กลุ่ม 'วัสดุก่อสร้าง' กำลังซื้อชะลอ

กลุ่ม 'วัสดุก่อสร้าง' กำลังซื้อชะลอ

กลุ่มวัสดุก่อสร้าง "กำลังซื้อซบ" เศรษฐกิจต่างจังหวัดชะลอฉุดราคาสินค้าเกษตร โฮมโปรเร่งควบคุมค่าใช้จ่าย เพิ่มสาขาดันยอดข

ตลาดวัสดุก่อสร้างยังซบเซา โดยเฉพาะพื้นที่ต่างจังหวัด เหตุราคาสินค้าเกษตรยังไม่ฟื้น โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ เร่งควบคุมค่าใช้จ่ายพร้อมเดินหน้าขยายสาขาดันยอดขายเติบโตเกิน 10 % ด้าน ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ เร่งขยายตลาดงานโครงการ

นางสาววรรณี จันทรมงคล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) HMPRO เปิดเผยว่า ภาพรวมของตลาดวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านในปี 2560 นั้นมองว่า กำลังซื้อของประชาชนยังอยู่ในระดับเดียวกับปีก่อน โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัดที่ราคาสินค้าเกษตรยังไม่ฟื้นตัว

“กำลังซื้อของผู้บริโภคประเมินว่าจะทรงตัวมาจากปีก่อน อาจมีบางพื้นที่ฟื้นตัวบ้าง จากราคายางพาราที่ปรับตัวขึ้น ภาวการณ์เช่นนี้ทำให้บริษัทต้องควบคุมค่าใช้จ่ายและเน้นการขยายสาขาเพื่อทำให้รายได้เติบโต”

โดยบริษัทจะควบคุมต้นทุนให้ปรับลดลงในทุกด้าน เพื่อไม่ให้มีค่าใช้จ่ายส่วนเกิน รวมถึงปรับปรุงสาขาให้มียอดขายที่ดีขึ้น ซึ่งในปีที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับลดค่าใช้จ่ายได้ในระดับที่น่าพอใจ นอกจากนี้บริษัทยังเร่งการเปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้น โดยในปีนี้ คาดว่าจะเปิดสาขา โฮมโปร ประมาณ 2-3 สาขา ทำให้สิ้นปีนี้คาดว่าจะมีสาขาทั้งสิ้น 82-83 สาขา และเปิดสาขา เมกะโฮม 3-4 สาขา ทำให้คาดว่าในสิ้นปีนี้จะมีสาขาทั้งสิ้น 14-15 สาขา  ใช้งบลงทุนประมาณ 6-7 พันล้านบาท จะช่วยผลักดันให้การเติบโตของยอดขายในปีนี้จากปีก่อนที่ระดับ 8-12 % 

สำหรับการเปิดสาขาในต่างประเทศ บริษัทได้ตั้งเป้าหมายจะเปิดสาขาในประเทศมาเลเซียทั้งสิ้น  2-3 สาขา ทำให้สิ้นปีคาดว่าจะมีสาขาในประเทศมาเลเซีย 4-5 สาขา ทั้งนี้ ผลตอบรับในตลาดมาเลเซียอยู่ในเกณฑ์ที่ดี  บริษัทจึงมีแผนจะศึกษาเข้าไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้น คาดว่าจะได้ความชัดเจนภายใน 2 ปี

นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) L&E เปิดเผยว่า ภาพรวมของกำลังซื้อผู้บริโภคในปีนี้ยังอยู่ในระดับทรงตัวจากปีก่อน  ซึ่งกำลังซื้อในกลุ่มต่างจังหวัดนั้นปรับตัวลดลง  ซึ่งในส่วนบริษัทนั้นไม่ได้รับผลกระทบเพราะมีงานโครงการเข้ามาช่วย  ซึ่งในตลาดวัสดุก่อสร้างอย่างหลอดไฟมองว่ายังขยายตัวได้ ในระดับ 5-10 % 

ปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้โต 15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2,962.12 ล้านบาท เป็นผลมาจากการขยายตัวของธุรกิจภาคเอกชน ด้านงานก่อสร้างที่ยังมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานคงค้างรอรับรู้รายได้ ประมาณ 900 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้ในปีนี้ รวมถึงอยู่ระหว่างการเข้าประมูลงานโครงการอย่างต่อเนื่อง และคาดอัตรากำไรสุทธิ(Net Margin) จะเติบโตจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 2.50% เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษเหมือนปีที่ผ่านมา

สำหรับการขยายตลาดต่างประเทศ บริษัทตั้งเป้าหมายจะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศให้ถึง 12% ภายใน 2 ปี จากปี 59 อยู่ที่ 7% โดยจะเน้นกลุ่มประเทศ CLMV เพราะมีแนวโน้มเศรษฐกิจเติบโตสูง