กูรูหนุนตั้งกระทรวงSMEสร้างโอกาสธุรกิจ

สถาบันการตลาดเพื่อสังคมแห่งประเทศไทย ร่วมเสวนา กับผู้เชี่ยวชาญรอบด้านทั้งธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บมจ.ทีวี ธันเดอร์ และศูนย์ CUSE-ผู้เชี่ยวชาญด้าน Innovative Education ร่วมให้ความเห็นในหัวข้อ “ขีดเส้นใต้ตลาด 4.0 สร้างสรรค์กันอย่างไร” พร้อมเสนอภาครัฐตั้งกระทรวง SME ปิดจุดอ่อนด้านการบริหารจัดการและการตลาดให้สามารถพัฒนาสินค้าและบริการ เพื่อแสวงหาโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อสร้างการเติบโต พร้อมเปิดตัวหนังสือ “การตลาดยุคสร้างสรรค์ 4.0CREATIVE AGE MARKETING”

ดร.สมฤดี ศรีจรรยา ประธานสถาบันการตลาดเพื่อสังคมแห่งประเทศไทย (Social Marketing Academy of Thailand : SMAT) กล่าวว่า ปัจจุบัน ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ “เอสเอ็มอี” ต้องพยายามปรับตัวเพื่ออยู่รอด เนื่องจากต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งปัจจัยภายในประเทศ และต่างประเทศไม่ว่าจะด้านการเมือง เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว กฎกติกาใหม่การค้าโลก สภาพสังคม ภัยธรรมชาติ ฯลฯ ซึ่งหากผู้ประกอบการธุรกิจก้าวตามไม่ทัน หรือไม่ปรับตัวเองให้สอดรับกับตลาดที่เปลี่ยนไป ธุรกิจอาจจะไม่มีการเติบโตหรือถึงขั้นหยุดกิจการ

ขณะที่ SME ในประเทศไทยปัจจุบันมีมากกว่า 2.7 ล้านราย ซึ่งถือเป็นกลไกหลักในการสร้างความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของประเทศไทยทั้งสร้างรายได้และจ้างงาน และแม้ SME จะมีจุดแข็งด้านความคล่องตัว ยืดหยุ่น สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์แวดล้อมได้เร็ว แต่ยังมีจุดอ่อนด้านการบริหารจัดการ ความรู้ด้านการตลาด ความสามารถในการพัฒนาสินค้าและบริการ โอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ดังนั้นภาครัฐต้องเข้ามามีส่วนช่วยเป็นอย่างมากซึ่งประเทศไทยมีหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้อง แต่ยังไม่มีกระทรวง SME เฉพาะที่จะมาคอยดูแลผู้ประกอบการ SME อย่างจริงจัง เพื่อสอดรับเทรนด์การตลาดยุคไทยแลนด์ 4.0 เป็นยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงและประเทศไทยพร้อมก้าวไปข้างหน้า ภาคธุรกิจก็ต้องพร้อมที่จะปรับตัวให้ฉับไวทันเหตุการณ์

"SMEในประเทศไทยมีจำนวนมาก โดยมีจุดแข็งของการเป็นธุรกิจขนาดเล็กที่ปรับเปลี่ยนและยืดหยุ่นได้ตามสถานการณ์ แต่ที่ผ่ามมาต้องยอมรับว่าหลายธุรกิจที่มีแนวคิดที่ดีแต่ขาดการสนับสนุนทางการตลาดที่เป็นระบบและทันสมัย ส่งผลให้ไม่มีการเติบโตในเรื่องของรายได้ จนไม่มีเงินทุนในการขับเคลื่อนธุรกิจจนไม่สามารถดำเนินการต่อได้จนหลายกิจการล้มหายไป จุดนี้เองที่อยากให้ภาครัฐตั้งหน่วยงาน หรือกระทรวง SME ที่ดูแลผู้ประกอบการด้านนี้โดยตรง เพื่อให้เข้าหาแหล่งทุนที่มีศักยภาพในการใช้ขยายธุรกิจ รวมถึงให้คำแนะนำในเรื่องการตลาดและการบริหารจัดการให้สามารถต่อยอดเพื่อการเติบโตในอนาคตได้อย่างต่อเนื่อง"ดร.สมฤดี กล่าว

จากเหตุผลข้างต้นที่กล่าวมา เป็นที่มาของหนังสือ“การตลาดยุคสร้างสรรค์ 4.0 CREATIVE AGE MARKETING” ที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการย่อโลกการตลาดที่จะเป็นข้อมูลให้ผู้ประกอบการ SME ไทยรู้มากขึ้นโดยเฉพาะเรื่องการตลาดที่ถือเป็นหัวใจสำคัญของ SME เพื่อให้ท่านผู้อ่านมองเห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ด้วยมุมมอง ความคิด ที่กลั่นกรองสั่งสมมาจากประสบการณ์อันยาวนานร่วม 40 ปี ถูกนำมาใช้ถอดรหัสแนวคิดของนักการตลาดชื่อดัง อาทิ Jack Trout (The New Positioning), Marc Gobe (Emotional Branding), Peter Fisk (Customer Genius), Patricia Aburdene (Megatrends 2010) และ Philip Kotler (Marketing 3.0) เพื่อเชื่อมโยงการตลาดแต่ละยุคสมัยอย่างลุ่มลึกรอบด้าน “จนมองเห็นโลกเป็นหนึ่งเดียว” ในการเตรียมพร้อมก้าวเข้าสู่ยุคการตลาดสร้างสรรค์ หรือ Creative Age 4.0 แห่งอนาคต ซึ่งถ้าเราจะผลักดันให้ผู้ประกอบการ SME ไทยเติบโตอย่างยั่งยืนนั้น ประเทศไทยต้องปรับโครงสร้างใหม่ ซึ่งหนังสือเล่มนี้จะเป็นโค้ชให้กับผู้ประกอบการ SME และอาจารย์ที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง

สำหรับสถาบันการตลาดเพื่อสังคมแห่งประเทศไทย จัดตั้งขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการสร้างเครือข่ายอาจารย์ผู้สอนวิชาการตลาดทั่วประเทศ เพื่อพบปะสัมมนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเพื่อให้เกิดการสร้างสรรค์แนวความ รู้ในการสอนวิชาการตลาดใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาหลักวิชาการตลาดใหม่ที่เหมาะสมกับเศรษฐกิจ สังคมและระบบการศึกษาในประเทศไทย รวมถึงการติดตามแนวโน้มความก้าวหน้าในวงการตลาดแนวคิดใหม่ เทคโนโลยีใหม่ เพื่อให้ทั้งอาจารย์และนิสิต นักศึกษา รวมถึงนักธุรกิจการค้าทั่วไปได้ติดตามทันความก้าวหน้าของโลก เพื่อจุดประกายให้อาจารย์ผู้สอนวิชาการตลาดทั่วประเทศได้มีโอกาสผลิตตำรา หนังสืออ่าน ประกอบการศึกษาที่เหมาะกับท้องถิ่น วัฒนธรรม และสภาพสังคมเพื่อเผยแพร่ต่อผู้ที่สนใจต่อไป