ส่องโมเดลเอสเอ็มอียุคดิจิทัล ‘เจคิวปูม้านึ่ง-โพเมโล’

ส่องโมเดลเอสเอ็มอียุคดิจิทัล ‘เจคิวปูม้านึ่ง-โพเมโล’

"ต้องดีตั้งแต่งานหลังบ้าน ตอบสนองลูกค้าให้ได้เร็วที่สุด อย่างเฟซบุ๊คถ้าช้าเกินกว่า 2 นาทีลูกค้าจะคิดว่าไม่ใส่ใจ"

หากพูดถึงผู้ประกอบการเอสเอ็มอีดาวรุ่งที่ธุรกิจเติบโต สร้างยอดขายเป็นกอบเป็นกำ ยุคโซเชียลบูม ไม่มีใครไม่รู้จัก “เจคิว ปูม้านึ่ง เดลิเวอรี่” และ “โพเมโล แฟชั่น” (POMELO)

ในงานสัมมนาหัวข้อ “Payment Gateway Ecosystem” ทางเลือกหรือทางรอดเอสเอ็มอีไทย จัดโดยธนาคารไทยพาณิชย์และเพย์พาลประเทศไทย “นางสุรีรัตน์ ศรีพรหมคำ” เจ้าของธุรกิจอาหารทะเลสดพร้อมส่ง “เจคิว ปูม้านึ่ง เดลิเวอรี่” เล่าว่า จุดเริ่มต้นธุรกิจเกิดจากการทำธุรกิจค้าส่งอาหารทะเลถูกยกเลิก ทำให้วัตถุดิบเหลือและจำต้องนึ่งรับประทานเอง แจกเพื่อน และมีคนมาขอซื้อจึงคิดว่าน่าจะขายได้ แต่ ณ ขณะนี้ต้นทุนส่วนตัวยังน้อยเพียง3 หมื่นบาท ทั้งมีงานประจำทำให้ไม่สามารถเปิดร้านได้

ดังนั้น ระยะแรกเริ่มจากการตลาดแบบออฟไลน์ เช่น แจกใบปลิวตามรถไฟฟ้า จากนั้นพัฒนาไปสู่การตลาดออนไลน์ด้วยเฟซบุ๊คส่วนตัวมาตั้งแต่ปี 2555 ที่ยังไม่มีโฆษณาบนเฟซ บุ๊ค ใช้กลยุทธ์แบบ “หนีตาย” และเรียนรู้จากผู้ค้ารายอื่นๆ ที่มีการแจกไอโฟน

ทว่าเจคิวไม่มีเงินมากขนาดนั้น จึงอาศัยอิงไปกับสินค้าที่อยู่ในกระแสอย่างเฟอร์บี้ ผลที่ได้ คือ มีการกดไลค์และแชร์จำนวนมาก และได้รับความสนใจอย่างมากจากสื่อมวลชน

หลังจากนั้น เริ่มเป็นที่รู้จักได้ออกรายการโทรทัศน์และสิ่งที่ต้องเตรียมตัวคือ หากทราบว่าจะได้ออกรายการเมื่อใดต้องเตรียมความพร้อมก่อนหน้านั้น ไม่ใช่ถึงเวลาเปิดร้านแล้วค่อยเริ่มทำงาน ต้องสามารถรับคำสั่งซื้อได้ตลอดเวลา ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 19 สาขา พนักงาน 100 คน

ด้านคอลล์เซ็นเตอร์เพื่อรับสายลูกค้า ได้นำไอทีมช่วยบริหารจัดการ ใช้รูปแบบ “คลาวด์ คอลล์เซ็นเตอร์” ที่ราคาไม่แพงมาก สามารถรับสายได้พร้อมกัน 11 คู่สาย ด้วยวิธีนี้จะอยู่ที่ไหนของไทยก็ได้ และที่สำคัญต้องรู้จักปรับตัว ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม อะไรที่เข้ามาก็กล้าที่จะทดลองใช้ ไม่ยึดติดกับการทำธุรกิจแบบเดิมๆ


อดทน-รักษาคุณภาพ
นางสุรีรัตน์ บอกว่า กลยุทธ์ที่สำคัญต้องรักษาความอร่อย และคุณภาพสินค้า เรื่องนี้ส่วนใหญ่ทำกันไม่ได้ ไม่ค่อยอดทนที่จะรอความสำเร็จ ซึ่งก่อนหน้านี้เจคิวเคยผิดพลาดมาก่อน ด้วยการบริหารจัดการวัตถุดิบออย่างอาหารสดต้องทำให้ได้ภายใน 48 ชั่วโมง

