เกาะติดนวัตกรรม ‘ซัมซุง’ ดัน ‘ไอโอที’ พลิกโฉมอุตอิเล็กฯ

เกาะติดนวัตกรรม ‘ซัมซุง’  ดัน ‘ไอโอที’ พลิกโฉมอุตอิเล็กฯ

ซัมซุงใช้งบลงทุนมหาศาลสำหรับวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงเทคโนโลยีไอโอที

นอกจากมหกรรมแสดงสินค้าคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ครั้งใหญ่ระดับโลกงานอย่าง “ซีอีเอส” อีกหนึ่งงานที่คนไอที หรือแม้แต่ผู้บริโภคทั่วไปไม่ควรพลาด ยังมี “Samsung Southeast Asia and Oceania Forum 2017” งานแสดงนวัตกรรมระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย โดยค่าย “ซัมซุง” จากเกาหลีใต้

สำหรับปี 2560 ยักษ์อิเล็กทรอนิกส์ยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็น “เทรนด์ เซ็ตเตอร์” ของตลาด พร้อมพาเหรดสินค้าเทคโนโลยีใหม่ๆ มาเรียกเงินในกระเป๋า ที่น่าสนใจเห็นชัดเจนว่าพวกเขาต้องการเป็นตัวจริงในทุกสนาม รวมถึงเมกะเทรนด์อย่าง “ไอโอที” ที่กำลังมาแรงในทุกอุตสาหกรรม...

“นายโยง ซอง จอน” ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และโอเชียเนีย เผยว่า ซัมซุงได้ใช้งบการลงทุนจำนวนมหาศาลสำหรับวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์รวมถึงบริการเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ หรือ ไอโอที

ทั้งนี้ ครอบคลุมทั้งส่วนที่เป็นดีไวซ์ การบริการ และระบบที่อยู่ภายในเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ในแผนหลังจากนี้บริษัทเตรียมนำเสนอสินค้านวัตกรรมซึ่งออกแบบมาให้ตอบโจทย์ทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน การทำงาน และบันเทิง

“แม้ปี 2559 ซัมซุงต้องเผชิญความท้าทายมากมาย แต่บริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาสินค้าและบริการให้ดีขึ้น แน่นอนว่าปีนี้จะยิ่งทำให้ดีขึ้น สะดวกมากขึ้น และสมาร์ทยิ่งขึ้นกว่าเดิม”

รุ่นใหม่ลุยอาเซียน
ในงานดังกล่าวซัมซุงเปิดตัวสินค้าใหม่ สายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ไฮไลต์ประกอบด้วย สมาร์ททีวีซีรีส์ “คิวแอลอีดี (QLED)” ตู้เย็นไอโอที “แฟมิลีฮับ 2.0 (Family Hub 2.0)” เครื่องซักผ้าและอบผ้าแห้ง “เฟล็กซ์วอช (FlexWash)” เครื่องปรับอากาศเทคโนโลยีวินด์-ฟรี Wind-Free รวมถึงหุ่นยนต์ดูดฝุ่น “พาวเวอร์บ็อตวีอาร์ 7000 (POWERbot VR7000)” สำหรับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และและโอเชียเนียอย่างเป็นทางการ

ผู้บริหารซัมซุง บอกว่า คิวแอลอีดีทีวีใหม่ มาพร้อมการพัฒนาไปอีกขั้นของเทคโนโลยีควานตัมดอท (Quantum Dot) ภายใต้ซีรีส์คิว รุ่น คิว7 คิว8 และคิว9 ใหม่สามารถแสดงสีได้แม่นยำและถูกต้องในมุมและสภาพแวดล้อมที่แตกต่าง มีค่าความสว่างสูงถึง 1,500 ถึง 2,000 nits มากกว่านั้นแก้ปัญหาสายไฟและอุปกรณ์ต่อพ่วงที่ใช้สายเกะกะให้เหลือเพียงเส้นเดียว

นอกจากนี้ ยังมี “ซัมซุง สมาร์ท รีโมท” ที่สามารถควบคุมทุกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อทีวีได้จากรีโมทเดียว พร้อม “ซัมซุง สมาร์ท วิว แอพ (Samsung Smart View app)” ที่รองรับทั้งไอโอเอสและแอนดรอยด์ช่วยเพิ่มความสะดวกให้ผู้ใช้เข้าถึงอินเตอร์เฟสสมาร์ทฮับ ได้ง่าย ๆ ผ่านสมาร์ทโฟน

ส่วนตู้เย็นแฟมิลีฮับ 2.0 โดดเด่นด้วยระบบที่จะช่วยยกระดับการใช้งาน การจัดการอาหาร วางแผนการจัดการวัตถุดิบการติดต่อสื่อสารภายในครอบครัว รวมถึงชมคอนเทนท์บันเทิง การสั่งงานทำผ่านหน้าจอระบบสัมผัสด้านหน้าขนาด 21.5 นิ้ว เวอร์ชั่นใหม่นี้ยังรองรับการสั่งงานด้วยเสียงด้วย

ขณะที่ เครื่องซักผ้าและอบผ้า เฟล็กซ์วอช ผสานความสามารถระหว่างเครื่องซักผ้า 2 เครื่องกับเครื่องอบผ้า 1 เครื่องมาไว้ภายในระบบเดียว ด้านความสามารถออกแบบมาให้ช่วยลดเวลาในการซักผ้าให้เหลือเพียงครึ่งเดียวแต่ยังสามารถถนอมเนื้อผ้าได้ดี ซักและอบผ้าได้ได้โดยไม่จำเป็นต้องย้ายถัง ทั้งสามารถเลือกใช้งานได้แบบยืดหยุ่นตามปริมาณผ้าที่ซัก หรือหากต้องการซักผ้าประเภทที่ต้องทะนุถนอม

เปิดมิติใหม่ใช้งาน
ขณะที่เครื่องปรับอากาศสำหรับติดผนังวินด์-ฟรี เออาร์9500เอ็ม (AR9500M) มาพร้อมความพิเศษสามารถคงอุณหภูมิความเย็นในห้องโดยไม่มีลมเป่ากระทบตัวจนทำให้รู้สึกไม่สบาย สามารถควบคุมการเปิด ปิด ปรับอุณหภูมิได้โดยสมาร์ทโฟน

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นพาวเวอร์บ็อต ออกแบบให้มีรูปทรงกะทัดรัด สามารถทำความสะอาดได้แบบอัตโนมัติแม้จุดที่เข้าถึงยาก หรือแม้แต่มุมใกล้กำแพงระยะ 15 มิลลิเมตรจากกำแพง
นอกจากนี้ เพิ่มนำ้หนักการทำตลาดเกม ด้วยมอนิเตอร์ควอนตัมดอทแบบจอโค้งรุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเอาใจคอเกมโดยเฉพาะ โดยมีให้เลือก 2 ขนาด 27 และ 31.5 นิ้ว มาพร้อมการแสดงภาพคุณภาพสูง สดใส ด้วยหน้าจอมีค่าความโค้ง 1800อาร์ และมุมมองในการรับชมที่กว้างเป็นพิเศษถึง 178 องศายังช่วยให้ผู้ใช้มองเห็นได้ชัดเจนไม่ว่าจะอยู่ ณ จุดใดของห้อง

ซัมซุงต้องการเป็น “พาวเวอร์ฟูล เทคโนโลยี แพลตฟอร์ม” สนับสนุนทั้งการใช้งานเชิงคอนซูเมอร์ องค์กร รองรับการมาของไอโอที การเชื่อมโยงระหว่างอุปกรณ์ รวมไปถึงความต้องการใช้งานของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

สำหรับการดูแลลูกค้าหลังการขาย จะใช้ “มาย ซัมซุง” แอพพลิเคชั่น (mySamsung) ที่รองรับทั้งบนโมบายและเว็บไซต์ ช่วยอำนวยความสะดวกติดตั้ง ปรับแต่ง เสนอทริปแอนด์ทริค โปรโมชั่นอัพเดทแบบเฉพาะบุคคล พร้อมเตรียมช่องทางให้สามารถติดต่อกับพนักงานได้ง่ายที่สุด ปัจจุบันแอพดังกล่าวมีผู้ใช้งานกว่า 3 ล้านรายใน 9 ประเทศ มีการเข้าใช้งานไม่น้อยกว่า 20 ล้านครั้ง

