เตือน7จว.ใต้ เตรียมรับมือฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง

เตือน7จว.ใต้ เตรียมรับมือฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง

ปภ. เตือน 7 จังหวัดภาคใต้ เตรียมรับมือฝนตกหนักและคลื่นลมแรง ช่วงวันที่ 27 ก.พ. - 2 มี.ค.60

กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสาน 7 จังหวัดภาคใต้ เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักและคลื่นลมแรงในช่วงวันที่ 27 ก.พ. – 2 มี.ค. 2560 โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ และเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็วและเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัย

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนคลื่มลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป มีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ประสาน 7 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือฝนตกเพิ่มขึ้น ฝนตกหนักบางพื้นที่ และคลื่นลมแรงในช่วงวันที่ 27 ก.พ. – 2 มี.ค.2560 โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญเหตุ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ทีมกู้ชีพกู้ภัยประจำตำบล ชุดกู้ชีพกู้ภัยทางน้ำและทางทะเล รวมถึงเครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันทีที่เกิดภัย อีกทั้งประสานแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ราบต่ำริมน้ำไหลผ่าน บริเวณริมชายฝั่งทะเล พื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัด พื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางน้ำและทางทะเล สถานประกอบการริมชายหาดให้เตรียมการป้องกันและระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักและคลื่นลมแรง โดยดำเนินการผ่านวิทยุกระจายเสียง เสียงตามสาย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน เครือข่ายวิทยุสมัครเล่น สถานีโทรทัศน์ เคเบิ้ลทีวี และสื่อสังคมออนไลน์ 

สำหรับชาวเรือบริเวณ อ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วง 27 ก.พ. – 2 มี.ค. 2560 ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากฝนตกหนักและคลื่นลมแรง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป