BA - ซื้อ

BA - ซื้อ

เงินปันผลสูงเกินคาด แม้ผลประกอบการจะอ่อนตัวลง

ต่ำกว่าคาด

BA รายงานขาดทุนสุทธิไตรมาส 4/59 ที่ 320 ล้านบาท พลิกจากกำไรสุทธิในไตรมาส 4/58 และไตรมาส 3/59 หากไม่รวมกำไรจากการขายเงินลงทุน 2 ล้านบาทและกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 31 ล้านบาท ขาดทุนหลักไตรมาส 4/59 จะอยู่ที่ 353 ล้านบาท พลิกกลับจากกำไรหลักในไตรมาส 4/58 และไตรมาส 3/59 ซึ่งผลประกอบการต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดว่าจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 96-142 ล้านบาท เนื่องจากค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานที่สูงกว่าคาด

ประเด็นหลักผลประกอบการ

ปัจจัยหลักเบื้องหลังผลการดำเนินงานที่อ่อนตัว ได้แก่ 1) จำนวนผู้โดยสารที่ลดลง (ลดลง 2% QoQ [เพิ่มขึ้น 7% YoY] มาอยู่ที่ 1.4 ล้าน คน), 2) ค่าโดยสารเฉลี่ยที่ลดลง (ลดลง 5% YoY และ 2% QoQ มาอยู่ที่ 3,548 บาท), 3) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สูงขึ้น (เพิ่มขึ้น 14% YoY และ 11% QoQ) และ 4) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่สูงขึ้น ซึ่ง
สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อ ยอดขายปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 18.6% จาก 18.1% ในไตรมาส 4/58 และ 14.8% ในไตรมาส 3/59 ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สูงขึ้นเนื่องมาจากราคาน้ำมันเครื่องบินที่สูงขึ้น (เพิ่มขึ้น 7% QoQ [ลดลง 21% YoY] มาอยู่ที่ 56 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล), ต้นทุนค่าซ่อมบำรุงเครื่องบินที่สูงขึ้น, ค่าใช้จ่ายพนักงานที่สูงขึ้น , ต้นทุนค่าบริการผู้โดยสาร และค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น

แนวโน้ม

จากนโยบายล่าสุดของภาครัฐในการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า (1,000 บาท) ของสถานทูตไทยแก่ประเทศต่างๆจำนวน 21 ประเทศ รวมถึง ประเทศจีน และการปรับลดค่าธรรมเนียมวีซ่า ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (มาอยู่ที่ 1,000 บาท จาก 2,000 บาท) ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2559 จนถึงวันที่ 31 ส.ค. 2560 กอปรกับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เริ่มกลับเข้ามา เราคาดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะปรับตัวสูงขึ้นในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า

ข้อมูลสถิติเบื้องต้นจาก AOT ระบุว่าจำนวนผู้โดยสารโดยรวมขยายตัวขึ้น 10.7% YoYในเดือนม.ค. และ 7.5% ในระหว่างวันที่ 1-22 ก.พ. (เทียบกับ 6.2% YoYในไตรมาส 4/59) ซึ่งได้แรงหนุนจากการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ (เพิ่มขึ้น 7.1% YoY ในเดือนม.ค. [เทียบกับ 2.2% ในไตรมาส 4/59]) และนักท่องเที่ยวในประเทศ (เพิ่มขึ้น 15.5% YoY ในเดือนม.ค. [เทียบกับ 11.1%ในไตรมาส4/59) จากความคาดหวังในการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวในไตรมาส 1/60 เราคาดว่าการดำเนินงานของ BA จะกลับมาทำกำไรได้ในไตรมาส 1/60 อย่างไรก็ตามกำไรหลักไตรมาส 1/60 ของบริษัทคาดว่าจะปรับตัวลดลง YoYเนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สูงขึ้นและราคาน้ำมันเครื่องบินที่สูงขึ้น

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

เราปรับลดประมารการกำไรสุทธิปี 2560 ลง 23% มาอยู่ที่ 2,408 ล้านบาท เพื่อสะท้อน 1) การปรับเพิ่มประมาณการค่าใช้จ่ายพนักงานขึ้นอีก 10% และ 2) การปรับเพิ่มต้นทุนค่าซ่อมบำรุงขึ้นอีก 15% ส่งผลให้เราปรับลดราคาเป้าหมายด้วยวิธี SOTP ณ สิ้นปี 2560 ที่ 25 บาท (จาก 29 บาท)

คำแนะนำ

ในมุมมองของเรา ผลประกอบการไตรมาส4/59 ที่น่าผิดหวังอาจมีผลเชิงลบในทางจิตวิทยาต่อราคาหุ้นในระยะสั้น อย่างไรก็ตามความประหลาดใจเชิงบวกต่อการจ่ายเงินปันผลและการคาดการณ์ของการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 1/60 น่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นได้ นอกจากนี้แม้ว่าจะปรับลดประมาณการกำไร แต่แนวโน้มการเติบโตของกำไรคาดว่าจะยังคงแข็งแกร่งที่อัตราเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปีที่ 22% ในระหว่างปี 2559-2561 เทียบกับอัตราเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปีที่ 8% ของตลาด มูลค่าหุ้นในปัจจุบันยังคงถูก โดยซื้อขายกันอยู่ในระดับ PEG ปี 2560 ที่ 0.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยภูมิภาคที่ 0.6 เท่า BA ประกาศอัตราเงินปันผลต่อหุ้นที่ 0.50 บาท สำหรับการดำเนินงานในครึ่งหลังปี 2559 คิดเป็นอัตราส่วนการจ่ายเงินปันผลต่อที่ 89% และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 3.7% ประกาศขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 7 มี.ค. และ จะจ่ายเงินวันที่ 28 เม.ย.