ไอพีจีเสริมแกร่ง‘เอ็นเซ็มเบิล’สื่อสารครบวงจร

ไอพีจีเสริมแกร่ง‘เอ็นเซ็มเบิล’สื่อสารครบวงจร

ไอพีจีฯ หนุน ‘เอ็นเซ็มเบิล’ รุกตลาด Creative Content Agency ชูข้อมูลเชิงลึก สร้างคอนเทนท์ต่างรองรับลูกค้าสื่อสารครบวงจร “ออฟไลน์-ออนไลน์”

ธราภุช จารุวัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้มีการเสริมความแข็งแกร่งทางด้านธุรกิจด้วยการปรับทีม เอ็นเซ็มเบิล (Ensemble) ที่ปัจจุบันเป็นผู้ดำเนินธุรกิจทางด้านการเป็น Creative Content Agency ที่มีผลงานในการสร้างสรรค์ไวรัลคลิป และการผลิตรายการโทรทัศน์โดยได้ผนึกกำลังกับทีมดอท ดิจิตอล (Dot Digital) ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และการใช้เครื่องมือต่าง ๆ ในธุรกิจออนไลน์

            รวมทั้งได้รับการสนับสนุนทางด้านข้อมูล และพฤติกรรมเชิงลึกของผู้บริโภคจากทีมวางแผนกลยุทธ์ และนวัตกรรม (Strategy & Innovation) ซึ่งจะทำให้เอ็นเซ็มเบิล เป็น Creative Content Agency ที่มีประสิทธิภาพ และโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ทั้งยังจะเป็น Creative Content Agency รายแรกในประเทศไทยที่มีการผสานการใช้ Big Data, Insight และความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับแบรนด์

            ทั้งนี้การปรับทีมงานครั้งนี้ยังจะส่งผลให้ ไอพีจีฯ สามารถเสริมการให้บริการใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการหาลูกค้าใหม่ที่กำลังมองหามีเดียเอเยนซี่ซึ่งสามารถให้บริการได้อย่างครบวงจรทั้งด้านออฟไลน์ และออนไลน์ที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน

            “ธุรกิจมีเดียเอเยนซี่ต้องมีการปรับตัวไปตามสื่อที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งในปัจจุบันจะเห็นว่า การขยายตัวของสื่อใหม่ ๆ มีมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทีวีดิจิทัลหรือกลุ่มสื่อออนไลน์ทั้งหลาย จึงจำเป็นที่ ไอพีจีฯ ต้องเพิ่มการบริการและปรับตัวให้เท่าทันสื่อใหม่ๆ หรือก้าวล้ำไปข้างหน้า เพราะปัจจุบันลูกค้าต้องการมีเดียเอเยนซี่ที่เป็นพันธมิตรหรือคู่คิดทางธุรกิจมากกว่าที่จะเป็นเพียงแค่การซื้อมีเดียแบบเดิม ๆ อีกต่อไป”

            ดิว อินทปัญญา กรรมการผู้จัดการ เอ็นเซ็มเบิล กล่าวว่า เอ็นเซ็มเบิลจะไม่เน้นแค่การเป็นผู้ผลิตคอนเทนท์หรือเนื้อหาที่มีความคิดสร้างสรรค์เพียงด้านเดียวเท่านั้น แต่ยังจะมีการมุ่งเน้นการผลิตคอนเทนท์ที่เกิดจาก Insight หรือมีการผลิตเนื้อหาที่เกิดขึ้นจากความเข้าใจในความต้องการ และพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้งเพื่อให้คอนเทนท์นั้น ๆ สามารถที่จะตอบสนองถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในยุคโซเชียลที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา ได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังตอบโจทย์ทางธุรกิจของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้นซึ่งคอนเทนท์นั้นอาจเป็นได้ทั้งภาพยนตร์โฆษณา กิจกรรมส่งเสริมการขาย การประชาสัมพันธ์ หรือสื่อดิจิทัล ซึ่งขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมายและโจทย์ทางธุรกิจของแต่ละแบรนด์    

            ที่ผ่านมา เอ็นเซ็มเบิล ได้ดำเนินการผลิตคอนเทนท์ออกมาตอบสนองตลาด และได้รับการเป็นที่ยอมรับเป็นอย่างดี อาทิ รายการ แดนซ์ ยัวร์ แฟต ออฟ (Dance YourFat Off) เสียงลับจับไมค์ (Hidden Singer) ทีมนี้พี่รัก (Unseen Football) ลาแบนด้า ไทยแลนด์ (Labanda Thailand) เป็นต้น และกำลังมีแผนจะผลิตรายการใหม่ ๆ เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง

            พร้อมกันนี้ยังได้มีการผนึกกำลังกับ ดอท ดิจิตอล (Dot Digital) ที่มี ราชศักดิ์ อัศวศุภชัย กรรมการผู้จัดการ เป็นผู้ดูแล ซึ่งเป็นทีมที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการวางแผน  และการใช้เครื่องมือในการวางกลยุทธ์ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ทางด้านสื่อออนไลน์ที่กำลังเติบโตอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้ เอ็นเซ็มเบิล มีความแข็งแกร่ง และมีประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจทางด้านการบริการทั้งสื่อออฟไลน์ และสื่อออนไลน์มากยิ่งขึ้น

            นอกจากนี้เพื่อเติมเต็มในความเป็นครีเอทีฟ คอนเทนท์ เอเยนซี่ ที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น  โดยมี สร เกียรติคณารัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มวางแผนกลยุทธ์ และนวัตกรรม(Strategy & Innovation) จะเข้ามาช่วยเป็นที่ปรึกษาในเรื่องของกลยุทธ์ และรูปแบบเนื้อหาของคอนเทนท์ เพื่อสนับสนุนให้ทีมงานเอ็นเซ็มเบิลสามารถผลิตคอนเทนท์ที่เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น พร้อมนำศาสตร์ของ Contentology (Content+Psychology) ที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ IPG ซึ่งเป็นการนำเอาความเข้าใจทางจิตวิทยาผสานกับ Big Data เพื่อสร้างงานที่ได้ผลสูงสุดให้กับแบรนด์

            “ปัจจุบันผู้บริโภคมีพฤติกรรมที่หลากหลาย และมีกระแสในการดำรงชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังมีการเสพสื่อในหลากหลายช่องทาง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการศึกษาข้อมูล และวิเคราะห์ในความต้องการของกลุ่มเป้าหมายอย่างใกล้ชิดเจาะลึกถึงผลกระทบทางจิตวิทยาและความรู้สึก ซึ่งทีมงานจะเข้ามาร่วมช่วยให้คำแนะนำ และร่วมวางกลยุทธ์เพื่อให้คอนเทนท์หรือเนื้อหาที่ได้มีประสิทธิผลในการเข้าถึงผู้บริโภคมากที่สุด”