‘อีพีจี’ รับยอดขายปีนี้ต่ำเป้า

‘อีพีจี’ รับยอดขายปีนี้ต่ำเป้า

อีพีจีรับยอดขายปีนี้ "ต่ำเป้า" ลุ้นนโยบายทรัมป์หนุนธุรกิจโตเฉลี่ยเกิน15% เร่งคืนหนี้เงินกู้ต่อเนื่องลดภาระดอกเบี้ย

‘อีสเทิร์นโพลีเมอร์’ รับยอดขายปีนี้ต่ำกว่าเป้า จากปัจจัยลบทั้งในและต่างประเทศ เชื่อ 3 ปีจากนี้กลับมาโตเฉลี่ย 15% พร้อมลุ้นนโยบายทรัมป์ชัดเจนครึ่งแรกจะช่วยให้เติบโตสูงกว่าเป้า เหตุสหรัฐเป็นตลาดสำคัญ ตั้งงบลงทุน 100 ล้านบาท เพิ่มเครื่องจักรในธุรกิจแอร์โรเฟลกซ์ในสหรัฐ พร้อมเร่งคืนหนี้ลดภาระดอกเบี้ยจ่าย และความเสี่ยงจากดอกเบี้ยขาขึ้น

บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) EPG รายงานยอดขาย 9 เดือนแรก (สิ้นสุดเดือน ธ.ค. 2559) ที่ 7,075.8 ล้านบาท เติบโต 7.1% และมีกำไรสุทธิ 1,109.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1%

นายเฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) EPG เปิดเผยว่า ยอดขาย 9 เดือนแรกที่ออกมา ต่ำกว่าเป้าหมายประมาณ 300-400 ล้านบาท เป็นผลจากช่วงไว้อาลัยในประเทศเมื่อปลายปีที่ผ่านมา กระทบต่อยอดขายของธุรกิจอีพีพี ขณะที่การเลือกตั้งในสหรัฐก็ทำให้ลูกค้าชะลอการสั่งซื้อในธุรกิจแอร์โรเฟลกซ์เช่นกัน ขณะที่ธุรกิจแอร์โรคลาสยังถูกกดดันจากยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัว

แนวโน้มยอดขายในงวดปี 2560/2561 ซึ่งจะเริ่มในเดือน เม.ย. นี้ ตั้งเป้ายอดขายจะเติบโตเฉลี่ย 15% เป็นอย่างน้อย ไปอีก 3 ปี โดยจะเป็นการเติบโตในทุกธุรกิจ อย่างแอร์โรเฟลกซ์จะได้แรงหนุนจากการเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งในไทย และต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น เพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกส์ สหรัฐ ตามนโยบายของทรัมป์ ส่วนแอร์โรคลาส เชื่อว่าจะเริ่มฟื้นตัวกลับมาได้ตามอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ซบเซามา 4-5 ปี ซึ่งผลกระทบจากนโยบายรถคันแรกน่าจะหมดไปแล้ว ขณะที่ธุรกิจอีพีพี จะขยายผลิตภัณฑ์ใหม่ไปยังระดับกลาง-ล่างมากขึ้น ซึ่งมีตลอดรองรับในอาเซียน ถึงประมาณ 2-2.5 หมื่นล้านบาท

“การเติบโตในอนาคตหากทรัมป์เริ่มมีนโยบายออกมาเป็นรูปธรรมในช่วงครึ่งปีแรกนี้ อาทิ การลดภาษีนิติบุคคล การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และกระตุ้นเศรษฐกิจในสหรัฐ จะช่วยให้บริษัทได้รับประโยชน์ และอาจจะเติบโตมากกว่าเป้าที่วางไว้ 15% ได้ เพราะอย่างธุรกิจแอร์โรเฟลกซ์ ก็มีสัดส่วนยอดขายจากสหรัฐถึง 40%”

ทั้งนี้ บริษัทตั้งงบลงทุนในปีหน้าไว้ 500 ล้านบาท แบ่งเป็นการเพิ่มเครื่องจักรของธุรกิจแอร์โรเฟลกซ์ในสหรัฐ 100 ล้านบาท และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของธุรกิจแอร์โรคลาส 400 ล้านบาท

ขณะเดียวบริษัทพยายามลดต้นทุนทางการเงินควบคู่ไปด้วย 1 ปีที่ผ่านมา หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยลดลงจาก 2.31 พันล้านบาท เหลือ 1.64 พันล้านบาท ขณะที่ต้นทุนทางการเงินของบริษัทต่ำเพียง 2.8 เท่า และมีหนี้สินสุทธิต่อทุนเพียง 0.32 เท่า ทำให้บริษัทมีความสามารถในการกู้เพื่อขยายการลงทุนได้อีกมาก