'ช้อปปี้'ลุยเพิ่มทีมงานรับเอ็มคอมเมิร์ซโต

“ช้อปปี้” เร่งเครื่องลงทุนการตลาด เพิ่มบุคลากร หนุนร้านค้าทุกระดับปั้นยอดเพิ่ม เชื่อเอ็มคอมเมิร์ซประเทศไทยโอกาสโตแรง ตั้งเป้าสิ้นปี 2560 ดันยอดผู้ใช้ คำสั่งซื้อ ยอดดาวน์โหลดแอพโตเป็นตัวเลข 2 หลัก

นายเทเรนซ์ แพง ประธานฝ่ายปฏิบัติการ ช้อปปี้ ผู้ให้บริการผู้ให้บริการอีมาร์เก็ตเพลสบนโมบายภายใต้ชื่อ ช้อปปี้(Shopee) เครือการีนา กล่าวว่า ไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่มีความสำคัญมากที่สุดของบริษัท ดังนั้นปีนี้ยังคงมีแผนเข้ามาลงทุนทั้งการตลาด บุคลากร ทำให้ร้านค้าและแบรนด์เป็นที่รู้จัก สามารถขายสินค้าได้มากขึ้น

ประเมินขณะนี้ อีโคซิสเต็มส์การจับจ่ายสินค้าออนไลน์และบนโมบายในประเทศไทย นับว่ามีความพร้อม จากการเติบโตการใช้งานโมบาย การพัฒนาโลจิสติกส์ การชำระเงิน รวมถึงความนิยมโซเชียลเน็ตเวิร์ค

“ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาเห็นได้ว่า ตลาดเอ็มคอมเมิร์ซในประเทศไทยและทั่วโลกเติบโตอย่างก้าวกระโดด เทรนด์การจับจ่ายได้ย้ายมาจากออนไลน์ช่องทางอื่นๆ มาสู่โมบายมากขึ้น”

ด้านการแข่งขันจากการที่มีผู้เล่นรายใหญ่เข้ามาหลายรายนับเป็นสิ่งที่ดี แสดงให้เห็นว่า ไทยเป็นตลาดที่น่าลงทุน ทั้งมีส่วนสำคัญผลักดันให้ภาพรวมตลาดเติบโตได้มากกว่าเดิม ขณะนี้อีคอมเมิร์ซยังมีสัดส่วนเพียง 1-3% ของตลาดรวมค้าปลีกทั้งประเทศ ดังนั้นโอกาสขยายตัวยังมีอยู่สูงมาก อย่างจีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น สัดส่วนเกิน 10% การจะตามทันได้ปัจจัยขึ้นอยู่กับการลงทุนพัฒนาตลาดของผู้ให้บริการและการพัฒนาโลจิสติกส์ในประเทศ

สำหรับแนวทางทำตลาดบริษัท จะปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับความต้องการท้องถิ่นที่มีความเฉพาะทาง เช่นไทยให้ความสำคัญและได้พัฒนามาเป็นพิเศษ คือฟังก์ชั่นแชท ทั้งมี นโยบายการันตีการซื้อขายเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่น

นอกจากนี้ งานสำคัญคือทำให้ผู้ซื้อมีความสุข พัฒนาประสบการณ์ผู้ใช้ แอพพลิเคชั่น เน้นพัฒนาศักยภาพผู้ขาย ช่วยด้านการตลาด ผลักดันให้เติบโตอย่างยั่งยืนพร้อมๆ กับบริษัท ขณะเดียวกันสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น กลุ่มเป้าหมายหลักโฟกัสตั้งแต่อายุระหว่าง 16-25 ปี กลุ่มนักเรียน นักศึกษา และเพิ่งเริ่มต้นทำงาน

“เราจะพยายามขยายฐานลูกค้าให้กว้างมากขึ้น เพิ่มความหลากหลายของสินค้า เปิดช่องทางให้กับทั้งผู้ค้ารายเล็กและใหญ่”

ปัจจุบันช้อปปี้ มีอัตราการเติบโตที่เร็วทั้งในตลาดไทยและทั่วโลก ปี 2559 รวม 7 ประเทศที่เข้าไปทำตลาด มูลค่าการซื้อขาย(จีเอ็มวี) สูงถึง 1,800 ล้านดอลลาร์ เติบโตต่อเดือน 43% มียอดดาวน์โหลด 25 ล้านครั้ง ผลิตภัณฑ์จำหน่ายกว่า 65 ล้านรายการ

อย่างไรก็ตาม ช้อปปี้ยังไม่โฟกัสกับการทำรายได้ในไทย แต่เน้นขยายฐานผู้ใช้ ส่งเสริมผู้ค้า โดยปกติบริษัทลักษณะนี้กว่าจะเริ่มทำกำไรต้องใช้เวลา 5-8 ปี ขณะที่ แนวโน้มธุรกิจสามารถขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง

ยอดคำสั่งซื้อในไทยมากกว่า “ล้านครั้ง/เดือน”
ช้อปปี้ เปิดตัวในไทยเป็นทางการเดือน ธ.ค. 2558 เมื่อปี 2559 ยอดการสั่งซื้อเติบโต 43% ทุกเดือน รวมต่อเดือนมีคำสั่งซื้อมากกว่า 1 ล้านครั้ง

ปัจจุบันยอดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นในไทยมีมากกว่า 5 ล้านครั้ง จากจำนวนดังกล่าว 10-20% เป็นผู้ขาย สินค้าวางจำหน่ายสัดส่วนประมาณ 20% จาก 65 ล้านรายการ เฉพาะรายใหญ่มีอยู่กว่า 100 รายแนวโน้มยังจะโตต่อเนื่อง ทุกวันนี้ผู้ใช้ต่อคนเข้าใช้แอพสัปดาห์ละ 3 ครั้ง

ขณะที่สินค้าขายดีคือ กลุ่มเครื่องสำอาง สุขภาพ ความงาม แฟชั่น และอีกหมวดที่มาแรงคือ โมบาย แกดเจ็ท และอุปกรณ์เสริม ล่าสุดจึงจัดแคมเปญ “Mobile & Electronics Madness” มอบส่วนลดสูงสุด 90% สำหรับสินค้ากลุ่มคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์ไอที อุปกรณ์เสริม รวมถึงอุปกรณ์ถ่ายภาพ ระหว่างวันที่ 3-26 มี.ค.ครั้งนี้มีแบรนด์ชั้นนำจำนวนมากเข้าร่วมรายการ

ปี 2560 บริษัทคาดว่ายอดคำสั่งซื้อจะโตได้เป็นตัวเลข 2 หลักทุกเดือน โดยรวมตั้งเป้าว่าทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย และยอดคำสั่งซื้อต้องเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก และทำให้ดีมากกว่าปี 2559