เครียด! ตกงาน6เดือน กดบัตรคิวจี้ธ.ไทยพาณิชย์ แต่หนีไม่รอด

เครียด! ตกงาน6เดือน กดบัตรคิวจี้ธ.ไทยพาณิชย์ แต่หนีไม่รอด

ชีวิตสุดเครียดตกงาน6เดือน หนุ่มใหญ่วัย58ทำเนียนกดบัตรคิวจี้ธ.ไทยพาณิชย์ ได้4พันบ. แต่หนีไม่รอด "ศานิตย์"รุดพบ-สั่งข้าวให้กินแก้เครียด

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ขณะที่ พ.ต.ท.กิติศักดิ์ จูติกรกุล สวป.สน.บางรัก กำลังปฏิบัติหน้าที่ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ ได้รับแจ้งเหตุชายชิงทรัพย์ภายในธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาอาคารปาโซ่ ทาวเวอร์ 88 ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุด้านหน้าอาคารดังกล่าว พบเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย รวมทั้งประชาชนในละแวกนี้สามารถควบคุมตัว นายศักดา วรวุฒิ อายุ 58 ปี ชาวบางเมืองใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ สวมเสื้อยืดคอกลม สีเทา กางเกงยีนส์ สีน้ำเงิน รองเท้าหุมส้นแบบหนัง สภาพสะบักสะบอม

สอบถาม นายวิระ มณฑา อายุ 51 ปี รปภ.ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาที่เกิดเหตุดังกล่าว ให้การว่า ขณะตนปฏิบัติหน้าที่ พบชายดังกล่าวเดินเข้ามาภายในธนาคาร โดยสะพายกระเป๋าเป้สีดำ ไม่ปกปิดใบหน้าใดๆ มากดบัตรคิวบริเวณหน้าประตู เมื่อพนักงานเรียกบัตรคิวจึงเดินไปยังเคาท์เตอร์ หมายเลข 3

จากนั้นได้วางกระเป๋าลงพร้อมหยิบปืนพกสั้นสีดำออกมาขู่พนักงานในเค้าท์เตอร์ แล้วหยิบเงินในเค้าเตอร์หมายเลข 4 ไปจำนวน 4,000 บาท เมื่อได้เงินแล้วจึงเก็บปืนและเงินใส่กระเป๋า ก่อนเดินออกเหมือนคนปกติทั่วไป แต่ระหว่างเดินออกประตูมีผู้ใช้บริการและพนักงานต่างตระโกนให้ช่วยจับโจร จึงวิ่งตามพร้อม รปภ.อีกนายไปยัง ซอยสีลม10 เมื่อผู้ร้ายเห็น รปภ.วิ่งตามจึงทิ้งกระเป๋าลงแล้ววิ่งหนี ไปจนมุมบริเวณตลาด จากนั้นได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางรัก ก่อนควบคุมตัวสอบสวน ที่สน.บางรัก

ต่อมาเวลา 15.30 น. วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พล.ต.ท.ศานิตย์มหถาร ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุระชัย ควรเดชะคุปต์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย ผบก.น.6 และ พ.ต.อ.นคร ทองพานิช ผกก.สน.บางรัก ได้ร่วมกันทำการสอบปากคำ นายศักดิ์ดา วรวุฒิ อายุ 58 ปี ผู้ต้องหา พร้อมของกลาง อาวุธปืนปลอม บีบีกัน สีดำ 1 กระบอก มีดพกสั้นแบบพับ 1 เล่ม เงินสด จำนวน 4,000 บาท และบัตรเอทีเอ็ม ธนาคาร จำนวนหนึ่งโดยเจ้าตัวอยู่ในสภาพอิดโรย สีหน้าซีดเซียว และเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก

จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนทำงานเป็นพนักงานโรงงานแห่งหนึ่งที่ จ.สมุทรปราการ ต่อมาถูกเลิกจ้าง ต้องอยู่ในสภาวะตกงานมากว่า 6 เดือน จากนั้นได้ย้ายมาหางานทำที่ย่านพระราม 2 จึงต้องเช่าห้องพักจนกระทั่งเงินที่มีเหลืออยู่ เหลือเพียง 100 บาท ทำให้ไม่มีเงินจ่ายค่าห้องเช่าและค่าข้าว ประกอบกับมีอาการป่วยทางจิต เคยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านธนบุรี มักจะได้ยินเสียงแว่ว คล้ายมีผู้สั่งการให้ทำบางสิ่งบางอย่างอยู่เสมอ

โดยก่อนก่อเหตุตนได้ตัดสินใจนั่งรถเมล์โดยสารมาจากห้องพักย่านพระราม2 มาลงรถที่สวนลุมพินี ด้วยเงินที่มีติดตัวอยู่เพียง 100 บาท จากนั้นได้เดินเท้าข้ามฝั่งมายังถนนสีลมดูลาดเลาตามธนาคารที่ตั้งอยู่ริมถนนดังกล่าว แต่ธนาคารแต่ละแห่งมีผู้เข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก กระทั่งพบว่าธนาคารดังกล่าวไม่มีลูกค้า มีเพียงพนักงานผู้หญิงคอยเปิดประตูให้ลูกค้า และไม่เห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุ

อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การต้องทำการสอบปากคำอีกครั้ง แต่ระหว่างการสอบปากคำ ผู้ต้องหาอยู่ในอาการเคร่งเครียด ประกอบกับอยู่ในสภาพอิดโรยเนื่องจากไม่ได้รับประทานอาหารมาตั้งแต่เช้า ทำให้ พล.ต.ท.ศานิตย์ ได้สั่งข้าวผัดกะเพราหมูไข่ดาวมาให้ผู้ต้องหารับประทาน เพื่อให้มีความรู้สึกผ่อนคลาย

ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัตินายศักดิ์ดา ไม่เคยต้องโทษคดีแต่อย่างใด เบื้องต้นแจ้งข้อหา“ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธปืน ,มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป