เที่ยวตราดสไตล์สาวผู้หลงรักแสงแดด

เที่ยวตราดสไตล์สาวผู้หลงรักแสงแดด

เดินทางไปไกลสุดตะวันออกของประเทศไทย เมืองเกาะในฝันที่ไม่ได้มีดีแค่ท้องทะเลสวย

จังหวัดตราด นอกจากเกาะหลายแห่งอันโด่งดังแล้ว ตราดยังเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์สำคัญที่เป็นจุดเปลี่ยนของประเทศไทยในอดีต ซึ่งจะหาคำตอบได้ในพิพิธภัณฑสถานเมืองตราด ซึ่งเป็นจุดหมายแรกของทริปสำรวจเส้นทางผู้หญิงท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย งานนี้เรามีเจ้าหน้าที่ททท.สำนักงานตราดที่รู้ลึกรู้จริงมาพาเที่ยว

ของดีเมืองตราด

เมื่อออกจากพิพิธภัณฑสถานเมืองตราดแล้ว ก็ถึงเวลาอาหารกลางวันที่มาพร้อมกับความไม่ธรรมดา เพราะจะได้ชมเหยี่ยวแดงโฉบน้ำ อย่างใกล้ชิดที่ร้านคนพลัดถิ่น นอกจากอาหารจะอร่อยจัดจ้าน (แบบไม่ติดหวานให้หงุดหงิด) แล้ว ป่าที่อยู่รอบเวิ้งน้ำซึ่งล้อมร้านอยู่นั้นเป็นที่อยู่ของเหยี่ยวแดง และเมื่อเจ้าของโปรยอาหารทิ้งด้วยความบังเอิญ เหยี่ยวแดงก็พากันมาโฉบกินอาหาร กลายเป็นอาหารตาที่ทำให้คนได้ชมอากัปกิริยาของเหยี่ยวแดงอย่างใกล้ชิด คราวนี้จึงมีการให้อาหารเหยี่ยวแดงกันเป็นเรื่องเป็นราว แต่ก็เฉพาะมีแขกมาทานอาหารที่ร้านเท่านั้น ไม่ได้ถึงกับเลี้ยงเหยี่ยว เหยี่ยวเหล่านี้ยังคงหาอาหารเองเป็น บางคราวก็มีนกอินทรีบินมาปะปนด้วย ทางร้านบอกว่าตอนเย็นบรรยากาศดี แต่คนจะเยอะมาก ฉะนั้น ถ้าชอบบรรยากาศเงียบสงบขอแนะนำให้มาช่วงกลางวัน ความเงียบของท้องน้ำกับฝูงเหยี่ยวแดงทำให้ร้านอาหารง่ายๆ กลายเป็นเหมือนศูนย์ศึกษาธรรมชาติได้เหมือนกัน

มาถึงตราดทั้งทีต้องไปเหยียบทรายดำให้ได้ ที่ศูนย์การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติหาดทรายดำและป่าชายเลน ที่มาพร้อมเรื่องเล่าที่ว่าทรายดำของที่นี่ทำให้สดชื่นแข็งแรง หาดทรายดำนี้เป็นเส้นทางเดินเท้าของคนพื้นที่แต่เก่าก่อน คนเฒ่าคนแก่ที่เดินผ่านหาดทรายดำกันเป็นประจำกลับเป็นคนที่แข็งแรงเดินเหินได้คล่องแคล่วผิดผู้เฒ่าทั่วไป จึงเลื่องลือกันว่าทรายดำมีคุณสมบัติรักษาโรค อันที่จริงแล้วเมื่อนำไปวิเคราะห์ก็พบว่าสีดำโดยธรรมชาตินั้นมาจากแร่ไลโมไนต์ (Limonite) ที่เป็นผลจากการทำเหมืองและการย่อยสลายของอินทรียวัตถุในทะเล จึงกลายเป็นลักษณะเฉพาะตัวขึ้นมา ไม่มีคุณสมบัติในการรักษาโรคแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าเนื้อสัมผัสของทรายดำนั้นนิ่มละเอียดเป็นพิเศษและยังมีความชื้นเย็นสบาย เมื่อเดินเหยียบ หรือนำมากลบเท้า (บางคนก็กลบกันทั้งตัว) ก็ทำให้ผ่อนคลายดี อาจประกอบกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวที่ชวนให้สบายใจด้วยก็ได้ ที่ศูนย์การท่องเที่ยวฯ นี้ออกแบบเส้นทางเข้าถึงหาดทรายดำโดยเดินผ่านป่าโกงกาง พร้อมไกด์ตัวน้อยให้ความรู้เรื่อง พอไปถึงหาดทรายดำก็จัดวางที่นั่งเล่นน่ารักๆ ให้หย่อนใจได้เพลินๆ

แดดสวยน้ำใสในเกาะช้าง

หลังจากเที่ยวในตัวเมืองตราดแล้ว ก็ข้ามฝั่งไปยังเกาะช้าง กิจกรรมหลักเมื่อมาถึงเกาะช้าง ใครๆ ก็นึกถึงการพักริมทะเลที่หาดทรายขาว หาดสวยยอดนิยมที่เต็มไปด้วยรีสอร์ทเลียบหาดหนาแน่น ร้านอาหาร ร้านค้ามากมายคับคั่ง นั่นคือสิ่งที่นักท่องเที่ยวคุ้นเคย แต่ทริปนี้พาเราเลี้ยวซ้ายไปยังอีกฟากของเกาะช้าง ด้านที่ไม่มีหาดยาวขาวสวย แต่เป็นฝั่งที่ยังคงความสมบูรณ์ของธรรมชาติป่าเขา แทรกด้วยการทำสวนเกษตร และหมู่บ้านชาวประมง แม้ไม่มีหาดให้เล่นน้ำ แต่ความสงบของธรรมชาติก็น่าดึงดูดไม่แพ้กัน ที่นี่จึงมีโฮมสเตย์ โฮสเทล และรีสอร์ตอยู่เป็นระยะ ไม่แออัด

เรามุ่งหน้าไปยังบ้านสลักเพชร เกือบสุดอีกฟากหนึ่งของเกาะช้าง พักผ่อนที่สลักเพชร ซีฟู้ด แอนด์ รีสอร์ท ที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเล ที่พักแบบสบายๆ ติดกระชังปลา ไม่ไกลกันเป็นที่จอดเรือยอร์ชของผู้คนที่รักการล่องเรือออกไปตกปลา ที่นี่มีบริการพาไปดำน้ำตื้นชมปะการังที่หมู่เกาะรัง ซึ่งทางอุทยานแห่งชาติได้จำกัดพื้นที่ดำน้ำเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวชมเฉพาะส่วนที่เป็นไฮไลต์ เพื่อไม่ให้รบกวนธรรมชาติมากเกินไป และเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเองด้วย

ไกด์ดำน้ำที่พ่วงตำแหน่งกัปตันเรือเข้าไปด้วยบอกว่าความใสของน้ำทะเลในแต่ละวันไม่เหมือนกัน โชคดีว่าวันที่เราไปช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นั้น น้ำใสมาก แค่ใส่แว่นดำน้ำแล้วจุ่มหน้าลงไปเห็นก็นึกอยากได้กล้องใต้น้ำขึ้นมาเลย การดำน้ำตื้นแบบสน็อกเกิลนั้นไม่ยาก ไม่ต้องว่ายน้ำเป็นก็ยังได้ (แต่เป็นก็ดีกว่า) เพราะต้องใส่เสื้อชูชีพอยู่แล้ว แว่นตาดำน้ำพร้อมท่อหายใจนั้นใช้งานง่าย แต่ถ้าใครยังกลัวอยู่ ก็ไม่ต้องห่วง ไกด์จะนำทางลูกทัวร์ไปโดยให้จับชูชีพส่วนกลาง ตีขาลอยน้ำตามๆ กันไป ไม่หลุดหลงไปไหน แต่ถ้าใครว่ายน้ำเป็นเราแนะนำให้ว่ายน้ำตามไกด์ดีกว่า เพราะการพยายามจับเสื้อชูชีพไปตลอดเวลาอาจทำให้แขนเกร็งจนเมื่อยได้ จุดดำน้ำตรงเกาะรังนับว่ามีความสมบูรณ์ทีเดียว มีฝูงปลามากมาย มีปลานกแก้วลายจุดสวยๆ ให้มองตาม ปะการังก็ดีงาม กัลปังหาต้นใหญ่ก็ยังมีอยู่ ไกด์คอยแนะนำว่าเราควรดูตรงไหนเป็นพิเศษด้วย แน่นอนว่าไม่สวยจัดเท่ากับการดำน้ำลึกในฝั่งอันดามันอยู่แล้ว แต่ก็นับว่าเพลินตาเพลินใจไม่น้อยเลย

การดำน้ำดูปะการังควรออกเรือแต่เช้า เพื่อให้แสงแดดไม่แรงกล้าจนเกินไป และหากไปช่วงวันหยุดก็เป็นการหลบเลี่ยงกรุ๊ปทัวร์ดำน้ำกรุ๊ปใหญ่ ที่เมื่อลงน้ำพร้อมกันแล้วอาจทำให้เราหลงกลุ่มได้ง่ายๆ

