ทหาร-ตร.บุกค้นบ้าน 'เจ้าแม่เงินกู้นอกระบบ' หนองคาย

ทหาร-ตร.บุกค้นบ้าน 'เจ้าแม่เงินกู้นอกระบบ' หนองคาย

ทหาร-ตำรวจหนองคาย นำหมายค้นบ้านหญิงวัย58ปี ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยร้อยละ5ต่อเดือน เจ้าตัวรับให้กู้จริง แต่เก็บดอกตามปกติไม่ถือว่าโหด

พันเอกครรชิต ประสันสอย รองผู้บังคับกองกำลงรักษาความสงบประจำจังหวัดหนองคาย, ร้อยเอกจำนงค์ แสงกุดเรือ นายทหารยุทธการ, พ.ต.ต.สุชาติ ขวัญใจ สว.สส.กก.สส.ภ.จ.หนองคาย, นายภควัต ฝ่ายแสนยอ นิติกรประจำศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองหนองคาย, ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย, ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ได้ร่วมกันนำหมายค้นศาลจังหวัดหนองคาย ที่ ค.8/2560 ไปยังบ้านเลขที่ 78 หมู่ 11 ต.ค่ายบกหวาน อ.เมืองหนองคาย และได้พบกับ นางสาวนิตย์รดี พงศ์จีรณพัต อายุ 58 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายค้น นางสาวนิตย์รดี ยินยอมให้ตรวจค้นตามหมาย

นางสาวนิตย์รดี กล่าวว่า ปล่อยเงินกู้นอกระบบ คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อเดือน ซึ่งมีลูกค้าหลายราย มีทั้งมีหลักทรัพย์มาค้ำประกัน บางรายก็ไม่มี เก็บเงินคืนได้บ้างไม่ได้บ้าง บางรายก็ต้องฟ้องร้องกันที่ชั้นศาล ลูกหนี้คนไหนจ่ายก็ไม่มีปัญหา แต่ลูกหนี้บางคนไม่จ่าย ทวงก็แล้ว โทรหาก็แล้ว ไม่ยอมทำอะไรสักอย่าง กลับมาร้องเรียนว่าตนเก็บดอกเบี้ยโหด อยากจะร้องเรียนกลับคืนไปบ้างว่า หน่วยงานไหนจะช่วยตามเงินคืนให้ตนได้บ้าง ตนจะไม่คิดดอกเบี้ยด้วย โดยตนเก็บดอกเบี้ยถูกแล้ว ไม่ถึงร้อยละ 10 หรือ 20 บาทต่อเดือน

ขณะที่พันเอกครรชิต ประสันสอย รองผบ.กกล.จ.หนองคาย กล่าวว่า เมื่อเดือนธันวาคม 2559 ได้รับเรื่องเรียนจากประชาชนผ่านศูนย์ดำรงธรรม จ.หนองคาย ว่า น.ส.นิตย์รดี ปล่อยเงินกู้นอกระบบ แล้วคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อเดือน เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบบุคคลที่มาร้องเรียนหลายรายปรากฏว่ามีการกระทำผิดจริง อยู่ในข่ายของผู้มีอิทธิพล ตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ดำเนินการปราบปรามกับกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ จึงได้ขอหมายค้นจากศาลจังหวัดหนองคายมาตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจค้นห้องทำงานภายในบ้าน พบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยเงินกู้โดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หนังสือสัญญากู้ยืมเงินจำนวนมาก,โฉนดที่ดิน 33 แฟ้ม เอกสารไม่มีสัญญาค้ำประกัน 16 แฟ้ม สมุดบัญชีธนาคาร 18 เล่ม แต่ละเล่มมีเงินหมุนเวียนจำนวนมาก และเล่มทะเบียนรถยนต์อีก 9 แฟ้ม จึงได้มอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำเป็นหลักฐานประกอบการดำเนินคดี ในครั้งนี้เป็นการเก็บเอกสารหลักฐานก่อน แล้วพนักงานสอบสวนจะเชิญตัวนางสาวนิตย์รดีไปให้ปากคำในภายหลัง.