‘เอเชีย’ ครองแชมป์ใช้เน็ต ผ่าน ‘สมาร์ทโฟน’ สูงสุดในโลก

รายงาน Mobile Adobe Digital Insights (ADI) อ้างอิงผลการวิเคราะห์ทั่วโลกสำหรับการเยี่ยมชมเว็บไซต์กว่า 16,000 เว็บไซต์ จำนวน 1.7 ล้านล้านครั้ง ในช่วงเดือน ม.ค.2557 ถึง ม.ค.2560 พบว่า สมาร์ทโฟนเป็นช่องทางของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตหน้าใหม่ราว 200 ล้านคนทั่วโลก ประเทศอินเดีย และจีน มีผู้ใช้รายใหม่มากถึง 366.3 ล้านคน

อินเดียมี 268.9 ล้านคน และจีนมี 97.4 ล้านคนตามลำดับ ขณะที่อินโดนีเซียมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตรายใหม่ 15.7 ล้านคน

นายเทรเวอร์ โจนส์ นักวิเคราะห์อาวุโสของ ADI ระบุว่า การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นเกือบทั้งหมดเป็นผลมาจากสมาร์ทโฟน โดยทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมต่อจากเดสก์ทอป และแทบเล็ตอยู่ในระดับเท่าเดิม หรือลดลงในประเทศส่วนใหญ่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ทราฟฟิกจากสมาร์ทโฟนในอินเดียเพิ่มขึ้น 290% นับตั้งแต่ปี 2557 ขณะที่ ทราฟฟิกจากเดสก์ทอปลดลง 6% ส่วนอัตราการเติบโตของทราฟฟิกจากแทบเล็ตคงที่ที่ระดับ 3%

นายโจนส์ ระบุว่า จีน อินเดีย มาเลเซีย และนิวซีแลนด์ เป็นประเทศที่ต้องจับตามองในแง่การเติบโตที่รวดเร็วของสมาร์ทโฟน ประเทศเหล่านี้ไม่มีสัญญาณที่แสดงถึงการชะลอตัวในช่วงปี 2560

ผู้ใช้สมาร์ทโฟนหน้าใหม่โดดสู่ออนไลน์
ขณะที่ การเติบโตโทรศัพท์มือถือในจีนถือว่าค่อนข้างต่ำ แต่นายโจนส์ ตั้งข้อสังเกตว่า การเพิ่มขึ้นแต่ละเปอร์เซ็นต์หมายถึงจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนหลายล้านคนที่เข้าสู่อินเทอร์เน็ต

รายงาน ADI คาดการณ์ว่า สัดส่วนของทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตจากสมาร์ทโฟนในจีนจะแตะระดับ 37% ภายในปี 2561 เพิ่มขึ้นจาก 18% ในปี 2557

อินเดียมีสัดส่วนของทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตจากสมาร์ทโฟนสูงอยู่แล้ว และไม่มีสัญญาณบ่งบอกว่าการเติบโตจะชะลอตัวลง ADI คาดว่าสัดส่วนของสมาร์ทโฟนจะเพิ่มเป็น 46%ภายในปี 2561 เพิ่มขึ้นจาก 18% ในปี 2557

ในอดีต มาเลเซียและนิวซีแลนด์ตามหลังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แต่อนาคต คาดว่า ความแพร่หลายของสมาร์ทโฟนจะแตะระดับ 40% ภายในปี 2561

ส่วนประเทศที่ใช้งานสมาร์ทโฟนอย่างแพร่หลายในระดับสูง ได้แก่ ญี่ปุ่น เม็กซิโก และชิลี โดยแต่ละประเทศมีทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตจากสมาร์ทโฟนอย่างน้อย 46%
โมบายแอพขยายตัวรวดเร็ว

ในเรื่องการติดตั้งแอพเพิ่มมากขึ้น อินเดีย ยังครองตำแหน่งผู้นำด้วยอัตราการเติบโต 49% นับตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา แตกต่างจากประเทศส่วนใหญ่ที่มีการใช้แอพลดลง

“อัตราการใช้งานสมาร์ทโฟนที่สูงมากในประเทศกำลังพัฒนาส่งผลให้การใช้งานแอพอยู่ในระดับคงที่ ขณะที่ประเทศอื่นๆ อย่างเช่น สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร มีการติดตั้งแอพลดลง -9% และ -38% ตามลำดับตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา

ขณะที่เอเชียเริ่มเปลี่ยนย้ายจากแทบเล็ตไปสู่สมาร์ทโฟนที่มีราคาถูกกว่า และใช้งานสะดวกสบายมากกว่า ก่อให้เกิดความท้าทายสำหรับนักการตลาด

“สมาร์ทโฟนช่วยให้ผู้ใช้หลายล้านคนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต โดยที่ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่มีโอกาสได้ใช้งานอินเทอร์เน็ตมาก่อน ประเทศกำลังพัฒนาหันมาให้สมาร์ทโฟนเพิ่มมากขึ้นจนแซงหน้าหลายๆ ประเทศที่พัฒนาแล้วทั่วโลก”

‘อินเดีย-จีน’ โอกาสตลาดสูง
นายโจนส์ กล่าวว่า นักการตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จำเป็นต้องเข้าใจว่าผู้บริโภคจำนวนมากอาจไม่เคยใช้คอมพิวเตอร์เดสก์ทอปหรือแทบเล็ตมาก่อน และประสบการณ์บนสมาร์ทโฟนต้องมีความราบรื่นมากพอ เพื่อดึงดูดและสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้ใช้

รายงานชิ้นนี้ ตอกย้ำว่า การเติบโตส่วนใหญ่มุ่งสู่อินเดียและจีน โดยประเทศทั้งสองมีการเติบโตที่สูงมาก แต่ประชากรจำนวนมากยังคงไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต

“ทุกๆ หนึ่งเปอร์เซ็นต์ของการเปลี่ยนแปลงในสัดส่วนของทราฟฟิก หรือการเติบโตของทราฟฟิก ก่อให้เกิดผลกระทบสูงกว่ามากในประเทศเหล่านี้ อินเดียและจีนยังคงมีประชากรหลายล้านคนที่ยังไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ด้วยเหตุนี้ประเทศทั้งสองจึงเป็นตลาดที่จะสามารถขยายธุรกิจให้เติบโตได้ง่ายที่สุด"

ขณะที่ในประเทศไทย ปัจจุบันมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเกือบ 40 ล้านคน จากข้อมูลการสำรวจของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือเอ็ตด้า เมื่อปี 2559 พบว่า สมาร์ทโฟนยังคงเป็นอุปกรณ์หลักที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตนิยมเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต โดยมีจำนวนผู้ใช้งานมากถึง 85.5% และมีจำนวนใช้งานโดยเฉลี่ย 6.2 ชั่วโมงต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่มีผู้ใช้ราว 5.7 ชั่วโมงต่อวัน และปีนี้คาดว่า จำนวนชั้วโมงการใช้อินเทอร์เน็ตบนสมาร์ทโฟนจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด