“มูลนิธิมหาราช” จับมือ “ฟาบริเนท" มอบโอกาสทำงานให้เยาวชน

 “มูลนิธิมหาราช” จับมือ “ฟาบริเนท" มอบโอกาสทำงานให้เยาวชน

สถานสงเคราะห์เยาวชนมูลนิธิมหาราช ทำMOU กับ บ.ฟาบริเนท มอบงานให้เยาวชนในมูลนิธิฯ ที่จบการศึกษาเข้าำงานกับ บริษัทฯ

     เป็นโอกาสดีสำหรับเยาวชนในสถานสงเคราะห์เยาวชนมูลนิธิมหาราช ที่เมื่อไม่นานมานี้ทางมูลนิธิ ได้ทำพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ บริษัท ฟาบริเนท จำกัด ผู้นำด้านการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ออฟติกไฟเบอร์ อุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์เซ็นเซอร์ยานยนต์ชั้นนำของโลก รับเยาวชนภายใต้มูลนิธิฯ ที่จบการศึกษาเข้าทำงานกับบริษัทฯ เพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสให้ได้มีงานทำ

    โดยมีนายวิทัศน์ เตชะบุญ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายคมสรร รักแก้ว ผู้ปกครองสถานสงเคราะห์เยาวชนมูลนิธิมหาราช ตลอดจนผู้มีเกียรติเป็นสักขีพยาน

     มร.ทอม มิเชล (David “Tom” Mitchell) ประธานจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟาบริเนท จำกัด เผยว่า เยาวชน คือ ทรัพยากรบุคคลที่สำคัญยิ่ง หากเขาได้รับการอบรมดูแลที่ดี ได้รับการศึกษา และอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ก็จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ แต่หากเยาวชนอยู่ในกลุ่มเสี่ยง คือ มาจากครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ ครอบครัวทอดทิ้ง หรือเป็นเด็กกำพร้า ย่อมขาดโอกาสที่จะมีคุณภาพชีวิต การศึกษา และโอกาสทางสังคม อันจะส่งผลให้สังคมขาดทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ ที่จะร่วมพัฒนาสังคมประเทศชาติไปด้วย

     สถานสงเคราะห์เยาวชนมูลนิธิมหาราช จัดตั้งขึ้นเนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 3 รอบ 5 ธันวาคม 2506 จัดสร้างบ้านพักเด็กแบบ “คอตเตจ” (COTTAGE) จำนวน 20 หลัง ทั้งยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานชื่อบ้านพักเด็กทั้ง 20 หลัง เริ่มเปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2508 โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2508สถาน     สงเคราะห์ฯ ดังกล่าว มีเนื้อที่ 180 ไร่เศษ เดิมสังกัดกองสงเคราะห์เด็กและบุคคลวัยรุ่น กรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงมหาดไทย ปัจจุบัน สังกัดกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

    การหยิบยื่นโอกาสให้แก่คนด้อยโอกาส แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับใครบางคน แต่สำหรับพวกเขาเหล่านี้แล้วนี่คือความหวังและแรงผลักดันในการดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างแข็งแรง และจะกลายมาเป็นอีกหนึ่งกลุ่มคนที่พร้อมจะยื่นสิ่งๆ ดีแบบนี้เพื่อตอบแทนสังคมเช่นกัน