ตามรอยรัก บนเขา’อะซาริ’

ตามรอยรัก บนเขา’อะซาริ’

หิมะตก ต้องไปเที่ยวฮอกไกโด โดยเฉพาะเส้นทางโรแมนติกตามรอยหนังแฟนเดย์ เดือนธค.-กพ.เหมาะที่สุด



ช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา มีโอกาสไปลุยหิมะที่ประเทศญี่ปุ่น เพราะมีคนชวนไปเล่นสกีที่เกาะฮอกไกโด แล้วขึ้นไปสั่นระฆังบนยอดเขาอะซาริ (หนึ่งในร้อยแห่งจุดชมวิวสวยที่สุดในญี่ปุ) ตั้งอยู่ที่เมืองซัปโปโร แล้วพักที่คิโรโระรีสอร์ท ของผู้บริหารคนไทยกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค

โดยการท่องเที่ยวครั้งนี้ เป็นการตามรอยหนังโรแมนติกเรื่อง แฟนเดย์ และได้แวะไปประทับตราแหล่งท่องเที่ยวเกือบทุกจุดไว้ในสมุด Kiroro lover ที่แจกมา

ทริปนี้จึงไม่ธรรมดา เพราะเล่นสกีไม่เป็น และต้องไปอยู่ท่ามกลางหิมะหนาวเย็นที่ไม่คุ้นเคยมากนัก ซึ่งหลายวันของการท่องเที่ยวจะต้องอยู่กับหิมะที่มีสภาพไม่ต่างจากปุยนุ่น และส่วนใหญ่ก็ลื่นมาก ถ้าไม่มีรองเท้าที่ดีพอ ก็จะมีปัญหาในการเดินเหินบนน้ำแข็งก้อนมหึมา

แต่คราวนี้โชคดีที่มีตัวช่วย เพราะความช่างคิดของคนญี่ปุ่น จึงประดิษฐ์ยางรัดรองเท้า โดยพื้นด้านล่างทำเป็นขดลวดสามารถเดินเหินบนหิมะได้ดีกว่ารองเท้าธรรมดา ทำให้กะเหรี่ยงหลายคนในทริปนี้จำต้องใช้บริการ เพราะใส่แล้วเกาะพื้นน้ำแข็งได้ดีทีเดียว

1
แม้ภาพยนตร์เรื่องแฟนเดย์ที่ฉายในเมืองไทย จะไม่ดังเปรี้ยงปร้างเหมือนซีรีย์เกาหลี แต่ถือว่าเป็นความชาญฉลาดในการทำการตลาด โดยเอาสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตไว้ในภาพยนตร์ จึงได้ทั้งการโปรโมทท่องเที่ยวให้ประเทศญี่ปุ่น และช่วยสร้างจุดขายให้คิโรโระรีสอร์ทของคนไทย
เพราะใครๆ ก็อยากมาเที่ยวฮอกไกโด ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ที่นี่เป็นเกาะใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ เต็มไปด้วยธรรมชาติภูเขาสูง ทุ่งหญ้า ผืนป่า และทะเลสาป โดยเฉพาะฤดูหนาว อากาศจะหนาวเย็นมาก เหมาะแก่การท่องเที่ยว

ครั้งนี้จุดหมายปลายทางอยู่ที่ ซัปโปโร เมืองหลวงของเกาะฮอกไกโด เมืองที่มีแม่น้ำโทโยฮิร่าไหลผ่านทางด้านตะวันออก แต่ด้านตะวันตกมีแนวเทือกเขาสูงตั้งขนานไปทางเหนือหลายลูก จึงทำให้จุดชมวิวบนยอดเขาโมอิวะ สามารถมองเห็นซัปโปโรได้ทั้งเมือง

