'ดีเอสไอ' สกัดฝูงชนขอตรวจเสบียง ก่อนส่งให้พระธรรมกาย

'ดีเอสไอ' สกัดฝูงชนขอตรวจเสบียง ก่อนส่งให้พระธรรมกาย

"ดีเอสไอ" สกัดฝูงชนขอตรวจเสบียง ก่อนส่งให้พระธรรมกาย

นายอัยย์ เพชรทอง กลุ่มพลังชาวพุทธ ได้แถลงข่าวที่บริเวณการตลาดคลองหลวง กล่าวว่า ขณะนี้ ทั่วโลกกำลังจับจ้องดูปรากฏการณ์ ที่กำลังเกิดขึ้นกับพระพุทธศาสนาในประเทศไทย ซึ่งมีความละเอียดอ่อนอย่างยิ่งทุกฝ่ายควรตั้งสติทบทวนความเป็นมาและดำเนินการให้เหมาะสมด้วยสติและปัญญา กรณีวัดพระธรรมกาย ซึ่งรัฐได้กล่าวหาพระเทพญาณมหามุนี ฟอกเงินและรับของโจรจากการรับถวายทรัพย์เพื่อนำไปใช้ในกิจการศาสนา รัฐบาลได้ใช้มาตรา44 นำกำลังทหารตำรวจจำนวนมากเข้ามาปฏิบัติการที่วัดพระธรรมกายภาพของการใช้ความรุนแรงที่ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก หรือว่ารัฐเองเป็นผู้นำประเทศชาติให้สู่ความเสียหายอย่างยิ่งการใช้กองกำลังปิดล้อมวัดห้ามพระภิกษุสามเณรอุบาสกอุบาสิกาเข้าออก 

รวมไปถึงการปิดถนนรอบรอบวัดพระธรรมกาย ไม่เพียงแต่สร้างความเดือดร้อนให้บุคลากรที่อยู่ในวัด แต่ประชาชนนับพันหลังคาเรือนตั้งแต่คลอง1 ถึงคลอง4 ก็ได้รับความเดือดร้อนไปด้วย เพราะพ่อค้า แม่ค้าแถวตลาดคลอง3 และตลาดคลองแอน ต้องหยุดกิจการ เด็กๆหลายร้อยคนต้องหยุดเรียน หรือเดินทางลำบากขึ้นกับการจราจรรอบรอบวัดติดขัดมหาศาล เพราะด่านตรวจมากมายตลอดเส้นทาง ทั้งหมดนี้ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นการคืนความสุขให้กับประชาชน หากแต่คือการสร้างความเดือดร้อนและลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน

มีคำถามว่าหลังจากการเข้าตรวจค้นภายในวัดอย่างละเอียดเป็นเวลา 3 วัน เขตใดdsiจึงยังปักหลักล้อมวัดสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนจนถึงขณะนี้ เป้าหมายของการควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกายที่แท้จริงแล้วคืออะไรกันแน่ เพื่อสร้างความสงบเรียบร้อยของประเทศและความอยู่เย็นเป็นสุขของประชาชน และพุทธศาสนิกชนทั่วโลก กลุ่มพลังชาวพุทธขอเรียกร้องและวิงวอนให้รัฐบาลไทยยกเลิกการใช้มาตรา4 4กับวัดพระธรรมกายและดำเนินการตามกฎหมายด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม หลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายใดๆต่อประชาชน โดยขอให้การตัดสินใจทบทวนการดำเนินการเสียใหม่โดยทันที นี่คือคำแถลงด้วยความรักความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาและความรักความจริงใจต่อรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐ

ด้านพระอิสรภาพ อาจรสัมปันโน พระเครือขายวัดพระธรรมกายบอกว่าใน การใช้อารยะขัดขืน การอยู่แบบสงบสันติอหิงสา ตามแนวทางของพระ ที่สุขสมเพราะเชื่อว่า การสร้างความอ่อนน้อมต่อ ทุกคนที่ให้ความเมตตาต่อกันกลุ่มพระภิกษุสงฆ์ทุกรูปมีความตั้งใจที่จะทำสิ่งนี้ให้สำเร็จจนกว่าจะได้รับความเมตตาจาก หัวหน้าคณะคสช.ให้ยกเลิกมาตรา44มาถึงเวลานี้เป็นเวลากว่า24ชั่วโมง พระภิกษุสงฆ์ที่เข้าร่วมที่กระทำอริยะขัดขืนการอดอาหารก็ยังคงต่อสู้อยู่มีจำนวน5รูป และทุกๆ บอกว่าจะสู้ให้ถึงที่สุดแม้ร่างกายจะมรณภาพก็ตามหลังจากที่ได้แถลงการณ์สถานภิกษุสงฆ์สามเณรพร้อมด้วยประชาชนได้เดินทางลอดใต้สะพานข้ามคลอง มาฝั่ง ถนนเลียบคลองแอน ทางเข้าประตู 6 เพื่อนำ ข้าวสารอาหารแห้งเช่นผักสด ไข่ไก่ น้ำดื่มเครื่องชูกำลังต่างๆ ไปฝากให้กับทางเจ้าหน้าที่DSIเพื่อที่จะนำไปให้พระภิกษุสงฆ์ ที่อยู่ภายในวัดพระธรรมกาย เพราะถึงขนาดนี้พระภิกษุสงฆ์พร้อม ด้วยลูกศิษย์ ของวัดพระธรรมกายที่อยู่ด้านในวัดนั้น อาหารทุกอย่างเริ่ม หมดลงไปทุกวันและด้วยความเป็นห่วงกลุ่มพระภิกษุสงฆ์พร้อมด้วยลูกศิษย์ของวัดพระธรรมกายที่อยู่ด้านนอก จึงนำอาหารทั้งหมดไปให้ พระภิกษุสงฆ์ที่อยู่ด้านใน แต่ถูก เจ้าหน้าที่ทหารพร้อมด้วย หน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนสังกัดเอาไว้และได้ให้ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมลรองอธิบดีDSIเข้ามาเจรจาแทน แนะนำสิ่งของทั้งหมดวางไว้ พร้อมทั้งจะให้เจ้าหน้าที่นำคนเข้าไปไว้ที่ประตู7เพื่อคัดกรองว่าจะนำสิ่งใดเข้าไปส่งให้พระภิกษุสงฆ์และลูกศิษย์ที่อยู่ภายในวัดพระธรรมกายได้บ้าง