"ระยะแรกเคยสต็อกสินค้าไว้เกิน แจกแล้วก็ยังเหลืออีกเป็น 100 กิโลกรัม ก็ต้องตัดสินใจทิ้งไปเพื่อรักษาคุณภาพที่ดีไว้"

ส่วนการชำระเงินช่วงแรกมีปัญหาเช่นกัน เพราะใช้วิธีการเก็บเงินปลายทางเมื่อยอดเงินจำนวนมาก เคยมีครั้งที่วินมอเตอร์ไซค์ไม่นำมาส่งให้ เรื่องนี้แก้ปัญหาโดยถามไปตรงๆ ว่า “จะคืนดีๆ หรือให้ไปกระทืบ” สุดท้ายวินก็ยอมคืนเงินมาให้ ต่อมาป้องกันโดยหากยอดการสั่งซื้อสูงๆ ก็จะเลือกคนที่ไว้ใจได้ มาทุกวันนี้มีครบทุกช่องทางทั้งโอนเงิน บัตรเครดิต และสามารถผ่อนชำระได้หากยอดถึง 3,000 บาท โดยรวมผู้บริโภคไม่ชอบอะไรที่ยุ่งยาก ที่สำคัญต้องเชื่อถือได้ หากค่าธรรมเนียมถูกลงยิ่งทำให้การค้าขายสะดวกสบายมากขึ้น

ช่องทางการจ่ายเงินยอดนิยม ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา หากเป็นต้นเดือนลูกค้ามักนิยมจ่ายโดยเงินสด หากปลายเดือนมักเป็นบัตรเครดิต ส่วนการที่มีทางเลือกให้ผ่อนชำระช่วยให้โอกาสทำแคมเปญการตลาดเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น บางรายที่สั่งไม่ถึงก็จะสั่งให้ถึง 3,000 บาท

พร้อมระบุว่า สิ่งที่ทำให้เจคิวปูม้านิ่งแตกต่างและเป็นกุญแจที่ผลักดันให้ประสบความสำเร็จมาจากความสดของวัตถุดิบ มีการควบคุมคุณภาพมาตั้งแต่ต้นทาง หลายคนอาจคิดว่าธุรกิจออนไลน์นั้นง่าย แต่จริงๆ ต้องอาศัยความใส่ใจในทุกกระบวนการ

เจคิวไม่ได้คิดเพียงว่าเป็นผู้ขายปูม้านึ่งส่งถึงบ้าน แต่เป็นครัวที่ 2 ของลูกค้า ต้องมีการพัฒนาตัวเองตลอดเวลา น้ำจิ้มซีฟู้ดทำมาจากครัวกลาง การันตีได้ว่าไม่ว่าสั่งจากสาขาใดรสจะไม่แตกต่าง ขณะนี้เตรียมขออย.เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่น ทั้งมีการตรวจสุขภาพพร้อมส่งแม่ครัวไปอบรมเพื่อเสริมความรู้

โดยสรุป ต้องดีตั้งแต่งานหลังบ้าน ตอบสนองลูกค้าให้ได้เร็วที่สุด อย่างเฟซบุ๊คถ้าช้าเกินกว่า 2 นาทีลูกค้าจะคิดว่าไม่ใส่ใจ บางช่วงสินค้าขึ้นราคาก็ไม่ขึ้นทันทีรอให้ตึงจริงๆก่อน

นอกจากนี้ หลังจัดส่งไปแล้ว ได้แชทหรือโทรไปสอบถามความคิดเห็นเพื่อนำมาปรับปรุงคุณภาพสินค้า บริการ ความพอใจ ทำให้สามารถปรับตัว ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้ตรงกับความต้องการลูกค้าได้แบบเรียลไทม์

“ลูกค้าพร้อมจะเปลี่ยนใจได้ตลอดเวลา ดังนั้นอะไรที่คิดว่าดีกับลูกค้า ดีกับธุรกิจเราก็พร้อมที่จะทำ การทำธุรกิจอของเราจะทำแบบถูกต้องทุกอย่าง ยิ่งวันนี้มีเป้าหมายเข้าตลาดยิ่งทำให้ชัดเจนมากขึ้น”

ปัจจุบันธุรกิจของเจคิวมีแนวโน้มเติบโตได้แบบก้าวกระโดด ปี 2561 ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

พร้อมระบุว่า เป็นเวลาที่เหมาะที่สุดที่เอสเอ็มอีไทยจะเติบโต ด้วยโอกาสที่เข้ามาในทุกช่องทาง ทั้งสื่อโซเชียลมีเดีย คอนเทนท์ที่ราคาไม่แพง โลจิสติกส์ที่เริ่มพร้อม ที่เหลือคือสร้างแบรนด์ สร้างความแตกต่าง และพัฒนาบริการให้ดี

สบช่องออนไลน์บูม
ขณะที่ “นางสาวนภัสกร วิบูลย์ศรีสัจจะ” รองประธานด้านการตลาด โพเมโล แฟชั่น กล่าวว่า จุดเริ่มต้นมาจากได้ทำงานคลุกคลีในแวดวงไอที ทั้งกับ เฟซบุ๊ค กูเกิล จึงเห็นถึงโอกาสของตลาดของไทยที่คนเริ่มหันมาช้อปปิ้งออนไลน์กันมากขึ้น และโพเมโลน่าจะเข้าไปตอบโจทย์ได้

ทั้งนี้ ระยะแรกเน้นแค่ช่องทางเฟซบุ๊คอย่างเดียว มองว่าถ้าสวย รูปแบบดี โมเดลดี คนจะสนใจ จากนั้นการประชาสัมพันธ์ก็จะง่าย ทั้งสามารถประเมินได้ตลอดเวลาว่าสต็อคมีอยู่เท่าใด เป็นช่องทางที่ขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ปัจจุบัน มีฐานตลาดที่ไทย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และในแผนเตรียมขยาย 1 ประเทศทุกปี ที่ผ่านมาประเทศไทยมีความยากมากที่สุด คู่แข่งจำนวนมาก ราคาหลากหลาย ต้องเน้นบริการลูกค้าที่มากกว่า โต้ตอบกับลูกค้ามากกว่า

คนไทยชอบการพูดคุย บางครั้ง ราคา ไซส์ ระบุแล้วชัดเจนแต่ชอบที่เข้ามาถาม เรื่องนี้อย่าไปมองว่า ระบุไปแล้วไม่จำเป็นต้องตอบ และต้องตอบให้เร็ว หากทำได้โอกาสปิดการขายจะสูงมาก ถ้าช้าไปแค่ 24 ชั่วโมง มีโอกาสที่ลูกค้าหายไปได้ 30%

นอกจากนี้ โพเมโลสร้างจุดต่างด้วยนโยบายการคืนสินค้าที่จะสร้างความพอใจให้ได้มากที่สุด เช่น ไม่ตัดป้าย ไม่ได้ใส่สามารถคืนได้ภายใน 1 ปี แต่ทั้งนี้บางครั้งถึงจะทราบว่ามีการใส่มาแล้ว มีรอยเลอะก็ต้องทำเป็นปิดตาข้างหนึ่ง คือทำให้ลูกค้าสบายใจ ที่ผ่านมาการคืนสินค้าคิดเป็นแค่ตัวเลขหลักเดียวเท่านั้น คนที่ไม่ชอบก็มักคืนภายใน 7 วันหรือครึ่งเดือน

อย่างไรก็ดี การจ่ายเงินเตรียมไว้ทุกรูปแบบ โดยช่วงแรกมาจากการแชทและต้องมาจัดการสั่งให้แต่ด้วยวิธีการดังกล่าวส่งผลให้ต้องเพิ่มคนซึ่งคิดว่าไม่ใช่แนวทางที่ดีของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ดังนั้นหันไปให้ความรู้ลูกค้าเพื่อให้เกิดการสั่งซื้อเข้ามาเอง ช่วงแรกมีติดขัดบ้างแต่ต้องตัดใจไม่รับเลยและสุดท้ายเดินหน้าต่อได้

“คนไทยแค่ไม่ชินกับการใช้งานบัตรเครดิต ดังนั้นต้องเข้าไปสนับสนุน ให้ความรู้ความเข้าใจ สุดท้ายจะกลายเป็นเรื่องที่ง่ายกับทุกฝ่าย และทุกวันนี้มีช่องทางการจ่ายเงินดิจิทัลเพิ่มเข้ามายิ่งเพิ่มความสะดวกมากขึ้น”

พร้อมระบุว่า คนไทยยังไม่เชื่อมั่นพร้อมเพย์ เป็นเรื่องต้องให้การศึกษา การสื่อสารประชาสัมพันธ์ที่มากขึ้น ส่วนของผู้ประกอบการทางการเงินหวังว่าจะเข้ามาช่วยสร้างความมั่นใจด้านซิเคียวริตี้เพื่อป้องกันการแฮก เพิ่มความเชื่อมั่น

พร้อมกับแนะว่า คนที่จะทำธุรกิจออนไลน์ขอให้เริ่มทำแบบจริงจัง ตลาดยังอีกกว้าง อย่าท้อ มีอะไรใหม่ๆ ก็ลองดู ปรับใช้ให้เหมาะกับตนเอง มีอะไรที่น่าสนใจอีกจำนวนมาก