ว่ากันว่าผังเมืองของเมืองนี้ มีลักษณะเป็นตารางสี่เหลี่ยม แต่พิเศษกว่านั้นคือ นอกเมืองมีจุดชมวิวจำนวนมาก ยังเป็นแหล่งเล่นสกีที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากซัปโปโรขึ้นชื่อว่า มีหิมะที่ดีที่สุด ทุกๆ เดือนกุมภาพันธ์จะมีการจัดเทศกาลหิมะ ซึ่งเป็นช่วงเดือนที่นักท่องเที่ยวมาเล่นสกี
ก่อนที่จะเล่าถึงการขึ้นเขาไปสั่นระฆังแห่งรักบนยอดเขาที่สูงที่สุด จะเรียกว่าหนาวที่สุดก็คงได้

ครั้งนี้พวกเราลงเครื่องที่สนามบินชิโตเสะ เพื่อให้เห็นว่า สนามบินไม่จำเป็นต้องเหมือนกันทั้งโลก ต้องมีสิ่งล่อตาล่อใจให้นักท่องเที่ยวตื่นเต้นบ้าง
เพราะคนญี่ปุ่นช่างคิด ช่างประดิษฐ์ ตั้งแต่สิ่งเล็กที่สุดจนถึงใหญ่ที่สุด ไอเดียที่แตกต่าง ทำให้สนามบินชิโตเสะ เป็นทั้งแหล่งช้อปปิ้ง และสถานที่เดินเล่นได้อย่างไม่เบื่อหน่าย พวกเขาจำลองอุตสาหกรรมนมเนยของ Royce ไว้ในสนามบิน เนื่องจากเป็นที่รู้จักของคนทั้งโลก และแบรนด์ต้นกำเนิดก็อยู่บนเกาะฮอกไกโด

Royce Chocolate ในสนามบินชิโตเสะ จำลองให้เห็นการทำช็อคโกแลต โดยพวกเขาใช้ทั้งหุ่นยนตร์และคนงานผลิตช็อคโกแลต ทำให้เราเห็นว่า แบรนด์นี้ มีกรรมวิธีการผลิตที่หลากหลายรูปแบบ รวมถึงเรื่องราวของโดเรมอน และผองเพื่อน แม้วันเวลาจะผ่านไปนานไหน ตัวการ์ตูนเหล่านี้ ก็ยังอยู่ในใจคนทั่วโลก

สนามบินชิโตเสะ จึงเป็นมากกว่าสนามบิน มีแหล่งชอปปิ้ง ร้านอาหารแบรนด์ชั้นนำของญี่ปุ่น ซึ่งไม่ต่างจากห้างสรรพสินค้า
ว่ากันว่า ซัปโปโร บนเกาะฮอกไกโด เป็นเมืองที่มีสีสัน ไม่แพ้เมืองใหญ่หลายเมืองในญี่ปุ่น และในช่วงเทศกาลหิมะ คนจากทั่วโลกจะบินมาที่นี่ ทำให้ถนนทุกสายมุ่งสู่ฮอกไกโด เนื่องจากที่นี่มีหิมะที่นุ่ม ดี หนาและเบา รวมถึงเป็นแหล่งฟาร์มนม และเป็นแหล่งอาหารทะเลอันดับสองของญี่ปุ่น มีพื้นที่ราบเยอะที่สุดในญี่ปุ่น มีใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามทุกฤดูกาล

นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งในเมืองและนอกเมือง ซัปโปโรมีจุดชมวิวอยู่กลางเมือง ทีวีทาวเวอร์ตั้งอยู่กลางสวนโอโดริและเจอาร์ทาวเวอร์ และถ้ามาเมืองนี้สิ่งที่พลาดไม่ได้คือ พิพิธภัณฑ์โรงเบียร์ซัปโปโร

2
อย่างที่เกริ่นนำตั้งแต่แรก เรามาตามรอยแฟนเดย์ ถ้าอย่างนั้นต้องไปที่ คิโรโระ รีสอร์ท ในเมืองซัปโปโร และเราก็อยู่ที่นั่นสองสามวัน เพื่อสัมผัสบรรยากาศและท่องเที่ยวรอบๆ ทั้งเล่นสกี นั่งกระเช้ากอนโดล่า ขึ้นเขาอะซาริ ไปเคาะระฆังแห่งรัก ชมโบสถ์ที่แสนโรแมนติก

