MORNING CALL ACTION NOTES (23 ก.พ.60)

MORNING CALL ACTION NOTES (23 ก.พ.60)

Selective Buy

ดัชนีหุ้นไทยวานนี้รีบาวด์ขึ้นจากความคาดหวังมาตรการลดภาษีครั้งใหญ่ของปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ที่จะประกาศในช่วง 2 สัปดาห์หน้า ประกอบกับได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น ส่งผลให้ SET ปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,572.04 จุด (+7.62 จุด) Vol. 4.4 หมื่นลบ.โดย Foreign Net +900 ลบ. , TFEX Net -5,817 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+/- รายงานประชุม FOMC ชี้ FED เชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง และเห็นควรปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้

+ ตลาดหุ้น DJ ปรับตัวขึ้นจากความข่าวการควบรวมกิจการของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงยอดขายบ้านมือสองเดือนม.ค. +3.3%MoM สู่ระดับ 5.69 ล้านยูนิต สูงสุดในรอบ 10 ปี

+ ก.คลังเตรียมเสนอมาตรการภาษีการลงทุนในเขตศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เข้าครม.สัปดาห์หน้า จูงใจภาคเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้าลงทุน ดันไทยศูนย์กลางด้านขนส่งภูมิภาค

+/- Fund Flow ต่างชาติพลิกเป็น Net Buy 900 ลบ. แต่ตั้งแต่ต้นเดือนก.พ.เป็น Net Sell ราว 2.3 พันลบ.

- ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงล่าสุด 54 US/Barrel หลังคาดว่า EIA จะรายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะพุ่งขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล

- ยอดส่งออกรถยนต์ ม.ค. -14.53% YoY ที่ 80,097 คัน ต่ำสุดรอบ 19 เดือน

- ดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตฯ ม.ค.60 อยู่ที่ 87.2 ปรับตัวลดลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน จากความกังวลนโยบายการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ

** คาดวันประกาศงบ 23 ก.พ. BANPU CPALL BPP 24 ก.พ. CPF CENTEL CBG EA 27 ก.พ. BEAUTY STA TKN 28 ก.พ. CPN LH
** OPP DAY 23 ก.พ. EPG FSS AMATAV 24 ก.พ. AMATA ERW TACC SYNEX PLAT

ภาวะตลาดหุ้นไทยมีแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง ,รายงาน FOMC ชี้ว่าควรปรับดอกเบี้ยขึ้น รวมถึงความผันผวนของ Fund Flow ต่างชาติ อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีแรงหนุนจากการซื้อดักงบและปันผลปี 2559 ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,565 – 1,580 จุด

กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- TTA PSL ค่าระวางเรือ +28 จุด ล่าสุด 806 จุด

- TASCO ได้ประโยชน์จากราคายางมะตอย +3.5%MoM และ Demand ที่เพิ่มขึ้นเพื่อซ่อมแซมถนนหลังน้ำท่วมภาคใต้

- กลุ่มเหล็กคาดว่างบปี 59 จะเติบโตขึ้น รวมถึงราคาเหล็กรีดร้อนทรงตัวระดับสูงล่าสุด 614 US/Ton

- กลุ่มที่คาดว่ากำไรปี 2559 เติบโต BANPU WICE ORI BCH BEAUTY TPCH BPP


หุ้นแนะนำพิเศษ

- KTB (ราคาปิด 19.90 บาท ราคาเหมาะสม 20.60 บาท)

• คาดกำไรสุทธิปี 60 ราว 3.15 หมื่นลบ. +5% จากสินเชื่อที่ขยายตัวขึ้นตามทิศทางการลงทุนภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่

• Yield สูงสุดในกลุ่มแบงก์ขนาดใหญ่ คาดเงินปันผลปี 59 ที่ 0.80 บาทต่อหุ้น yield 4.4%

• ค่า P/E 8.6 เท่า และ P/BV 1 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคาร

หุ้นมีข่าว

- PTT Analyst meeting (ราคาปิด 406 Bloomberg Consensus 406)

• บริษัทคงเป้าเงินลงทุนในอีก 5 ปีข้างหน้าที่ 3.39 แสนล้านบาทโดยเน้นลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ท่าเรือก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) 2 ท่า และท่อก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 5 จากระยองไปอยุธยา มูลค่ารวมราว 1.86 แสนล้านบาท

• คาดท่ารับ LNG 1 เฟส 2 ซึ่งจะขยายท่ารับจาก 5 ล้านตันต่อปีสู่ 10 ล้านตันต่อปีจะเริ่มดำเนินงานได้ภายในครึ่งหลังปี 60 และคาดว่าในปี 62 จะขยายท่ารับเป็น 11.5 ล้านตันต่อปี พร้อมกันนี้เตรียมนำ PTTOR (ธุรกิจค้าปลีกและน้ำมัน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หากได้รับความเห็นชอบจาดผู้ถือหุ้นในเดือน เม.ย. นี้

• ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการปี 60 เนื่องจากธุรกิจก๊าซธรรมชาติของ PTT เนื่องจากกำไรจะเริ่มฟื้นตัวตามราคาก๊าซธรรมชาติในปี 60 อีกทั้งโรงแยกก๊าซฯได้รับผลบวกจากราคาผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์ที่ปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตามผลประกอบการถูกกดดันจากธุรกิจโรงกลั่นที่คาดว่ากำไรสต๊อกน้ำมันดิบจะลดลง

- SCN (ราคาปิด 8.45 ซื้อ ราคาเหมาะสม 9.90) ตั้งเป้าปี 2560 เติบโต 40% ธุรกิจค้าปลีกก๊าซธรรมชาติ และธุรกิจก๊าซธรรมชาติสำหรับอุตสาหกรรมหนุน พร้อมทุ่มงบลงทุนกว่า 1,350 ล้านบาท ซื้อกิจการขยายปั๊ม NGV คาดสิ้นปีไม่ต่ำกว่า 16 สถานี ขณะที่เตรียมนำบริษัทลูกเข้าตลาด (ที่มาทันหุ้น)

- SC (ราคาปิด 3.70 บาท ถือ ราคาเหมาะสม 4 บาท) แจ้งกำไรปี 59 เท่ากับ 1,968 ลบ. +4% ต่ำกว่าคาด 4% โดยมีรายการพิเศษที่เป็นกำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมในอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน 39 ล้านบาท บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.19 บาท yield 5.1% XD 28 เม.ย. เบื้องต้นฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปี 60 ตามเดิมที่ราว 1,936 ล้านบาทลดลง 2%

- BEM (ราคาปิด 7.15 “ถือ” ราคาเหมาะสม 7.40) รายงานกำไรปี 59 ที่ 2.61 พันลบ. หดตัวเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนเนื่องจากปี 58 มีกำไรจากการขายเงินลงทุนราว 1 พันล้านบาท แต่ในปี 59 ไม่มีรายการดังกล่าวโดยหากไม่รวมรายการดังกล่าวกำไรปกติจะเติบโตราว 55% เนื่องจากมีการเปิดทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก และการเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงซึ่งส่งผลให้ผู้ใช้ทางด่วนและผู้โดยสารเพิ่มขึ้น

- MONO (ราคาปิด 3.86 Bloomberg Consensus 3.80) จะเพิ่มทุน 334 ล้านหุ้น ขาย PP รองรับลงทุนธุรกิจต่อเนื่องทีวีดิจิตอล-เสริมสภาพคล่อง

- AOT (ราคาปิด 39.75 Bloomberg Consensus 42.42) มั่นใจไม่ต้องจ่ายย้อนหลังกรมธนารักษ์ 2 หมื่นล้านบาท เหตุสัญญาใช้ประโยชน์ที่ดินล็อกไว้แล้วว่าปรับได้เฉพาะผลตอบแทนส่วนแบ่งรายได้ ไม่เกี่ยว ROA คาดได้ข้อยุติภายใน 3 เดือนนี้ ฟากบอร์ดเห็นชอบแผนแม่บทพัฒนา 6 สนามบิน ระยะ 10 ปี วงเงินรวม 2.2 แสนล้านบาท (ข่าวหุ้น)

- COM7 (ราคาปิด 12.00 Bloomberg Consensus 14.60) รายงานกำไรปี 59 ที่ 406.55 ลบ. เติบโต 51%YoY พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผล 0.25 บาทขึ้นเครื่องหมายวันที่ 25 เม.ย.

- TPIPL เผย TPIPP มีแผนเสนอขายหุ้น IPO และเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯใน เม.ย.60

- HOTPOT เพิ่มทุน General Mandate 81.20 ล้านหุ้น ขาย RO-PP,ออกหุ้นกู้ 500 ลบ.-ขยายวงเงิน B/E

- บอร์ด EVER มีมติเข้าลงทุนโรงพยาบาล"โคราชเมดิคัล"เพิ่มเป็น 83.90%อัพยอดรายได้- เพิ่ม EARNED INCOME บาลานซ์พอร์ตธุรกิจ

- K ได้งานตกแต่งและก่อสร้างโครงการอนุรักษ์และพัฒนาตึกแถวชุมชนเลื่อนฤทธิ์ 172 ลบ.


ตลาดหุ้นดาวโจนส์ +32.60 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,775.60 จุด เพิ่มขึ้น 32.60 จุด หรือ +0.16% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,860.63 จุด ลดลง 5.32 จุด หรือ -0.09% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,362.82 จุด ลดลง 2.56 จุด หรือ -0.11% เพราะได้แรงหนุนจากข่าวการควบรวมกิจการของบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเป็นไปได้ที่จะมีการควบรวมกิจการระหว่างบริษัทดูปองท์ และดาว เคมิคอล อย่างไรก็ตาม แรงบวกของดัชนีดาวโจนส์ถูกสกัดลงในระหว่างวัน หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดเห็นพ้องว่าควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้

ตลาดน้ำมัน NYMEX -0.74 USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 74 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 53.59 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบในวันนี้