โซเชียลล่าเบนซ์หรู ชนจยย.สองตายายล้มเจ็บ ไม่รับผิดชอบ

โซเชียลล่าเบนซ์หรู ชนจยย.สองตายายล้มเจ็บ ไม่รับผิดชอบ

โลกโซเชี่ยลแห่แชร์คลิปกล้องหน้ารถ จับภาพรถเบนซ์สีดำ เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์สองตายายล้มบาดเจ็บ ขับหนีไม่ยอมช่วยเหลือ

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 เป็นภาพจากกล้องหน้ารถสามารถจับภาพรถเบนซ์สีดำ ขับเบียดชนรถจักรยานยนต์ที่มีสองตายายขับซ้อนกันมาจนล้มลง แล้วหนีไปโดยไม่ยอมจอดรถช่วยเหลือ โดยมีข้อความระบุว่า "เหตุเกิดวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 เวลาประมาณ 15.20 น. บริเวณ ถ.เลียบทางรถไฟ จาก ถ.เก้ากิโล ไป ถ.ศรีราชา-หนองยายบู่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มีรถเบนซ์ สีดำเบียดชนรถจักรยานยนต์ เป็นเหตุให้ล้ม และขับหนีไป ทำให้มีผู้รับบาดเจ็บ 2 คน คือคุณพ่อของผมอายุ 78 ปี ล้มหมดสติ ณ ที่เกิดเหตุ มีบาดแผลตามร่างกาย และฟอกชำตามบริเวณใบหน้าหลายจุด และแม่ผมบาดเจ็บแผลถลอกเล็กน้อย รถจักรยานยนต์พ่อผมไม่มี พรบ.จึงไม่ได้รับเงินค่าประกันใดๆ ต้องออกค่ารักษาพยาบาลเองทั้งหมด ซึ่งปัจจุบัน ได้ทำเรื่องค้างค่าใช้จ่าย กับทาง รพ.สมเด็จฯ ศรีราชาไว้ รถจักรยานยนต์ ก็ได้รับความเสียหาย พังเก็บไว้ในที่เก็บของกลาง ดีที่ขับตามมานะครับ ต้องขอบคุณ คุณก้านมากๆ ที่ได้ภาพเหตุการณ์นี้ไว้”

ล่าสุด มีผู้เข้ามาชมคลิปนี้กว่า 1.3 ล้านครั้งแล้ว และมีชาวโซเชี่ยลเข้ามาแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์กันจำนวนมาก ด้านนายสุวิชา จันทร์ปลั่ง ลูกชายของนายสุกิจ จันทร์ปลั่ง ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุ ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ศรีราชา จังหวัดชลบุรีแล้ว พร้อมนำหลักฐานจากกล้องหน้าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ติดตามตัวเจ้าของรถ หมายเลขทะเบียน กง 3000 ชลบุรี ที่เห็นจากกล้องหน้ารถ ซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ แต่รถคันที่เอามาเป็น รถเบนซ์ สีเทา หมายเลขทะเบียน กง 3000 ชลบุรี มาแสดงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดู จึงไม่ใช่คันที่เห็นในคลิปดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ปล่อยตัวไป แต่เจ้าของรถยนต์คันดังกล่าวยังมอบเงินช่วยเหลือกับครอบครัวผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอีก 5,000 บาทเป็นสินน้ำใจให้อีกด้วย

สำหรับอาการบาดเจ็บของ นายสุกิจ จันทร์ปลั่ง ล่าสุดสามารถกลับมาพักรักษาตัวที่บ้านได้แล้ว โดยมีการอาการฟกช้ำ แผลถลอก ตามแขน ขา และใบหน้า ส่วนคุณแม่ไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก จึงอยากวอนขอให้สังคมออนไลน์ช่วยกันตามหารถเบนซ์ที่ชน ให้มีน้ำใจ มารับผิดชอบบ้าง เนื่องรถจักรยานยนต์ของคุณพ่อ ไม่มี พรบ.ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอง และตอนนี้ก็ยังค้างค่ารักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลอยู่จำนวนหนึ่ง