วันต่อมา ถือเป็นการท่องเที่ยวในอีกรูปแบบหนึ่ง ขับรถไปไม่ไกลก็ถึงบ้านสลักคอก ซึ่งเป็นบริเวณป่าโกงกางเชื่อมต่อกับปากอ่าวออกสู่ทะเล ทางชมรมนำเที่ยวพื้นบ้านสลักคอก ได้ออกแบบการท่องเที่ยวให้เหมาะกับพื้นที่ นอกจากมีเรือคายัคให้เช่าพายกันแล้ว ยังมี “เรือมาด” พร้อมคนพายล่องป่าโกงกางไปถึงปากอ่าว เรือมาดนี้นั่งได้เต็มที่ 4 คน แต่ก็มีบริการพิเศษสำหรับคนที่มาเป็นคู่ จองทานดินเนอร์มื้อเย็นอันแสนโรแมนติก จริงๆ แล้วเราควรไปนั่งเรือมาดในช่วงเช้า และช่วงเย็นที่แดดร่มลมตก แต่เมื่อคณะเราไปถึงกันตอนบ่าย 3 โมง จึงหลีกเลี่ยงแสงแดดอันร้อนแรงไม่ได้ แต่โชคดีอีกครั้งที่วันนั้นลมดีเหลือเกิน ทำให้ช่วยลดความร้อนไปได้ระดับหนึ่ง อันที่จริงแล้ว เราไม่ค่อยกลัวแสงแดด เพราะส่วนตัวรู้สึกว่าหากแสงแดดมาพร้อมกับลมแรงปะทะหน้า มันจะช่วยคลายอารมณ์ได้ดี ไม่ต่างจากการนั่งสปีดโบ๊ทไปดำน้ำเมื่อวาน ที่เรากับสาวๆ อีก 2 – 3 คนเลือกที่จะนั่งหน้าเรือท้าแสงแดดตลอดทาง ไม่หลบอยู่ใต้หลังคาเรือ ลมแรงๆ ผสมกับแดดร้อนๆ ไม่ต่างจากการขี่จักรยาน หรือวิ่งในธรรมชาติ มันเยียวยาคนได้เสมอ

คุยกับคุณพี่ที่พายเรือให้ เขาเล่าให้ฟังว่าเรือมาดเริ่มมาเป็นสิบปีแล้ว โดยอาศัยแรงบันดาลใจมาจากเรือแจวล่องแม่น้ำในภาคกลาง เรือที่ให้บริการอยู่ก็นำมาจากอยุธยาเป็นส่วนใหญ่ (บางลำอายุร่วมร้อยปี) ฉะนั้น เรือมาดจึงเป็นเรือภาคกลางที่มีกาบเรือต่ำ เพราะพายในน้ำนิ่งไม่มีคลื่น แต่เรือท้องถิ่นของชาวเกาะจริงๆ แล้วต้องมีกาบเรือที่สูงกว่านี้เพื่อให้โต้คลื่นทะเลได้ เพราะเป็นคลองที่เชื่อมต่อกับทะเลจึงมีคลื่นลมมากกว่า แต่ด้วยลักษณะเรือมาดเหมาะกับการท่องเที่ยวมากกว่าจึงเลือกนำมาใช้กัน ฉะนั้น ในจังหวะที่พายออกไปใกล้ปากอ่าว ผู้พายก็ต้องมีความชำนาญ และผู้นั่งเรือก็ต้องช่วยจับร่มเอาไว้ ไม่งั้นปลิวไปตามลมแน่ (เรืออีกลำของคณะเรา ร่มก็บินมาแล้ว แต่จับไว้ทัน) การล่องเรือมาดเป็นอีกประสบการณ์หนึ่งที่ได้สัมผัสจากเกาะช้าง ซึ่งเราขอแนะนำมาไม่ควรพลาดจริงๆ

ปิดทริปวันสุดท้ายบนเกาะช้างที่ เดอะสปา เกาะช้าง สปาแห่งแรกๆ ของไทยที่เน้นรีทรีตด้วยการล้างพิษและธรรมชาติบำบัด ถือเป็นการปรนนิบัติร่างกายหลังจากกิจกรรมท้าทายแสงแดดตลอดทริป ทั้งภายนอกและภายใน ด้วยการทำโยคะ การนวดและสปาแบบต่างๆ รวมถึงอาหารสุขภาพที่เต็มไปด้วยสีเขียวแต่ทานง่าย

สาวๆ ทุกคนอาจมีรายละเอียดความชอบที่ต่างกัน แต่สำหรับเส้นทางท่องเที่ยวในเกาะช้างนั้น ความสวยของธรรมชาติที่มาพร้อมความสนุกจะทำให้รู้สึกหลงรักแสงแดดมากขึ้นกว่าที่เคย