กทม.รื้อบ้านรุกล้ำ 'ป้อมมหากาฬ' เปิดทางผุดสวนสาธารณะ

กทม.รื้อบ้านรุกล้ำ 'ป้อมมหากาฬ' เปิดทางผุดสวนสาธารณะ

กทม.ระดมเจ้าหน้าที่ 12 เขต เดินหน้ารื้อย้ายบ้าน 4 หลัง ชุมชน“ป้อมมหากาฬ” เล็งเจรจาชาวบ้าน-เร่งหาข้อยุติ 

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯกทม. นำเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการรื้อย้ายชุมชนป้อมมหากาฬ เขตพระนคร ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่สำนักการโยธา สำนักงานเขตพระนคร เจ้าหน้าที่เทศกิจ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร การไฟฟ้านครหลวง การประปานครหลวง ร่วมปฏิบัติการตามแผนการรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างบริเวณป้อมมหากาฬ จำนวน 4 หลัง โดยมีคณะผู้บริหารสำนักการโยธา สำนักเทศกิจ สำนักสิ่งแวดล้อม สำนักการแพทย์ สำนักงานเขตพระนคร สำนักงานกฎหมายและคดี สถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฏร์ กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ และกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ร่วมดำเนินการ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กทม.ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมปฏิบัติการรื้อย้ายชุมชนบริเวณป้อมมหากาฬ ประกอบด้วย สำนักการโยธาจัดคนงานจำนวน 90 คน เพื่อจัดทำบัญชีทรัพย์สินที่จะขนย้ายออกจากโรงเรือนสิ่งปลูกสร้าง รวบรวมควบคุมทรัพย์สิน และจัดหาเครื่องมือ อาทิ ค้อน เลื่อย ลัง เชือก ในการดำเนินการ ขณะที่สำนักงานก่อสร้างและบูรณะ สำนักการโยธาจัดคนงาน 48 คน สำหรับการรื้อย้ายโรงเรือนสิ่งปลูกสร้าง จัดรถบรรทุก 6-10 ล้อ จำนวน 10 คัน เพื่อใช้ในการขนย้ายไปยังสถานที่เจ้าของต้องการ และสนับสนุนอุปกรณ์ในการรื้อถอน ส่วนสำนักงานเขตพระนคร สำนักเทศกิจ ได้ร่วมจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรและรักษาความสงบเรียบร้อย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ นอกจากนี้กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ และกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1รักษาพระองค์ ยังได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ทหารร่วมรักษาความสงบและเจรจากับแกนนำ จำนวน 20 นาย 

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า การรื้อย้ายบ้านเรือนในชุมชนป้อมมหากาฬในวันนี้ ได้รับความร่วมมือจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชน โดยเมื่อวัน 4 มี.ค.ที่ผ่านมา กทม.ได้เข้าไปดำเนินการขนย้ายขยะและเก็บซากวัสดุภายในป้อมมหากาฬ ซึ่งได้ดำเนินการรื้อถอนไว้เมื่อปลายปีที่แล้วแต่ยังขนย้ายไม่หมด โดยจากการลงพื้นที่พูดคุยกับแกนนำได้ข้อตกลงกันว่า ในวันนี้จะรื้อย้ายอีก 4 หลังพร้อมทั้งขนย้าย ซึ่งกทม.ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่จาก 12 สำนักงานเขต ช่วยในการขนย้ายตามข้อตกลงที่พูดคุยกันไว้ โดยจะดำเนินรื้อย้ายทั้ง 4 หลังให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ ประกอบด้วย บ้านเลขที่ 61 บ้านเลขที่ 95 บ้านเลขที่ 107/1-3 และบ้านขายดอกไม้ไฟ ส่วนบ้านเลขที่ 203 ได้ดำเนินการรื้อย้ายไปเมื่อวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งกทม.ได้พยายามเจรจาพูดคุยกันมาตลอด รวมทั้งมีความเข้าใจประชาชนที่อาศัยอยู่ภายในบริเวณป้อมมหากาฬ ในฐานะที่เป็นคนไทยด้วยกัน จึงไม่ดำเนินการที่ต้องใช้ความรุนแรง ยกเว้นแต่จะมีการกระทำผิดกฎหมาย สำหรับในวันนี้กำหนดรื้อถอน จำนวน 4 หลัง โดยจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการรื้อย้ายหลังละ 25 คน หลังจากนั้นจะนัดเจรจาพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง เพื่อดำเนินการรื้อย้ายหลังที่เหลือต่อไป

ด้านนายจักกพันธุ์ กล่าวว่า กทม.ขอขอบคุณชาวชุมชนป้อมมหากาฬ ที่มีความเข้าใจและให้ความร่วมมือในการรื้อย้ายบ้านเรือนในชุมชน จากนี้กทม.จะมีการพูดคุยกับทางชุมชนให้มากยิ่งขึ้น เพื่อพิจารณาว่ายังมีประเด็นใดที่ควรจะพูดคุยกันหรือนำมาหารือร่วมกัน ส่วนทางชุมชนป้อมมหากาฬก็จะต้องหารือกันว่ามีประเด็นใดบ้างที่ควรจะนำมาหารือกับกทม. โดยจะมีฝ่ายความมั่นคงมาร่วมพูดคุยกันด้วย โดยภายในวันที่ 8 มี.ค.จะมีการกำหนดประเด็นที่จะหารือกัน หลังจากนั้นคณะกรรมการหรือคณะทำงานชุดเล็กจะพูดคุยในรายละเอียดเพื่อพิจารณาประเด็นและหาข้อยุติต่อไป