พ่อสามีสาววัย17ทำแท้ง หอบหลักฐานให้ตำรวจ

พ่อสามีสาววัย17ทำแท้ง หอบหลักฐานให้ตำรวจ

พ่อสามีสาววัย17ทำแท้งหอบหลักฐานวงจรปิด-แชทไลน์ให้ปากคำตำรวจเพิ่ม ยันดูแลอย่างดีแต่สะใภ้โกหก

พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยความคืบหน้ากรณีคลิป น.ส.บี(นามสมมติ) อายาุ 17 ปี หญิงสาวนำเด็กทารกไปทิ้งถังขยะหน้าอาคาร 25 โครงการเอื้ออาทรปัญญารามอินทรา ถ.ปัญญารามอินทรา แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. โดยหลังจากนั้นไปรักษาตัวอาการตกเลือดที่โรงพยาบาล ว่าเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ทั้งก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ โดยได้เรียกเพื่อนเจ้าของห้องพักที่น.ส.บีไปพักอาศัยมาสอบปากคำแล้ว ขณะนี้ทราบว่าคนเจ็บจะออกจากโรงพยาบาลวันนี้ (22 ก.พ.) จึงอยู่ระหว่างการพิจารณาแจ้งข้อหา ซึ่งน.ส.บียังเป็นเยาวชนอยู่ เจ้าหน้าที่จะต้องพิจารณาว่าน.ส.บี พร้อมจะมอบตัวหรือไม่

ในเบื้องต้นได้ประสานกับมารดาน.ส.บี คาดว่าช่วงบ่ายจะเดินทางเข้ามาให้ปากคำพร้อมมารดา ทั้งนี้การสอบปากคำจะต้องประสานสหวิชาชีพมาร่วมสอบปากคำประกอบด้วยพนักงานอัยการ นักสังคมสงเคราะห์ บุคคลที่เด็กร้องขอ(พ่อแม่) และนักกฎหมายด้วย แต่หากทางน.ส.บียังไม่พร้อมเข้าให้ปากคำก็ยังไม่สามารถแจ้งข้อหาได้ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำเจ้าของห้องพักที่มาพบน.ส.บีป่วยอยู่ รวมทั้งบิดาของสามีน.ส.บี และพยานแวดล้อม รวม 4-5 ปาก

พ.ต.อ.สิงห์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ต้องรอผลตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์จากสถาบันนิติเวชรพ.ตำรวจ ว่า เด็กทารกที่คลอดออกมาเสียชีวิตขณะอยู่ในครรภ์ หรือคลอดออกมาแล้วยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งเป็นประเด็นในการพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม โดยเบื้องต้นจากพยานหลักฐานที่รวบรวมเชื่อได้ว่า ทำให้ตัวเองนั้นแท้งลูก โดยเบื้องต้นจะแจ้งข้อหาตาม มาตรา 301 ทำแท้งลูก มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับ 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่หากทางนิติเวชพิสูจน์ได้ว่าเด็กตายนอกครรภ์ข้อหาก็จะหนักขึ้น คือฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และอำพรางซ่อนเร้นศพ ซึ่งต้องรอผลการชันสูตรศพก่อน

ขณะเดียวกันทางบิดาของสามีน.ส.บี ได้เดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยได้นำหลักฐาน เป็นคลิปจากกล้องวงจรปิด ข้อความสนทนาทางแอพลิเคชั่นไลน์ ฯลฯ เข้ามามอบให้กับเจ้าหน้าที่ โดยบิดาของสามีน.ส.บี ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวพร้อมเล่าเหตุการณ์ว่า ตนทราบเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เวลา 16.00 น. แต่มารู้ว่าน.ส.บี ได้สอดยาไปตั้งแต่วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ ก่อนนำเด็กทารกมาทิ้งไว้ ตนดูแลน.ส.บีอย่างดี มีข้อความการสนทนาทางไลน์ ทั้งคุยกันเรื่องลูกชาย พาไปทำบุญ ส่งเงินให้ ซึ่งตนก็เป็นห่วงน.ส.บีมาโดยตลอด แต่น.ส.บีโกหกอยู่เรื่อยมา

“เรารับไม่ได้ที่ลูกชายยอมที่จะเสียอนาคต เพราะใกล้จะรับปริญญาอยู่แล้ว แต่ยอมติดคุกเรื่องคดียาเสพติด เพราะมีลูกคนแรก” บิดาของสามีน.ส.บี กล่าวน้ำตาคลอ

บิดาของสามีน.ส.บี กล่าวต่อว่า ตนรู้ว่าน.ส.บีท้อง ได้ 6 เดือนตอนลูกชายอยู่ในคุก ไม่อยากจะเป็นคนแจ้งความเอาผิด เพราะห่วงความรู้สึกลูกชาย เพราะรู้ว่าเขารักภรรยายาของเขามาก จึงปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย อยากฝากเป็นอุทาหรณ์เรื่องการทำแท้ง การหาซื้อยาทำแท้งผ่านอินเตอร์เน็ตได้ง่าย การท้องก่อนวัยอันควร ยาเสพติด ขณะนี้ตนยังไม่ได้บอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับลูกชาย เพราะเขายังมีความหวังที่จะได้ออกมาเลี้ยงลูก มาดูแลพ่อและน.ส.บี ตอนนี้ท้อไปหมดแล้ว ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับคนอื่น