คลาสสิค- สากลปนพื้นบ้าน 

-----------------------------------------------

ท่ามกลางความวิปโยคโศกเศร้าของพสกนิกรชาวไทยในช่วงหลังของเดือนตุลาคมปีกลาย  ศิลปินทุกสาขา ทั้งดนตรี กวี เพลง และภาพ  ได้ถ่ายทอดความรู้สึกจากใจ น้อมรำลึกถวายอาลัย"ในหลวง รัชกาลที่ 9" อย่างลึกซึ้งพร้อมเพรียงเป็นประวัติการณ์  หนึ่งในนั้นที่โดดเด่นเป็นพิเศษก็คือ มิวสิควิดิโอบทเพลงสรรเสริญพระบารมี  โดย วงดนตรีคลาสสิค "วี ทริโอ" ร่วมกับวง"จีบ"  เป็นเวอร์ชั่นเศร้าจับใจที่สุด  ผู้ฟังต้องหลั่งน้ำตาและแชร์ความรู้สึกต่อกันไปจนกลายเป็นข่าวดังในชั่วข้ามคืน ..

วงดนตรีคลาสสิค "จีบ" เริ่มสร้างปรากฏการณ์ใหม่เมื่อสามสี่ปีก่อนด้วยการยกวงไปบรรเลงสดๆ ในโรงเรียน สถานสงเคราะห์เด็กพิการ  อาคารสนามบิน และตามถนนหนทางใน กทม.   บันทึกการแสดงสดเหล่านี้  ถูกนำมาร้อยเรียงลงยูทูบ จนได้รับเสียงชื่นชมทั้งในด้านฝีมือและความเป็น "คลาสสิก บอย แบนด์" ที่ไม่เคยมีมาก่อนในเมืองไทย   

ชื่อวง"จีบ" อาจไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างเท่ากับชื่อของสมาชิกวงบางคน เช่น ทฤษฎี ณ พัทลุง (วาทยกรและนักประพันธ์ดนตรี"คีตอัจฉริยะรุ่นเยาว์"ระดับโลก)  และ  เป้  วีทริโอ (ดร. ทวีเวท ศรีณรงค์ - ไวโอลินนิสต์หนุ่มหล่อที่ออกสื่อบ่อยจนใครๆก็รู้จัก)   แต่คุณสมบัติและประสบการณ์ทางดนตรีของแต่ละคนนับว่าไปไกลเกินอายุ  ขอแนะนำเพียงสั้นๆ ดังนี้   "เมฆ"  หัวหน้าวง- มือวิโอล่าผู้ผ่านการศึกษาจาก 3 สถาบันดนตรีชั้นนำในสามทวีป เคยแสดงเฉพาะเบื้องพระพักตร์ควีนเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร    "คริส" หนุ่มลูกครึ่ง นักเปียโนปริญญาเอกจากสหรัฐฯ เจ้าของผลงานสนุกร่วมสมัยทางช่องยูทูบ Chris the Pianist มีแฟนคลับติดตามจากทั่วโลก   "แดน" นักไวโอลินนายแบบสุดหล่อ ดีกรีปริญญาตรี-โท จากสถาบันดนตรีชั้นหนึ่งของโลกในออสเตรีย  "ปาล์ม" นักเชลโล่ประจำวงออร์เคสตร้าของสวิตเซอร์แลนด์ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในยุโรป  "ยู" มือดับเบิลเบสสุดเฟี้ยว เคยเล่นกีตาร์เบสวงสตริง เป็นดีเจและซาวด์เอนจิเนียร์ด้วย    และน้องใหม่คนสุดท้อง "ฮัท" อีกหนึ่งมือเชลโล  เด็กไทยคนแรกที่ผ่านการคัดเลือกเข้าเรียนในสถาบัน The Julliard School นิวยอร์ค แหล่งผลิตศิลปินนักร้อง นักเต้น นักแสดง นักดนตรี ระดับโลกมาแล้วนับไม่ถ้วน  

แล้วถ้าเราเป็นติ่งเกาหลีหรือขาใหญ่เพื่อชีวิต ไม่ใช่คอเพลงคลาสสิก ทำไมจะต้องสนใจวง "จีบ" ด้วย?  คำตอบง่ายๆก็คือ   แต่ละคนมีความสามารถเฉพาะตัวสูงเยี่ยมเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ (ทำนองเดียวกับนางแบบนางงามหน้าไทยผิวคล้ำ ที่ต้องผ่านเวทีระดับโลกก่อน คนไทยด้วยกันถึงจะปลื้มด้วย)  ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น   พวกเขาล้วนมีต้นทุนทางสังคมและการศึกษาสูงพอที่จะเลือกไปทำงานสร้างชื่อในต่างแดนได้ แต่กลับมารวมตัวกันด้วยความมุ่งมั่นที่จะจรรโลงสังคมไทยด้วยเสียงดนตรี นำพาเพลงคลาสสิกออกจากหอคอยงาช้างไปเข้าถึงคนเดินดินกินข้าวแกง   ในเมื่อเกาหลีหรือญี่ปุ่นก็มี "คลาสสิก บอย แบนด์"ที่เรียกเสียงกรี๊ดได้ทั่วประเทศแล้ว คนไทยจะไม่เปิดใจต้อนรับสนับสนุนพวกเขาได้อย่างไร? 

ในระยะเริ่มก่อตั้งวง ยังไม่มีงานเดินสาย หนุ่มๆแต่ละคนรับสอนพิเศษตามมหาวิทยาลัยต่างๆ หรือแยกย้ายใปร่วมงานการกุศลและงานโชว์อื่นๆ โดยวางแผนว่าจะต้องมีคอนเสิร์ตใหญ่ปีละครั้ง    ครั้งที่ 2 จัดขึ้นที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เอง.. 

ในครึ่งแรกของคอนเสิร์ต JEEB Seasons  พวกเขาได้สำแดงทักษะฝีมือในท่วงทำนอง 4 ฤดูของคีตกวีเอก Vivaldi   ครึ่งหลังเปลี่ยนบรรยากาศเข้าหาผู้ชมชาวไทย ด้วยบทเพลงกระราชนิพนธ์ และนักร้องรับเชิญ ชรัส เฟื่องอารมย์ กับ "อิมเมจ"  จนถึงคิวหมัดน็อคพิชิตใจ นั่นคือการผสมผสานดนตรีคลาสสิกสากล กับคลาสสิกพื้นบ้านไทยอย่างกลมกลืนสนุกสนานจนลืมเส้นแบ่งทางวัฒนธรรมไปได้เลย    แขกรับเชิญที่มาร่วมแจมคือวงหมอลำ Bangkok Paradise    ซึ่งก็อีกนั่นแหละ.. คนไทยลูกกรุงเพิ่งหันมาปลื้มกับวงหมอแคนหมอลำบ้านๆ ก็ต่อเมื่อฝรั่งมาค้นพบของดีอีสานเข้า แล้วชวนไปตระเวนโชว์เมืองนอก จนโด่งดังเป็นวงไทยวงเดียวในประวัติศาสตร์ที่ได้ขึ้นเวที Glastonbury Festival เทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก 

ขอชื่นชม ทฤษฎี ณ พัทลุง ผู้เรียบเรียงดนตรีสากลปนอีสานสำหรับงานนี้ ที่สามารถทำให้ความเป็นคลาสสิกของดนตรีพื้นบ้านเรา ก้าวออกมาเคียงคู่คลอเคลียกับคลาสสิกตะวันตกอย่างน่าอัศจรรย์ใจ   และเมื่อได้เห็นหนุ่ม "จีบ"ทั้งแปดบรรเลงเพลงหมอลำอย่างคึกคักสนุกสนาน   เราก็ปลื้มปริ่มที่คนรุ่นใหม่หันมาใส่ใจกับการเรียนรู้  ฟื้นฟู ประยุกต์ศิลปวัฒนธรรมไทย ด้วยอุปกรณ์ที่ตนถนัด ไม่ต้องถอดสูทมานุ่งผ้าไทยก็สามารถทำได้ และทำดีด้วย    

---

ติดตามผลงานของวงจีบได้ทางเฟซบุ๊ค-- "เพลงคลาสสิก จีบ คนกรุงเทพ" หรือ "jeebbangkok"