ผู้ว่าฯตรังยันเอาผิดทุกคน เอี่ยวออก 'น.ส.3ก' มิชอบ

ผู้ว่าฯตรังยันเอาผิดทุกคน เอี่ยวออก 'น.ส.3ก' มิชอบ

"ศิริพัฒ" ผู้ว่าฯตรัง ยืนยันเอาผิดทุกคน หากพบมีการออก "น.ส.3 ก" ให้แก่นายทุนมิชอบ ทำให้รัฐเสียหาย-ประชาชนเดือดร้อน

นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้เรียกนายจักรี สุขุม เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดตรัง สาขากันตัง เข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับการสารบบที่ดิน ขั้นตอนการนำ ส.ค.1 จำนวน 11 ฉบับ พื้นที่หมู่ที่ 5 ต.วังวน อ.กันตัง จ.ตรัง เนื้อที่รวมประมาณ 100 ไร่เศษ ไปออกเป็น น.ส.3 เนื้อที่รวมกว่า 600 ไร่ เมื่อปี 2533 ให้แก่นายทุน จนทำให้ชาวบ้านออกมาร้องเรียนว่า การออกเอกสาร น.ส.3 ก ดังกล่าวมิชอบด้วยกฎหมาย เพราะทั้งทับที่ดินทำกินของชาวบ้าน รวมทั้งบินจำนวน 6 แปลง การบิน (คือ การนำเลขที่ส.ค.1 จากที่ตั้งจุดหนึ่ง ไปออกเป็น น.ส.3 ในอีกพื้นที่หนึ่ง) และบวม คือ เนื้อที่จริงตามเอกสาร ส.ค.1 ทั้ง 11 ฉบับ มีจำนวนเนื้อที่น้อยเพียงไม่กี่ไร่ แต่นำไปออกเป็น น.ส.3 ก เนื้อที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่า)พร้อมลงพื้นที่พบกับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน

โดยผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องตรวจสอบขั้นตอนรายละเอียดการนำ ส.ค.1 ไปออกเป็น น.ส.3 อย่างละเอียด ทุกขั้นตอนว่าถูกต้อง ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ทำให้รัฐเสียหาย และชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนหรือไม่ หากไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีใครเกี่ยวข้องด้วยกี่คน ทั้งเจ้าหน้าที่ที่ดิน เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ชาวบ้าน รวมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในขณะนั้น

หากพบใครมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด ยืนยันพร้อมจะดำเนินการเอาผิดทุกคน เพราะเท่าที่ได้ทำการตรวจสอบพบว่ายังไม่หมดอายุความ เพราะการนับว่าหมดอายุความหรือไม่ ไม่ได้เริ่มต้นจากการนำ ส.ค.1 ไปออกเป็น น.ส.3 ก ในปี 2533 แต่เริ่มนับจากที่มีชาวบ้านออกมาร้องเรียน มีการฟ้องร้องกันจนถึงศาล รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขตพื้นที่ 9 (ป.ป.ท.เขต 9) กอ.รมน ตรัง และเจ้าหน้าที่สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 4 (ภาคใต้) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้าทำการตรวจสอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ชี้มูลความผิดมา ก็พร้อมจะเอาผิดตามกฎหมายกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยไม่ละเว้น

ในส่วนของทางจังหวัด ก็จะนำเข้าสู่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ (กบร.) โดยจะพิจารณาตามข้อมูลหลักฐานที่ทางเจ้าหน้าที่ส่งมา ร่วมกับผลการแปรภาพถ่ายทางอากาศ ก็จะดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก ต่อไป ซึ่งหากเจ้าหน้าที่สรุปส่งมาทางจังหวัดจะใช้เวลาพิจารณาไม่นานก็สามารถจะมีมติได้ หากพบออกมิชอบด้วยกฎหมาย

ภาพ-pr.prd.go.th/trang