จับแก๊งค์ลักแบตเตอรี่สำรองไฟ 'ทรูมูฟ' หลายจังหวัด

ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ พล.ต.ต.ดำรงค์ เพ็ชรพงษ์ ผบก.ภจว.นครสวรรค์ พร้อมด้วย พตอ.ชาญวิทย์ กนกนาค รอง ผบก. นายชิจวัน ฉายอรุณ ผจก.ทรู คอร์ปอเรชั่น โครงข่ายภาคเหนือตอนล่าง แถลงผลการติดตามกวาดล้างจับกุม แก๊งค์ลักแบตเตอรี่สำรองไฟ เสาสัญญาณโทรศัพท์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ตัวผู้ต้องหา 3 คนคือ นายอรุณศักดิ์ หรือโจ้ คำชู อาย 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72/3 หมู่ 9 ต.สายลำโพง อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ เป็นคนขับรถ นายวีรชาติ หรือโอ๊ต ก้อนแพร อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122/1 หมู่ 4 ต.วังแดง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ นั่งคู่มาในตอนหน้า ส่วนนายศรัณย์ หรือเท่ห์ มานะจักร อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78/6 หมู่ 9 ต.สายลำโพง อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ นั่งมาในตอนหลังหรือในแคบ พร้อมของกลาง รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ตอนครึ่ง มีหลังคา สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน ฒห 6337 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน แผ่นป้ายทะเบียนรถ บฉ 6131 ตราด จำนวน 2 แผ่น แบตเตอร์รี่สำรองไฟของบริษัททรู สีดำและสีเทา รวม 36 ลูก และของกลางอื่นอีก รวม 16 รายการ นอกจากนี้ยังตรวจค้นพบยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 ยาไอซ์ จำนวน 1 ถุง หนัก1.17 กรัม

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพว่าร่วมกันตระเวนลักทรัพย์เป็นแบตเตอรรี่สำรองไฟ เสาสัญญาณ ทรูมูฟ ในช่วงเดือนธันวาคม 2559 มกราคม 2560 ในเขตพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ ชัยนาท อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ ตาก รวมทั้งสิ้น 69 จุด ได้แบตเตอรี่สำรองไฟไปจำนวน 344 ลูก นับว่าเป็นความสูญเสียอย่างมหาศาล ทำให้ระบบการให้บริการทางโทรศัพท์เสียหาย

ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่แยกสอบสวนดำเนินคดียาเสพติด กับเรื่องการลักทรัพย์ แบตเตอรี่สำรองไฟ เสาสัญญาณทรูมูฟ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความร้องทุกข์และติดตามสืบสวนพบว่ามีการลักแบตเตอรี่สำรองไฟในหลายจังหวัด จึงได้จัดวางกำลังสืบสวนหาข้อมูล คาดว่าคนร้ายน่าจะใช้เส้นทางสาย 117 ในการหลบหนีเข้ากรุงเทพ จึงวางกำลังตรวจตามเส้นทางและพบตัวคนร้ายเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 15.00 น.พร้อมรถยนต์ต้องสงสัยและของกลางที่ หมู่ 8 ต.บางม่วง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ หลังจากนั้นได้ทำการสอบสวนขยายผล จนสามารถสืบทราบว่าคนร้ายลงมือปฏิบัติการกี่ครั้ง ที่ไหนบ้าง และจัดส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อๆไปในข้อหา ลักทรัพย์ และพาทรัพย์นั้นไปให้พ้นจากการจับกุมด้วยยานพาหนะ