คนที่มาพักคิโรโระรีสอร์ทส่วนใหญ่เป็นคนญี่ปุ่น และเมื่อนักบริหารเมืองไทยซื้อรีสอร์ทแห่งนี้มาปรับปรุงใหม่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาก็อยากให้คนไทยได้มาสัมผัสบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร ในรีสอร์ทที่อยู่ท่ามกลางหุบเขาสูงใหญ่ในหมู่บ้านอะไกกาว่า จังหวัดชิริเบะชิ และตั้งอยู่ใกล้กับลานสกีขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นแหล่งเล่นสกีี่ที่ได้รับความนิยมติดอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น

อย่างที่กล่าวมา เพราะหิมะที่นี่มีคุณภาพไม่เหมือนที่อื่น ซึ่งครั้งนี้หลายคนได้ลองฝึกฝนการเล่นสกี โดยมีครูฝึกที่เป็นคนไทย เกือบสิบคนที่ลงฝึกเล่นสกี แต่สามารถเล่นได้จริงๆ แค่สองคน เพราะต้องอาศัยความใจถึงและการทรงตัว ส่วนการเล่นสโนบอร์ด ก็ยากขึ้นไปอีก แต่ถ้าเล่นเป็นแล้วรับประกันได้ว่าสนุกแน่

แต่สกี คงไม่ใช่กีฬาที่คนไทยโปรดปรานมากนัก ดังนั้นการพักที่คิโรโระ จึงต้อง็มีกิจกรรมอื่นๆ ให้เลือกอีกหลายอย่าง ที่พลาดไม่ได้เลย ก็คือ แช่

ออนเซน กลางหิมะขาวโพลน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในแพ็คเกจทัวร์ และทุกคืนที่เราพักที่นั่น แทบจะไม่มีใครพลาดการแช่น้ำแร่ร้อนๆ เพื่อผ่อนคลายร่างกาย

เนื่องจากคิโรโระตั้งอยู่กลางหุบเขา จึงต้องมีทุกอย่างไว้บริการนักท่องเที่ยว ตั้งแต่ออนเซน ซาวน่า สปา และร้านขายของที่ระลึก ขนม 

3.
ส่วนไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ ก็คือ การสั่นระฆังบนเขาอะซาริ ไม่ไกลจากคิโรโระ ซึ่งเชื่อกันว่า ใครมาสั่นระฆัง แล้วอธิษฐานเรื่องความรักจะสมหวัง และได้ยินมาว่า อดีตพระมิตซูโอะและภรรยาก็เคยมาสั่นระฆังที่นี่

การเดินทางขึ้นเขาอะซาริ ต้องใช้กระเช้ากอนโดล่า เนื่องจากตั้งอยู่ในหุบเขาที่กว้างและใหญ่ ระหว่างทางขึ้นเขา สวยงามมาก ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้เป็นหนึ่งในร้อยจุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในสามจุดชมวิวที่ดีที่สุดของฮอกไกโด ซึ่งเราใช้เวลาสั่นระฆังแค่ไม่กี่นาที เพราะบนยอดเขาหนาวเย็นมาก ถ้าไม่ใส่ชุดสกี ก็คงย่ำแย่

ส่วนอีกสถานที่ท่ี่สามารถไปเที่ยวชมเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะอยู่ติดกับคิโรโระรีสอร์ท ก็คือ โบสถ์เล็กๆ สีอิฐ บรรยากาศด้านในเหมืองโบสถ์คริสต์ทั่วไป เมื่อก่อนใช้เป็นสถานที่จัดงานแต่งงานตามแบบวัฒนธรรมดั้งเดิม

ถ้าถามว่า ชอบที่ไหนมากที่สุด...
หุบเขานรก หรือ หุบเขาจิโกคุดานิ แหล่งกำเนิดน้ำแร่ที่มีชื่อเสียงบนเกาะฮอกไกโด อีกฉากในแฟนเดย์ ซึ่งช่วงที่เราไปท่องเที่ยว หิมะกำลังโปรยปราย และเป็นอีกจุดที่น่าถ่ายภาพ แต่กล้องอาจน็อตได้ เพราะความหนาวเย็นสุดขั้ว

