'บราเดอร์'ปรับทัพยกระดับบริการหลังการขาย

'บราเดอร์'ปรับทัพยกระดับบริการหลังการขาย

“บราเดอร์” เร่งปรับโฉมองค์กรรับตลาดเปลี่ยน ผนึกคู่ค้าลุยขายเชิงโซลูชั่นจัดเต็มสินค้าใหม่ ยกระดับบริการหลังการขาย ชูไทยตลาดทำเงิน

นายโทโมยูกิ ฟูจิโมโต กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ทิศทางธุรกิจบราเดอร์ในไทยระยะ 3 ปี ระหว่าง 2559-2561 จะสอดคล้องไปกับนโยบายบริษัทแม่ที่มุ่งปรับเปลี่ยนตนเอง เพื่อปูทางสร้างการเติบโตในอนาคต 3 ด้าน ประกอบด้วย พัฒนาธุรกิจใหม่โดยเฉพาะขยายตลาดสู่ลูกค้าองค์กร ปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานภายในเสริมประสิทธิภาพ เพิ่มความยืดหยุ่น รวมถึงพัฒนาศักยภาพพนักงานรองรับการบริการลูกค้า ธุรกิจที่ขยายตัว

“เราต้องการเป็นผู้นำระดับ 1 หรืออย่างน้อย 2 ในทุกกลุ่มตลาดที่เข้าไป"

บริษัท คาดว่าปีงบประมาณ 2559 ซึ่งเริ่มเม.ย.2559 และจบที่เดือน มี.ค.2560 ยอดขายรวมบริษัทเทียบปีที่ผ่านมามีแนวโน้มเติบโต 5% ตั้งเป้าปี 2560 จะโตไม่น้อยกว่า 5% เช่นกัน

บราเดอร์มีสำนักงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 6 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม และมาเลเซีย ปัจจุบันไทยทำรายได้เป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคด้วยสัดส่วน 38% เมื่อรวมเอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ไม่รวมจีน ญี่ปุ่น และโอเชียเนีย 13 ประเทศ ไทยทำรายได้สูงสุดสัดส่วน 18% บริษัทแม่วางเป็นตลาดสำคัญมาก

นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บราเดอร์ เสริมว่า สามารถเติบโตในทุกกลุ่มสินค้า สัดส่วนรายได้มาจากคอนซูเมอร์ 30% ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี 50% ธุรกิจองค์กรและภาครัฐ 20% ปีนี้คาดว่ากลุ่มธุรกิจองค์กรจะเพิ่มเป็น 30%

สิ่งที่บริษัทโฟกัส คือ ทำงานร่วมคู่ค้า แบ่งการทำตลาดสินค้าเป็นกลุ่มชัดเจน มีแผนจัดอบรมให้เข้าใจวิธีนำเสนอรูปแบบโซลูชั่น ขยายช่องทางจัดจำหน่ายกลุ่มสินค้าเครื่องพิมพ์ฉลากไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมและอิเล็กทรอนิกส์ ผนึกพันธมิตรธุรกิจซอฟต์แวร์สแกนเนอร์เสนอโซลูชั่นที่ตรงความต้องการ ทำกิจกรรมตลาดร่วมคู่ค้าจักรเย็บผ้า จักรปัก

ตลอดทั้งปีนี้จะมีกิจกรรมพบปะลูกค้าทั้งสัมมนา เวิร์คช้อป และติดต่อไปโดยตรงอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้เตรียมขยายคู่ค้ารายใหม่ๆ และเปิดตัวสินค้าใหม่ไม่น้อยกว่า 10 รุ่น

“เราต้องการปรับเปลี่ยนแนวทางการขายใหม่ไปเป็นรูปแบบโซลูชั่นไม่ใช่แค่ตัวเครื่อง เป้าหมายสำคัญคือทำให้ลูกค้าใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ สามารถลดค่าใช้จ่าย”

ปัจจัยผลักดันให้บริษัทเติบโตต่อเนื่อง มาจากมีสินค้าที่ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการ เพิ่มสินค้ากลุ่มใหม่ๆ เสริมช่องว่างตลาดต่อเนื่อง เช่น เครื่องพิมพ์เลเซอร์ขนาดใหญ่สำหรับลูกค้าองค์กร และปีนี้จะยิ่งเพิ่มน้ำหนักส่วนนี้มากขึ้น

ในไทยแบ่งสินค้าเป็น 4 กลุ่มหลัก คือ พรินเตอร์ เครื่องพิมพ์ฉลาก สแกนเนอร์ และจักรเย็บผ้า ขณะนี้กลุ่มพรินเตอร์สร้างรายได้หลักกว่า 90% จักรเย็บผ้าประมาณ 7%

พร้อมประเมินว่า ตลาดรวมเครื่องพิมพ์ไทยปีนี้มียังแนวโน้มเติบโตน้อย แต่คงไม่ถึง 5% ส่วนสแกนเนอร์และจักรเย็บผ้ายังคงขยายตัวได้ต่อเนื่อง

จีเอฟเค ระบุว่า บราเดอร์มีส่วนแบ่งตลาดโมโนเลเซอร์พรินเตอร์ 28% เป็นอันดับ 2 ในไทย โมโนเลเซอร์มัลติฟังก์ชั่น 35% อันดับ 1 อิงค์เจ็ทมัลติฟังก์ชั่นส่วนแบ่ง 15% อันดับ 4

ปัจจุบัน บราเดอร์ มีศูนย์บริการและศูนย์ติดตั้งครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ รวม 134 แห่ง มีศูนย์บริการซ่อมด้านจักรเย็บผ้ารวม 23 แห่ง ปี 2560 จะขยายศูนย์บริการด้านจักรเย็บผ้าเพิ่มอีก 3 แห่ง พร้อมพัฒนาระบบซีอาร์เอ็มให้ทันสมัย ตอบสนองได้เรียลไทม์ มีบริการผ่านโมบายแอพพลิเคชั่นอำนวยความสะดวกครอบคลุมทุกช่องทาง