TACC - ซื้อ

TACC - ซื้อ

การลอยตัวน้ำตาลและภาษีฯใหม่ กระทบจำกัด

ประเด็นการลงทุน

เรายังคงมั่นใจในประเด็นการเติบโตในอนาคตของบริษัททั้งในส่วนของธุรกิจเดิม และธุรกิจใหม่ โดยกำไรใน 4Q16 ทำจุดสูงสุดใหม่ ตามคาดและเชื่อว่าแนวโน้มกำไรจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต ตามปัจจัยหนุนจากสินค้าใหม่ ที่ปล่อยออกมาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง เช่นสินค้ากลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังในต่างประเทศ, โดนัทรสชาติใหม่ ซึ่งเริ่มออกจำหน่าย ตั้งแต่ช่วงต้นปี สำหรับประเด็นการประกาศลอยตัวน้ำตาล, การเก็บเพิ่มภาษีน้ำหวานและภาษีสรรพสามิตใหม่ กดดันให้ราคาหุ้นปรับฐานลงมาเทรดบน PEG 0.9 เท่า ซึ่งต่ำกว่าอัตราการเติบโตระยะยาวของบริษัทฯ และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ 1.5 เท่า เราเห็นว่าเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ เพราะคาดข่าวดังกล่าวกระทบกำไรจำกัด และจากแนวโน้มกำไรที่เติบโตแข็งแกร่ง เรายังคงคำแนะนำซื้อ ด้วยราคาเป้าหมาย 12.30 บ.

กำไร 4Q16 โตกว่า 110% YoY ตามคาด

บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 4Q16 ที่ 29 ล้านบาท เติบโต 110% YoY และยังเพิ่มขึ้น 5% QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล รวมถึงปัจจัยหนุนจากสินค้าใหม่ทั้ง โดนัทและสินค้า Sanrio กำไรที่ออกมาเป็นไปตามที่เราคาด บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผล 0.08 บาท/หุ้น XD 24 เม.ย. จ่าย 17 พ.ค. คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 44% บริษัทมีรายได้ 306 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% YoY และ 5% QoQ โดยมียอดขายในประเทศ 277 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% YoY และ 2% QoQ จากการเติบโตของเครื่องดื่มโถกดเย็น, กลุ่มเครื่องดื่ม non coffee ใน All Café ที่มีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง และการออกสินค้าใหม่ในตลาดในกลุ่มสินค้าประเภทโดนัท ยี่ห้อ “A Smile” สำหรับยอดขายในต่างประเทศอยู่ที่ 29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% YoY และ 52% QoQ

ประเด็นกดดันจากการลอยตัวน้ำตาลจำกัด

เรามองว่าหากมีการประกาศลอยตัวราคาน้ำตาล จะไม่ส่งผลกระทบในด้านต้นทุนในปีนี้ต่อเนื่องไปจนถึงกลางปีหน้าเนื่องจากยังมีโควตาเดิมอยู่ และ ในข้อเท็จจริงบริษัทมีสัดส่วนต้นทุนน้ำตาลแค่ราว 10-15% ซึ่งเราเชื่อว่า บริษัทสามารถปรับเปลี่ยนสูตรเพื่อใช้ส่วนผสมแทนความหวานชนิดอื่นแทนได้ หรือแม้แต่การปรับเปลี่ยนสูตรหวานน้อยเพื่อลดน้ำ ตาลให้
สอดคล้องกับเทรนด์สุขภาพในปัจจุบัน (ดู Sensitivity analysis Figure: 2)

... ประเด็นภาษีน้ำหวาน

ประเด็นเรื่องภาษีน้ำ หวาน เบื้องต้นเราคิดว่าภาษีส่วนนี้จะถูกคิดกับเครื่องดื่ม Ready-to-drink เท่านั้น ซึ่งจะไม่กระทบกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท และสำหรับประเด็น พ.ร.บ. สรรพสามิตใหม่ เก็บภาษีจากราคาขายปลีก แทนราคาหน้าโรงงาน ซึ่งผ่านการพิจารณาร่างจาก สนช. ไปเมื่อวันที่ 15 ก.ย. ปีที่แล้ว เรามองว่าผลกระทบต่อบริษัทจำ กัดเช่นเดียวกันเนื่องจากบริษัททำการขายแบบ B2B ทำให้ไม่มีราคาขายปลีก คาดการคิดอัตราภาษีไม่เปลียนแปลง และหากการขายจาก 7-11 ถูกคิดภาษีรูปแบบใหม่เรามองว่าจะเป็น cost pass-through ไปสู่ราคาขายในตลาดแทน