โบรกจ่อรื้อเป้ากำไรปีนี้

โบรกจ่อรื้อเป้ากำไรปีนี้

โบรกเตรียมปรับลดประมาณการกำไรบจ.ปี 2560 หลังไตรมาส 4 ปี 2559 ออกมาต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ราว 5-7%

นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการเงินทุนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยช่วงไตรมาส 4 ปี 2559 รายงานออกมา ถือว่าต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ได้ประมาณการไว้ แม้ว่าจะมีการเติบโตขึ้นจากปีก่อน ดังนั้นมีความเป็นไปได้ว่าอาจมีการปรับลดประมาณการของกำไรบริษัทจดทะเบียนในปี 2560

“กำไรบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดคาดการณ์ไว้ 5-7% ซึ่งทำให้เชื่อว่าอาจต้องปรับลดประมาณการณ์เป้าหมาย ดัชนีหุ้นสิ้นปีจากเดิม 1,600-1,700 จุด บล.กสิกรไทยจะยังไม่ปรับประมาณการปีนี้ เนื่องจากยังอยู่ในคาดการณ์ ทั้งนี้ บล.ได้ให้ดัชนีเป้าหมายที่ 1,570 จุด"

นายสันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ 567 บริษัท หรือคิดเป็น 96.10% จาก 590 บริษัทและรวมกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (IFF) พบว่าปี 2559 มีกำไรสุทธิ 9.09 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 30.41% ได้ปัจจัยบวกจากต้นทุนการผลิตลดลงและการฟื้นตัวหมวดธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมี ส่งผลให้บจ.มีกำไรสูงสุดรอบ5ปี

“บจ. มีกำไรสุทธิสูงสุดรอบ 5 ปีเติบโตขึ้นจากปี 2558 กว่า 20% โดยเฉพาะหมวดธุรกิจที่ได้รับผลดีจากนโยบายรัฐบาล คือ หมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หมวดวัสดุก่อสร้าง หมวดพาณิชย์ และหมวดการแพทย์ ”

ด้านกำไรสุทธิ พบว่า มีบจ. มีกำไรสุทธิ 461 บริษัท คิดเป็น 81.31% โดยบจ.มีต้นทุนผลิตลดเพิ่มขึ้น 2.37% ประกอบกับไม่มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน และไม่มีผลกระทบค่าใช้จ่ายด้อยค่าสินทรัพย์ ส่งผลมีกำไรสุทธิ 908,855ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.41%เมื่อเทียบกับปี 2558 โดยมียอดขายรวม 10,125,805 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย ซึ่งเป็นผลจากหมวดธุรกิจพลังงาน อันเป็นผลกระทบจากราคาน้ำมันในตลาดโลกโดยเฉลี่ยในปี 2559 ต่ำลง 20%จากปีก่อน

ทั้งนี้ หากไม่รวมธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค และหมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ ในปี 2559 ภาพรวมของกลุ่มธุรกิจอื่น ยังคงปรับตัวดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ โดยมียอดขายเพิ่มขึ้น 4.15% และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 7.42% เมื่อเทียบกับปี 2558

ส่วนไตรมาส 4 ปี 2559 บจ. มีกำไรสุทธิ 204,850 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.15% จากไตรมาส 4ปี2558 และลดลง 1.47% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ของปี 2559 ความสามารถด้านการทำกำไรของ บจ. ปรับสูงขึ้น โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น 24.69% เพิ่มขึ้นจาก 22.28% ในปี 2558 และมีอัตรากำไรสุทธิ 8.95% เพิ่มขึ้นจาก 6.70% ขณะที่บจ.มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน 1.19 เท่าลดลงจากปีก่อน