Daily Market Outlook (6 มี.ค.60)

Daily Market Outlook (6 มี.ค.60)

การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed เกือบจะแน่นอนแล้ว และเกาหลีเหนือเพิ่มความตึงเครียดในเอเชีย

คาดหุ้นไทยปรับตัวลงวันนี้เนื่องจากมองว่าการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed กำลังใกล้เข้ามาแล้ว ประกอบกับแรงกดดันจากความตึงเครียดทางการเมืองในเอเชีย-แปซิฟิกหลังจากเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 4 ลูก ซึ่งตกลงในเขตเศรษฐกิจของญี่ปุ่นในน่านน้ำทะเลจีนใต้เช้าวันนี้ รวมถึงแนวโน้มการเติบโตที่ชะลอลงของเศรษฐกิจจีนในปี 60 ประธาน Fed Janet Yellenส่งสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้ถ้าตัวเลขการจ้างงานและตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ หนุนการปรับขึ้น ปัจจัยภายในประเทศวันนี้ค่อนข้างเจาะจงไปทางรายอุตสาหกรรมซึ่งไม่น่ามีผลต่อตลาดเท่าใดนัก กสทช. เตรียมใช้งบประมาณ 470 ลบ. ต่อปี เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายทางการเงินแก่ 26 ช่องรายการทีวีดิจิตอลบนดาวเทียมเป็นระยะเวลา 3 ปี ขณะที่รายได้รวมปี 2559 ของ 10 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับตัวลดลงแต่ SIRI สามารถรายงานกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งออกมาได้ และเราเลิอกเป็นหุ้นเด่นในวันนี้

หุ้นเด่นวันนี้: SIRI (ราคาปิด 2.00 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายของ AWS เท่ากับ 2.60 บาท)

SIRI เป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่รุกตลาดคนรุ่นใหม่ และมีนวัตกรรมที่เด่นชัด ถือเป็นผู้นำรายหนึ่งในด้านนี้ เราคาดว่า SIRI จะมีการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่งในปีนี้และปีต่อไป หลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากในปีที่ผ่านมากับการเติบโตของกำไรปกติเติบโต 23% YoY โดยเราคาดว่ากำไรปกติของ SIRI จะเติบโตแข็งแกร่ง 12.5% ในปี 2560 และเติบโต 15.8% ในปี 2561เชื่อว่าโครงการ 98 Wireless ซึ่งเป็นโครงการ Flagship จะประสบความสำเร็จในการโอนในปี 2560 อย่างมาก อีกทั้งเป็นโครงการที่ตั้งเป้า GPM ไว้สูงประมาณ 40% จากระดับปกติ 30% เพราะด้วยทำเลที่ตั้งที่ดีมากบนถนนวิทยุ และการตกแต่งภายในที่ยอดเยี่ยม (ปัจจุบันขายได้ 50% แล้ว) และโครงการ JV คือ The Line จตุจักร สามารถโอนได้เร็วกว่ากำหนด คาดว่ามีการโอนได้เกือบทั้งหมดในปีนี้ด้วย เราคาดว่าปี 2560 จะมียอดขายรวมของโครงการที่ SIRI พัฒนาเองคิดเป็น 28,000 ล้านบาทและมียอดรายได้จากธุรกิจร่วมทุน 5,000 และคาดมีการปันส่วนกำไรเท่ากับ 111 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 78 ล้านบาทในปี 2559กิจกรรมที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของ SIRI ช่วยให้สร้างผลกำไรจากโครงการได้สูง ตัวอย่างเช่นโครงการ 98 Wireless ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ซื้อ คาดว่าราคาจะปรับตัวขึ้นไปอีกหลังจากเปิดโครงการช่วงปลายปีที่แล้วและจะเปิด Grand Opening วันที่ 14 มี.ค.60 เราคาดอัตรากำไรขั้นต้น(GPM)และ อัตรากำไรสุทธิ (NPM)ปี 2560 เพิ่มเป็น 31.5% และ 10.7% ตามลำดับ เทียบกับ GPM 30.5% และ NPM 10% ในปี 2560 ตามลำดับ SIRI ซื้อขายที่ PER ในปี 2560 เท่ากับ 7.6 เท่าคิดเป็น 0.61 เท่า PEG เราปรับกำไรสุทธิปี 2560 และ 2561 เพิ่มขึ้น 8% และ 10% ตามลำดับ และปรับราคาเป้าหมายจาก 2.24 บาท เป็น 2.60 บาท ตาม Benchmark PER ที่ 10 เท่าในปี 2560 SIRI ยังคงมีจุดเด่นในเรื่องเงินปันผล และ P/BV ที่ต่ำ โดยบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลงวด 2H59 ที่ 0.08 บาทต่อหุ้น XD วันที่ 10 มี.ค.60 รวมกับครึ่งปีแรกที่จ่ายไป 0.04 บาทต่อหุ้น แล้วคิดเป็นปันผลตอบแทนต่อปี 6.1% แนะนำซื้อ Price Pattern ของ SIRI มีความแข็งแกร่งในแนวโน้มหลักที่เป็นแนวโน้มขาขึ้นจากการเกิด Weekly & Monthly Buy Signal เพียงแต่ระยะสั้นรอการกลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่ โดยปิดตลาดที่ 2.02 บาทเป็นอย่างน้อย หากเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่จะเป็นการบ่งบอกว่าการปรับฐานระยะสั้นนั้นได้จบแล้ว และกลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นอย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 2.24 บาท และมีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 2.72 บาท ตามลำดับ (Resistance: 2.02, 2.04, 2.06; Support: 1.98, 1.96, 1.94)


ปัจจัยสำคัญ

ประเด็นในประเทศ:

• BoIเตรียมโปรโมทประเทศไทยเป็นศูนย์การทำสัญญารับช่วง (Subcontracting)ในผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงทางอุตสาหกรรม เพื่อเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้มากขึ้นภายใต้แผน ไทยแลนด์ 4.0 นอกจากนั้น BoIยังระบุว่านักลงทุนต่างชาติจำนวนมากมีความต้องการขยายฐานการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศไทยที่รัฐบาลกำลังจะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ (The Nation)

• ส่งออกข้าวร่วงใน ม.ค. สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยระบุว่ายอดส่งออกข้าว ม.ค. เท่ากับ 823,401 ตันคิดเป็นมูลค่า 1.23 หมื่น ลบ. ร่วง 19.7% ในรูปปริมาณและร่วง 29.3% ในรูปตัวเงิน เป็นเพราะมีวันหยุดยาวและมีการเร่งส่งออกไปเมื่อปลายปีที่แล้ว (Bangkok Post)

• เสนอลดภาระภายใต้เกณฑ์ must carry กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะเสนอแก่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อจัดงบ 470 ลบ. สำหรับ 3 ปีเพื่อช่วย 26 ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีเพื่อลดภาระทางการเงินจากการทำตามเกณฑ์ must carry ขณะนี้อยู่ระหว่างรอ กสทช. อนุมัติ (Bangkok Post)

• รวมรายได้ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ 10 รายแรกที่เป็น บจ.ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 2559 รวมเท่ากับ 215.7 พันล้านบาท ลดลง 2.83% YoYเนื่องจากความต้องการลดลงในการซื้อที่อยู่อาศัยในไตรมาสสุดท้ายของปี โดย 5 ใน 10 ราย ที่รายได้และกำไรเติบโตขึ้นคือ LH, SPALI, PF, SC, และ ANAN ในขณะที่ PSH, SIRI, QH และ LPN มีรายได้และกำไรลดลง ส่วน AP นั้น รายได้ลดลงแต่กำไรเพิ่มขึ้น (The Nation)ความเห็น: ปี 2560 นี้ คาดว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะมีอัตราการเติบโต 5%YoY แต่หลาย บจ.ได้ดำเนินธุรกิจในรูปแบบการร่วมทุนทำให้เกิดการบันทึกรายได้ลดลงแต่กลับมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น เช่น SIRI, AP, ANAN ทั้งนี้ Top Picks ของเราในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาส 1/60 ยังเป็น ANAN และ SIRI ซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่จับตลาดคนรุ่นใหม่ และมีเน้นนวตกรรมในด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างโดดเด่น

ต่างประเทศ:

• มีเค้าว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย นางเยลเลน ประธานเฟด ส่งสัญญาณเฟดเตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้หากการจ้างงานและข้อมูลเศรษฐกิจอื่น ๆ เป็นไปตามคาดหมาย นางเยลเลนกล่าวว่าอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับตัวเร็วขึ้นในปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจดูเหมือนว่าจะไม่มีอุปสรรคขัดขวางทั้งในและต่างประเทศเป็นครั้งแรกในการดำรงตำแหน่งของเธอ ประเด็นถัดไปที่ตลาดให้ความสนใจคือตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนก.พ. ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันศุกร์ที่ 10 มี.ค. เทรดเดอร์ในขณะนี้คาดว่ามีโอกาส 85% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมกำหนดนโยบายระหว่างวันที่ 14-15 มี.ค. เพิ่มขึ้นจากที่ระดับ 30% เมื่อต้นสัปดาห์ก่อน (Reuters)

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี ปรับตัวสูงสุดในรอบ 7 ปีครึ่งอีกครั้งในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอื่น ๆ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบหลายสัปดาห์จากความคาดหวังเพิ่มขึ้นว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.507% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่วันที่ 15 ก.พ. ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 7 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.347% และเป็นระดับสูงสุดนับแต่วันที่ 15 ก.พ. เช่นกัน (Reuters)

• ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ เมื่อวันศุกร์จากแรงเทขายทำกำไร จากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐในช่วงเร็ว ๆ นี้หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลง 0.7% ดัชนีดังกล่าวได้ปรับตัวขึ้น 0.4% สัปดาห์ก่อนและเมื่อวันพฤหัส ได้แตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ที่ 102.26 (Reuters)

สหรัฐ:

• ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐอยู่ในระดับทรงตัวเมื่อวันศุกร์ หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้หากการจ้างงานและข้อมูลเศรษฐกิจอื่น ๆ เป็นไปตามคาดหมาย ความเห็นของนางเยลเลนทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมระหว่างวันที่ 14-15 มี.ค. นี้ (Reuters)

• ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐในเดือนก.พ. ของมาร์กิตปรับตัวลงแต่ยังอยู่ในระดับแข็งแกร่ง ดัชนี PMI ภาคบริการของสหรัฐ อยู่ที่ระดับ 53.8 ในเดือนก.พ. ลดลงจากที่พุ่งแตะระดับ 55.6 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน แม้ว่าดัชนีดังกล่าวยังคงส่งสัญญาณการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของผลผลิตภาคบริการ แต่ตัวเลขล่าสุดเป็นตัวเลขต่ำสุดในรอบ 5 เดือนและต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 55.3 (IHS Markit)

• ภาคบริการของสหรัฐของ ISM เร่งขยายตัว ดัชนีภาคบริการ (PMI) ของสหรัฐของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ขยายตัวที่ระดับ 57.6% ในเดือนก.พ. ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.1 ppsเมื่อเทียบกับตัวเลขในเดือนม.ค. ที่ 56.5% ดัชนีในเดือนก.พ. เป็นตัวเลขสูงสุดนับแต่เดือนต.ค. 58 และแสดงถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของภาคบริการในอัตราเร่งขึ้นเล็กน้อย นอกจากนี้ ดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจภาคบริการปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 63.6% เพิ่มขึ้น 3.3 ppsสูงกว่าตัวเลขในเดือนม.ค. ที่ 60.3% ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดนับแต่เดือนก.พ. 2554 ซึ่งดัชนีอยู่ที่ระดับ 63.8% สะท้อนถึงการเติบโตติดต่อกัน 91 เดือน และเติบโตในอัตราเร่งขึ้นในเดือนก.พ. (ISM)

ยุโรป:

• ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันศุกร์ปรับตัวลดลง แต่เป็นการปิดตลาดรายสัปดาห์ด้วยการปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดในปีนี้ ตลาดหุ้นฝรั่งเศสฟื้นตัวดีขึ้นหลังโพลสำรวจเผยให้เห็นว่าโอกาสที่นาง Marine Le Pen จะชนะการเลือกตั้งปธน.ฝรั่งเศสนั้นมีน้อยลง (Reuters)

• ดัชนี PMI รวมภาคผลิต-บริการยูโรโซนเดือนก.พ. ขยายตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี หนุนจาก 4 ชาติใหญ่ โดย Markitรายงานดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนขั้นสุดท้ายเดือนก.พ. อยู่ที่ระดับ 56.0 สูงสุดในรอบ 70 เดือน ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขเบื้องต้น ขณะที่เพิ่มขึ้นจากระดับ 54.4 ในเดือนม.ค. ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการของประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของยุโรป 4 แห่งปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยดัชนี PMI ของสเปนแตะระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน เยอรมนีแตะระดับสูงสุดในรอบ 34 เดือน ฝรั่งเศสแตะระดับสูงสุดในรอบ 69 เดือน และอิตาลีแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี (IHS Markit)

เอเชีย:

• เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 4 ครั้ง ในวันจันทร์ โดย 3 ครั้งตกในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นอธิบายว่าเป็นการเปิดตัวที่เป็นภัยคุกคามและกล่าวว่าพวกเขาจะยื่น "ประท้วง" กรณีอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ(Reuters)

• PMI ญี่ปุ่นชะลอตัวในเดือนกุมภาพันธ์: ดัชนี PMI อยู่ที่ 52.2 ในเดือนกุมภาพันธ์ ลดลงเล็กน้อยจากเดือนมกราคมที่ 52.3 และลงต่อจากเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 16 เดือน อย่างไรก็ตามภาคบริการดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจลดลงเป็น51.3 ในเดือนกุมภาพันธ์ลดลงเล็กน้อยจาก 51.9 ในช่วงเริ่มต้นของปี 2560 และต่ำสุดในรอบสี่เดือน(IHS Markit)

• กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการของญี่ปุ่น (GPIF) มีกำไรรายไตรมาสที่92 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการของญี่ปุ่นใหญ่ที่สุดของโลก GPIF รายงานผลตอบแทน 7.98% ในปีงบประมาณในงวดไตรมาส 3/59 ซึ่งสิ้นสุดในเดือนธันวาคมรวมเป็นกำไรที่92 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (Reuters)

• ประเทศจีนได้ปรับลดเป้าหมายการเติบโตของบริษัทในปีนี้ลง โดยจีนผลักดันการปฏิรูปที่เข้มงวดกับตลาดตราสารหนี้และสร้างเป็น "ไฟร์วอลล์" กับความเสี่ยงทางการเงิน รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะขยายเศรษฐกิจของประเทศประมาณ 6.5% ในปี 2560 นายกรัฐมนตรีหลี่เค่อเฉียงกล่าวในพิธีเปิดการประชุมประจำปีของรัฐสภาในวันอาทิตย์ว่า ปักกิ่งกำหนดเป้าหมายการเติบโต 6.5% เป็น 7% ในปีที่ผ่านมา โดยบรรลุการเติบโต 6.7% โตช้าที่สุดในรอบ 26 ปีที่ผ่านมา (Reuters)

สินค้าโภคภัณฑ์:

• น้ำมันดิบบวกวันศุกร์ เพราะดอลลาร์อ่อนค่าทำให้เกิดแรงซื้อแต่นักลงทุนยังคงกังวลหลังการผลิตของรัสเซียยังไม่เปลี่ยนแปลงใน ก.พ. แสดงว่าการที่ผู้ผลิตน้ำมันยังไม่ได้ร่วมมือกันมากพอที่จะลดกำลังผลิตเพื่อแก้ปัญหาน้ำมันล้นตลาด น้ำมันดิบ Brent ล่วงหน้าส่งมอบ พ.ค. บวก 82 เซนต์ (+1.5%) ปิด 55.90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ฟื้นตัวจากวันพฤหัสที่เป็นลบ น้ำมันดิบสหรัฐบวก 72 เซนต์ (+1.4%) ปิด 53.33 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)

• ราคาทองคำร่วง 1% วันศุกร์ ลบรายสัปดาห์มากสุดในปี 60 เพราะเก็งกันมากขึ้นว่าสหรัฐจะขึ้นดอกเบี้ยใน มี.ค. ราคาทองคำตลาดจรลบ 0.03% ปิดที่ 1,234.41 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หลังจากร่วงไป 1% สู่ 1,222.51 ดอลลาร์สหรัฐ ร่วงหนักสุดนับแต่ 15 ธ.ค. ราคาทองคำตลาดล่วงหน้าลบ 0.5% ปิดที่ 1,226.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (Reuters)