‘โมโน’ ปันผล สวนทางขาดทุนสะสม

บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) MONO ประกาศงบปี 2559 ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีผลขาดทุน 249.55 ล้านบาท ขาดทุนลดลง48.71% จากปี 2558 ที่มีผลขาดทุน 486.57 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการให้บริการสื่อโฆษณา 1,085.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.18% จากปีก่อนตามการเติบโตรายได้ธุรกิจทีวีดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น สะท้อนเรทติ้งที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ด้วยผลขาดทุนที่เกิดขึ้นเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันนี้ ส่งผลให้บริษัทมีผลขาดทุนสะสมมากขึ้นเป็น 795.59 ล้านบาท จากปีก่อนที่ 539.64 ล้านบาท แต่เมื่อพิจารณาจากงบการเงินเฉพาะกิจการ บริษัทยังคงมีกำไรสุทธิ 259.48 ล้านบาท ส่งผลให้คณะกรรมการของบริษัทมีมติอนุมัติให้มีการจ่ายปันผลได้ในอัตรา 0.03 บาทต่อหุ้น คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 100.32 ล้านบาท คิดเป็นเงินปันผลต่ออัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 38.66% โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล ในวันที่ 8 มี.ค. 2560

นอกจากนี้ คณะกรรมการยังมีมติอนุมัติให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาเพิ่มทุนจดทะเบียน 33.4 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 486.29 ล้านบาท เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด โดยจะกำหนดราคาเสนอขายไม่ต่ำกว่า 90% ของราคาตลาดถัวเฉลี่ย

แพรธิดา กาฐจนาเวส นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า เงินปันผลที่จ่ายออกมานี้นำมาจากงบเฉพาะกิจการที่ยังมีกระแสเงินสดเข้ามาอยู่ แม้งบการเงินรวมจะยังขาดทุน แต่เชื่อว่าไม่น่าจะกระทบต่อสภาพคล่องของบริษัทเท่าใดนัก เพราะในปีนี้ผลประกอบการจะเทิร์นอะราวด์กลับมามีกำไรสุทธิกว่า 100 ล้านบาท และการลงทุนสำหรับคอนเทนท์อาจจะลดลงไปได้ เนื่องจาก 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทลงทุนไปมาก และมีภาพยนตร์ในมือ 2 พันเรื่อง จึงอาจจะลงทุนเพิ่มเติมเพื่อรักษาคุณภาพ

ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีความสามารถในการกู้อยู่ โดยปัจจุบันมีหนี้สินต่อทุนราว 1.27 เท่า และล่าสุดบริษัทมีมติขออนุมัติเพิ่มทุนจำนวน 334 ล้านหุ้น คงต้องติดตามว่าจะกำหนดราคาขายเท่าใด และจะได้รับเงินเพิ่มทุนเข้ามาเท่าใด แต่ในเชิงของการลงทุนนั้น มองว่าราคาหุ้นปัจจุบันเหลืออัพไซด์จำกัดไม่ถึง 15%

 บล.เออีซี ระบุว่า ช่วงไตรมาส 4/2559 โมโน เทคโนโลยี มีผลประกอบการพลิกเป็นขาดทุน 193 ล้านบาท จากกำไร 10 ล้านบาท ในช่วงไตรมาส 3/2559 เป็นผลจากรายได้รวมที่ลดลง 34.6% หลังได้ผลกระทบจากช่วงไว้อาลัย และกดดันให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 27.3% เหลือ 0.1% เพราะธุรกิจทีวีมีต้นทุนคงที่สูง

แต่ด้วยการมีเนื้อหารายการทำให้ช่องโมโน29 เริ่มติดตลาด ทำให้ปรับสมมติฐานอัตราโฆษณาปี 2560 เพิ่มจากเดิม 2.7 หมื่นบาทต่อนาที เป็น 3 หมื่นบาทต่อนาที ส่งผลให้ประมาณการกำไรปี 2560 เพิ่มขึ้นจากเดิม 33% และมีกำไรสุทธิ 327 ล้านบาท

ส่วน บล.บัวหลวง มองว่า โมโนมีโอกาสที่จะพลิกกลับมาเป็นกำไร ตั้งแต่ไตรมาส 1/2560 หลังการใช้จ่ายค่าโฆษณาดิจิทัลทีวีที่ดีขึ้น ในเดือน ธ.ค. และ ม.ค. นอกจากนั้น เรตติ้งช่องยังเพิ่มขึ้นเป็น 0.72 ในเดือน ม.ค. สร้างสถิติใหม่ ปรับตัวขึ้นราว 93% จาก ธ.ค. ปี 2558 ประมาณกำไรหลักเบื้องต้นที่ 20 ล้านบาท

ขณะที่ผู้ถือหุ้นก็รับผลบวกกันไป โดยเฉพาะ พิชญ์ โพธารามิก ซึ่งถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 71.35% คิดเป็นมูลค่าเงินปันผลที่จะได้รับประมาณ 67.44 ล้านบาท