4
การเที่ยวในเมืองซัปโปโร พวกเราเลือกที่จะไม่ขึ้นไปบนตึกที่สูงที่สุดในซับโปโร แต่เลือกเดินเที่ยวร้านขายของและดูการประดับไฟกลางหิมะ
ในเมืองซัปโปโร เราแวะไปเที่ยวทำเนียบรัฐบาลเก่าของฮอกไกโด ที่นั่นเป็นอาคารอิฐสีแดง สไตล์นีโอบาร็อคอเมริกา ก่อสร้างเมื่อปีค.ศ. 2416 โดยลอกเลียนแบบจากทำเนียบรัฐบาลแห่งรัฐแมสซาชูเซตส์ อเมริกา 

ว่ากันว่า สถานที่แห่งนี้ใช้อิฐกว่า 2.5 ล้านก้อนจากหมู่บ้านใกล้ๆ ซัปโปโรเพื่อทำการก่อสร้าง ภายในอาคารมีข้าวของเครื่องใช้สมัยที่ผู้ว่าการเมืองทำงาน แต่วันที่เราไปถึง เนื่องจากหิมะหนามาก เราก็เลยไม่ได้แวะไปดูด้านใน 

อีกเมืองที่ต้องแนะนำคือ ฮาโกดาเตะ ถ้ามาที่นี่ต้องแวะไปที่โกดังอิฐแดงคาเนโมริ อาคารสไตล์ยุโรป เมื่อก่อนที่นี่เป็นโกดังเก็บสินค้า เพราะเคยเป็นท่าเรือระหว่างประเทศ เมื่อปี ค.ศ. 1909 ปัจจุบันดัดแปลงเป็นร้านขายของที่ระลึก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่ง ซึ่งส่วนใหญ่นิยมไปเดินเล่น ชมวิวรอบๆ อ่าวฮาโกดาเตะ

ถ้าจะชมบรรยากาศเมืองฮาโกดาเตะ ก็ต้องใช้บริการกระเช้าไฟฟ้าใช้เวลาแค่สามนาที ที่นั่นเราจะได้เห็นทิวทัศน์เมืองและท้องทะเลกว้างใหญ่ และเห็นสถานที่สำคัญในเมืองเกือบทั้งหมด โดยเฉพาะตัวเมืองที่มีอ่าวขนาบทั้งสองฝั่ง
หากใครมาเที่ยวฮอกไกโดในช่วงหิมะ งานเทศกาลหิมะช่วงเดือนกุมภาพันธ์ก็ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะในซัปโปโร ทั้งเมืองจะเต็มไปรูปปั้นหิมะ น้ำแข็งแกะสลักขนาดใหญ่และเล็กตลอดเส้นทาง

...............

การเดินทาง
การเดินทางไปฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น มีสายการบินโดยตรง ลงที่สนามบินชิโตเสะ ใกล้เมืองซัปโปโร

ถ้าแวะไปเที่ยวเมืองโอตารุ ซึ่งห่างจากซัปโปโรมาทางตะวันตกเฉียงเหนือ 40 กิโลเมตร สามารถเดินทางโดยรถไฟจากซัปโปโรมาโอตารุ
จากซัปโปโรไปโอตารุ ถ้าเดินทางโดยรถไฟเจอาร์ มีหลายขบวน ใช้เวลาเดินทาง 30-40 นาที มีรถออกทุกๆ 15-30 นาที
ส่วนการเข้าสู่เมืองโอตารุจะมีรถท่องเที่ยววันเดียวบริการ จอดตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ รถออกทุก 30 นาที ซึ่งเป็นการเดินทางที่ง่ายและสะดวกมาก

หากต้องการซื้อแพ็คเกจตามรอยแฟนเดย์ ดูได้ที่ http://www.kirororesort.com