'ทิปโก้' ยกเลิกร่วมทุนซันโตรี่

ทิปโก้ฟู้ดเผยบอร์ดมีมติยกเลิกการร่วมทุน “ซันโตรี่” พร้อมรับซื้อหุ้นคืนทั้งหมด จากที่เคยถือฝ่ายละ 50% ด้าน“เอ็มดี”ตั้งเป้าปั้นแบรนด์ทิปโก้สู่โกลบอลแบรนด์ใน3ปี คาดทำรายการเสร็จเดือนมี.ค.2560 แจงกำไรปี2559ทรุด31.5%โบรกเกอร์คาดแผนร่วมทุนซันโตรี่ไม่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม

นายเอกพล พงศ์สถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิปโก้ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) TIPCO เปิดเผยว่า บริษัทได้ยกเลิกการร่วมทุนกับบริษัท ซันโตรี่ จำกัด ใน บริษัท ทิปโก้ เอฟแอนด์บี จำกัด ที่บริษัทถือหุ้นฝ่ายละ 50%เท่ากัน ซึ่งเดิมเป็นบริษัทที่วางแผนร่วมกันจะรุกตลาดต่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน

พร้อมกันนี้ได้เข้าไปซื้อหุ้นคืน 50%ในบริษัทลูกดังกล่าว เพื่อถือหุ้น 100%เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจในอนาคต ที่บริษัทต้องการปลุกปั้นแบรนด์ทิปโก้ ให้เป็นโกลบอลแบรนด์ภายใน 3 ปี

ทั้งนี้ แผนธุรกิจ 3 ปีข้างหน้า จะให้น้ำหนักกับการผลักดันสินค้าผลไม้กระป๋อง และน้ำผลไม้แบรนด์ทิปโก้ สู่ตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยการจะเป็นโกลบอลแบรนด์บริษัทได้ตั้งเป้าหมายขยายตลาดผลไม้กระป๋องเจาะ 70 ประเทศทั่วโลก จากปัจจุบันอยู่ที่ 50 ประเทศ และน้ำผลไม้เพิ่มเป็น 50 ประเทศทั่วโลก จากปัจจุบันอยู่ที่ 30 ประเทศทั่วโลก แผนดังกล่าวจะช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างต่างประเทศให้เป็น 55%จากปัจจุบันสัดส่วนส่งออกและการทำตลาดต่างประเทศอยู่ที่ 50%

ภาพรวมตลาดน้ำผลไม้ในไทยมีมูลค่าประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะเติบโต 4-5% ระดับเดียวกับปีก่อน โดยตลาดแบ่งเป็นระดับพรีเมียม 4,500 ล้านบาท ตลาดระดับกลางประมาณ 2,000 ล้านบาท และตลาดล่างซึ่งใหญ่สุด มูลค่าประมาณ 7,000-8,000 ล้านบาท โดยทิปโก้ยังคงเป็นเบอร์ 1 โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดรวม 13% และเฉพาะตลาดน้ำผลไม้พรีเมียมมีส่วนแบ่งตลาด 40% นอกจากนี้ ปีนี้บริษัทมีแผนขยายธุรกิจรีเทล คือร้านน้ำผลไม้สควีซ จูซ บาร์ 20 สาขา ในรูปแบบแฟรนไชส์ จากปัจจุบันมี 50 สาขา

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์ระบุว่า บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) TIPCO รายงานผลประกอบการปี 2559 บริษัทมีกำไรสุทธิ 813.63 ล้านบาทลดลง 31.5%จากปี 2558 ที่มีกำไร 1,188.46 ล้านบาท และกรรมการบริษัทมีมติยกเลิกการร่วมทุนกับบริษัท ซันโตรี่ จำกัด เนื่องจากมีการปรับแผนธุรกิจ คาดว่าจะทำรายการเสร็จเดือนมี.ค.2560

อนึ่ง บริษัททิปโก้เบฟเวอเรจ ได้เคยขายหุ้น บริษัททิปโก้ เอฟแอนด์บี ให้กับ บริษัทซันโตรี่ 30 ล้านหุ้นคิดเป็น 50%ราคาหุ้นละ 33.3 บาท มูลค่ารวม 999 ล้านบาท

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า การยกเลิกแผนร่วมทุนยาวนาน น่าจะเกิดจากไม่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มระหว่างกันได้