กรุยทางไอโอที
“นางวรรณา สวัสดิกูล” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า จุดยืนซัมซุงมุ่งเป็นเทรนด์เซ็ตเตอร์ของตลาด โฟกัสกับการนำเทคโนโลยีเข้าไปช่วยแก้ปัญหาการใช้งาน พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่

จากนี้ผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่เกือบทั้งหมดของบริษัทจะมีสมาร์ทฟังก์ชั่นรองรับ ส่วนไอโอทีที่เต็มรูปแบบกว่านี้จะเริ่มได้เห็นช่วงปี 2561 เป็นต้นไป ประเมินภาพรวมทั้งของตลาดและของซัมซุงขณะนี้ยังเป็นช่วงของการเริ่มต้น และยังประเมินได้ยากว่าไอโอทีจะบูมไทยแบบจริงจังเมื่อใด

อย่างไรก็ดี แนวทางธุรกิจในระยะแรกนี้จะเน้นสมาร์ทฟังก์ชั่นที่ช่วยเรื่องการประหยัดพร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสอดคล้องไปกับเทรนด์ในตลาดโลกซึ่งมีนวัตกรรมใหม่เข้ามาหลากหลาย และที่มาแรงคือการเชื่อมต่อ สามารถควบคุมได้โดยเครื่องควบคุมเดียว ใช้งานได้แบบไร้รอยต่อ

อีกโจทย์สำคัญคือทำอย่างไรให้ลูกค้ารู้สึกว่าจำเป็นต้องใช้งาน การสร้างการรับรู้ในเรื่องนี้ต้องเน้นทำให้ลูกค้าได้ทดลอง มีประสบการณ์กับตัวสินค้า แค่ให้อ่านคงไม่เกิดผลมากนัก
โดยปีนี้จะเน้นใช้สื่อดิจิทัล เลือกเข้าไปแบบตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ขณะที่สมาร์ทโฟนที่มีปัญหาคาดว่าคงไม่มีผลกับความน่าเชื่อถือในการทำตลาดสินค้าอื่นๆ ของบริษัท

มั่นใจตลาดไทยเปิดรับ
ซัมซุงมองความความพร้อมตลาดไทยว่า เป็นประเทศที่พร้อมเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ แต่ทั้งนี้ยังต้องช่วยกันให้ความรู้ตลาด อันดับแรกเรื่องสมาร์ทฟังก์ชั่น เพื่อเตรียมความพร้อมการมาของไอโอที

หลังจากนี้ ซัมซุงมีเป้าหมายพัฒนาให้มีการเติบโตไปทั้งอีโคซิสเต็มส์ โดยพร้อมทำงานร่วมกันพันธมิตรด้านคอนเทนท์ เช่นอนาคตเป็นไปได้ด้วยว่าจะร่วมมือกับผู้ค้าของชำที่มีบริการส่งถึงบ้าน ส่วนการแข่งขันนโยบายของบริษัทจะเน้นเรื่องคุณภาพ ไม่เน้นเข้าไปแข่งด้านราคา

สำหรับกำหนดการวางตลาดอย่างเป็นทางการของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เปิดตัวดังกล่าวในไทย ขณะนี้เริ่มจำหน่ายเครื่องปรับอากาศวินด์ฟรีแล้ว ส่วนที่เหลือจะทยอยวางตลาดตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ มีแผนทำตลาดบริการ “มาย ซัมซุง” อย่างเป็นรูปธรรมตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไปเช่นกัน และเป็นไปได้ที่ต่อไปจะเข้าไปอยู่กับทุกสินค้าของซัมซุง

“การทำตลาดสมัยนี้จะเน้นแข่งแค่ตัวผลิตภัณฑ์อย่างเดียวไม่ได้ การจะอยู่รอดได้ต้องมีบริการรวมถึงบริการหลังการขายที่ดี ที่เรากำลังเร่งดำเนินการคือดูว่าอะไรที่ผู้บริโภคไทยต้องการมากที่สุด เชื่อว่าซัมซุงจะสามารถเข้ามาเปลี่ยนเกมการนำเสนอสินค้า ทำให้การใช้งานเทคโนโลยีใกล้ตัวผู้บริโภคมากขึ้นได้”

ปัจจุบัน บริษัทครองอันดับ 1 ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านในประเทศไทยติดต่อกันมา 9 ปี เฉพาะทีวีครองอันดับ 1 มา 11 ปีซ้อนทั้งในตลาดโลกและไทย