๊าซฯ จะเติบโตตามจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทเน้นจับกลุ่มลูกค้าในภาคขนส่งเป็นหลัก โดยปัจจุบันราคาก๊าซฯ ถูกกว่าราคาน้ำมันดีเซลราว 50% ซึ่งจากการศึกษาของบริษัทพบว่าการใช้ก๊าซฯ ในภาคขนส่งจะช่วยลดต้นทุนค่าเชื้อเพลิงได้ราว 1 แสนบาทต่อคันต่อปี

หุ้นมีข่าว

- LHBANK (ราคาปิด 1.84 บาท ซื้อเก็งกำไร ราคาเหมาะสม 2.20 บาท) แบงก์ชาติ ไต้หวันไฟเขียว CTBC ซื้อหุ้นเพิ่มทุน LHBANK สัดส่วน 35.61% หรือคิดเป็น มูลค่า1.6 หมื่นล้านบาท พร้อมเดินหน้า ขออนุมัติจาก ธปท.และก.ล.ต. มั่นใจดำเนินการ ร่วมทุนเสร็จตามกรอบวันที่ 30 กันยายนนี้ ด้านสินเชื่อรวมปี 2560 มั่นใจเติบโต 10% จากพอร์ตสินเชื่อปีก่อนอยู่ที่ 1.5 แสน ล้านบาท (ทันหุ้น)

  ความเห็น คาดกระบวนการร่วมทุนจะเดินหน้าต่อในเดือนนี้และเสร็จสินกระบวนการราวเดือนก.ย. 60 ได้ตามแผน ซึ่งจะทำให้จำนวนหุ้นสามัญ ณ ปลายปีเพิ่มขึ้น 55% จากหุ้นเพิ่มทุนที่จัดสรรให้กับ CTBC ซึ่งในการรวมกิจการ LHBANK จะได้รับประโยชน์จากการมีพันธมิตรเข้ามาช่วยเสริมธุรกิจ Trade Finance และ Digital Banking ซึ่งจะช่วยหนุนรายได้ค่าธรรมเนียมสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องแม้มีฐานการเติบโตที่สูงในปี 59 อย่างไรก็ดี จำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นมีผลให้อัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้นติดลบ รวมทั้ง ROE ที่คาดว่าจะลดลงจากปี 59 เราจึงแนะนำเพียง “ซื้อเก็งกำไร” ทั้งนี้ประมาณการกำไรปี 60 เบื้องต้นอยู่ที่ราว 2.9 พันล้านบาทเติบโต 10% จากปี 59 โดยอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการ

- SIRI (ราคาปิด บาท ถือ ราคาเหมาะสม 2 บาท) เจาะลูกค้าต่างชาติตั้งเป้าขายคอนโดมิเนียม 8,000 ลบ. เพิ่มเป้าจากเมื่อต้นปีที่อยู่ที่ 7,500 ลบ. เติบโตจากยอดขาย 5,400 ลบ. เมื่อปี 59 ประมาณ 50%จากแนวโน้มดีมานด์ความต้องการที่อยู่อาศัยในเมืองไทยอยู่ในระดับสูงกว่าที่คาดการณ์ รวมทั้งลูกค้าในต่างประเทศรู้จักและเชื่อมั่นใน
แบรนด์แสนสิริมากขึ้นทำให้ตัดสินใจซื้อโครงการได้ง่ายขึ้น

  ความเห็น : แบรนด์แสนสิริเป็นที่ยอมรับของลูกค้าต่างชาติมากขึ้นและในปีที่ผ่านมามีการเปิดให้จองคอนโดฯในต่างประเทศพร้อมกันกับการเปิดขายในประเทศทำให้ได้รับการตอบรับที่ดี และยอดขายบางโครงการติดเพดานลูกค้าต่างชาติ สำหรับประมาณการกำไรปี 60 อยู่ที่ราว 3.2 พันล้านบาททรงตัวเมื่อเทียบกับกำไรปี 59 สำหรับกำไร 1Q60 มีแนวโน้มลดลงที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์รายไตรมาสใน 4Q59 โดยน่าจะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฐานที่ต่ำเพียง 556 ล้านบาท

- SUPER เผยโซลาร์ฟาร์มสหกรณ์ COD เพิ่ม 5 MW ดันกำลังผลิตรวมเพิ่มเป็น 735.60 MW

- MINT คาดปี 60 กำไรฟื้นโต 15-20% จากปีก่อนหดตัวหลังปรับกลยุทธธุรกิจ วางเป้ารายได้โต 10% (อินโฟเควสท์)

- GL แจงเหตุจำเป็นปล่อยกู้ผ่านบ.ย่อยในสิงคโปร์หนุนธุรกิจในกัมพูชา ยันไร้ปัญหา-หลักทรัพย์ค้ำประกันสูง

   ความเห็น : เช้านี้ข่าวหุ้นได้ยกประเด็นเรื่องเงินลงทุนใน CCP ที่ประเทศศรีลังกาตามที่ผู้สอบบัญชีให้ความเห็นว่าราคาหุ้นที่ลดลงอาจทำให้ GL ต้องตั้งสำรองด้อยค่า ขณะที่ consensus มีแนวโน้มปรับลดอัตราการเติบโตของสินเชื่อในปีนี้ลง และปรับลดราคาเหมาะสม ฝ่ายวิจัยแนะนำให้ชะลอการลงทุนไปก่อนจนกว่าจะมีความชัดเจน

ตลาดหุ้นดาวโจนส์ -69.03 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,855.73 จุด ลดลง 69.03 จุด หรือ -0.33% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,837.55 จุด เพิ่มขึ้น 3.62 จุด หรือ +0.06% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,362.98 จุด ลดลง 5.41 จุด หรือ -0.23% หลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงกว่า 5% ซึ่งฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงด้วย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดจากกระแสคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ หลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) รายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนก.พ.

ตลาดน้ำมัน NYMEX -2.86 USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 2.86 ดอลลาร์ หรือ 5.4% ปิดที่ 50.28 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 9 ซึ่งส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานพลังงานล้นตลาด